เห็นการกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีกของ ลีดส์ ยูไนเต็ด แล้วทำให้นึกถึงซีซั่นแรก 1992-93 เพราะยังมีอีกหลายสโมสรที่ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ในลีกล่าง
ฤดูกาลแรกของพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ครองความยิ่งใหญ่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในชื่อดิวิชั่น 1 เป็นสโมสรสุดท้ายในฤดูกาล 1991-92 จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ได้ชูโทรฟี่พรีเมียร์ลีกหนแรก และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1967
แล้วคู่แข่งลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซีซั่นแรกเป็นทีมใด?
นอริช ซิตี้, แอสตัน วิลล่า และมี แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส จบอยู่ในท็อป 5
นกขมิ้นเหลืองอ่อน โกยแต้มนำจ่าฝูงห่างถึง 8 คะแนนในช่วงต้นเดือนธันวาคม แต่หลังจากนั้นผลงานก็ค่อยๆ รูดลง ประกอบกับฟอร์มที่สม่ำเสมอของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้สุดท้าย ผีแดง จบซีซั่นด้วยการมีแต้มทิ้งห่างอันดับสอง แอสตัน วิลล่า ถึง 10 คะแนน ปล่อยให้ นอริช หล่นไปจบอันดับสาม
กลับสู่โลกยุคปัจจุบัน มีถึง 10 สโมสรที่ไม่ได้โลดแล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีกเวลานี้ บางสโมสรยังมีลุ้นเลื่อนชั้นกลับมา บางสโมสรยังต้องรอโอกาสอีกพักใหญ่ และบางสโมสรก็ไม่มีโอกาสที่จะกลับมาอีกแล้ว
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
หากจะพูดถึงสโมสรที่สร้างปรากฏการณ์ในพรีเมียร์ลีก แน่นอน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส คือสโมสรแรกที่ทำได้ หลังจากเลื่อนชั้นในฤดูกาล 1991-92 ในฐานะทีมอันดับ 6 ที่ชนะในรอบชิงเพลย์ออฟ จากนั้นก็ก้าวขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกและจบอันดับ 4 ซีซั่นแรก ก่อนลุ้นแชมป์เต็มตัวและจบอันดับ 2 ซีซั่นต่อมา
ฤดูกาล 1994-95 คือปีที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร กับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในยุคที่มี อลัน เชียเรอร์, คริส ซัตตัน, ทิม เชอร์วูด เป็นตัวชูโรง
แต่หลังจากนั้น กุหลาบไฟ ก็ยืนระยะได้ไม่นาน และตกชั้นในฤดูกาล 1998-99 ซีซั่นที่ดาวซัลโวของสโมสร เควิน กัลลาเกอร์ กับ แอชลี่ย์ วอร์ด ยิงแค่ 5 ประตูเท่านั้น
แบล็คเบิร์น ใช้เวลาสองปีกลับคืนพรีเมียร์ลีก และยืนหยัดอยู่อีก 11 ซีซั่น ก่อนหล่นชั้นอีกครั้งในปี 2012 และครั้งนี้ถือเป็นวิกฤติของสโมสรที่นอกจากจะไม่ใกล้เคียงกับการเลื่อนชั้นแล้ว ยังตกชั้นสู่ลีกวันอีกในปี 2017 ยังดีที่ใช้เวลาแค่ฤดูกาลเดียวกลับสู่แชมเปี้ยนชิพอีกครั้ง
แต่ดูแล้ว แบล็คเบิร์น คงต้องใช้เวลาสร้างทีมอีกพักใหญ่ กว่าจะกลับคืนพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง
วิมเบิลดัน
'เดอะ ดอนส์' หรือ 'เครซี่ แก๊ง' คือนิคเนมของ วิมเบิลดัน ฟุตบอล คลับ สมาชิก 1 ใน 22 ทีมในฤดูกาลแรกของพรีเมียร์ลีก ในยุคที่สร้างชื่อขึ้นมาโดยมี จอห์น ฟาชานู, วินนี่ โจนส์, ร็อบบี้ เอิร์ล และการย้ายมาซีซั่นแรกของ ดีน โฮลด์สเวิร์ธ เป็นดาวเด่นของทีม
วิมเบิลดัน แข็งแกร่งพอที่จะเอาตัวรอดจบกลางตารางมาได้ 5 ฤดูกาล หลังจากนั้นก็ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นตั้งแต่ฤดูกาล 1997-98, 1998-99 และสุดท้ายก็ไม่รอดในซีซั่น 1999-00
ปัญหาของทีมไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในสนามเท่านั้น นอกสนามก็เจอปัญหาเรื่องการย้ายถิ่นฐานด้วย เมื่อสโมสรประกาศความตั้งใจที่จะออกเดินทาง 90 กิโลเมตรสู่ มิลตัน คีนส์ แต่เจอเสียงคัดค้านจากแฟนบอลจำนวนมาก
ในที่สุด สมาคมฟุตบอลก็รับรองการย้ายสู่ มิลตัน คีนส์ ในปี 2003 และเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น มิลตัน คีนส์ ดอนส์ ในปีต่อมา ขณะเดียวกันก็มีการยกเลิกที่จะใช้ประวัติศาสตร์ร่วมกับสโมสร วิมเบิลดัน ในปี 2007
ขณะที่กลุ่มแฟนบอล 'เดอะ ดอนส์' ที่ไม่พอใจ ก็รวมตัวกันก่อตั้งสโมสรใหม่ขึ้นมาในปี 2002 โดยมีเจตนารมณ์ที่จะใช้ชื่อเดิมคือ วิมเบิลดัน แต่ต้องเปลี่ยนจาก วิมเบิลดัน เอฟซี มาเป็น เอเอฟซี วิมเบิลดัน และใช้เวลา 9 ปี ก้าวขึ้นสู่ฟุตบอลลีกอังกฤษในศึกลีกทู
ปัจจุบันความคลาสสิกเกิดขึ้น เมื่อทั้ง มิลตัน คีนส์ ดอนส์ และ เอเอฟซี วิมเบิลดัน เล่นอยู่ในลีกวัน และซีซั่น 2019-20 ก็รอดตกชั้นกันทั้งคู่ในอันดับ 19 และ 20
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
คิวพีอาร์ ก้าวเข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีกพร้อมกับฟอร์มการถล่มประตูอันร้อนแรงของ เลส เฟอร์ดินานด์ ที่ผนึกกำลังร่วมกับ แบร๊ดลี่ย์ อัลเลน, แอนดี้ ซินตัน และ แอนดรูว์ อิมปีย์
และการย้ายทีมของ เฟอร์ดินานด์ ไป นิวคาสเซิ่ล ในปี 1995 ก็ส่งผลมหาศาลต่อ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ที่้ต้องตกชั้นในปีต่อมา เท่านั้นไม่พอ หลังจากนั้น 5 ปี ทหารเสือราชินี ก็ร่วงอีกขั้นลงสู่ดิวิชั่น 2 หรือ ลีกวัน ปัจจุบัน
ควีนส์ปาร์ค ใช้เวลาสามฤดูกาลถึงเลื่อนชั้นกลับขึ้นสู่ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2004 และช่วงเวลาสำคัญก็เกิดขึ้นในอีก 7 ปีต่อมา เมื่อ นีล วอร์น็อค พาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกในฐานะแชมเปี้ยน ในช่วงเวลาที่มี อาเดล ทารับต์ กับ ไฮดาร์ เฮลกูสัน เป็นความหวังของทีม
การยืนระยะไม่ได้คือปัญหาสำคัญของ คิวพีอาร์ เพราะหลังจากตกชั้นในอีกสองปีต่อมา แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ พาทีมเลื่อนชั้นกลับมาใหม่ แต่เพียงปีเดียวก็หล่นลงสู่ แชมเปี้ยนชิพ และคราวนี้อยู่ยาวมา 5 ฤดูกาลแล้ว กำลังจะเข้าสู่ซีซั่นที่ 6 ในฤดูกาลหน้า
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่ พรีเมียร์ลีก ยังคงไกลเกินกว่าที่ ควีนส์ปาร์ค จะเอื้อมถึง
โคเวนทรี ซิตี้
การขายศูนย์หน้าตัวหลักอย่าง เควิน กัลลาเกอร์ ไปให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในราคาสูงถึง 1.5 ล้านปอนด์ กลายเป็นตัวเลขที่ โคเวนทรี ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้มีความเสี่ยงสูงสำหรับฤดูกาลแรกในยุคพรีเมียร์ลีก
มิคกี้ ควินน์ ย้ายสวนทางมาจาก นิวคาสเซิ่ล และผนึกกำลังในแดนหน้าคู่กับ ปีเตอร์ เอ็นเลิฟ ได้อย่างลงตัว ทำให้ โคเวนทรี สามารถยืนหยัดอยู่ในพรีเมียร์ลีก แม้กระท่อนกระแท่นต้องหนีตกชั้นอยู่หลายฤดูกาล
การมาของ ดิออน ดับลิน จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1994, จอห์น ซาลาโก้ จาก คริสตัล พาเลซ ในปี 1995 และ ดาร์เรน ฮัคเคอร์บี้ จาก นิวคาสเซิ่ล ในปี 1996 ทำให้ โคเวนทรี กลายเป็นทีมที่เอกลักษณ์ในการเข้าทำ และซีซั่น 1997-98 ดับลิน ก็สร้างชื่อด้วยการคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก
แต่ฝันร้ายของ โคเวนทรี ก็มาถึงในปี 2001 เมื่อต้องตกชั้นสู่ดิวิชั่น 1 หรือ แชมเปี้ยนชิพ ปัจจุบัน เป็นการร่วงจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีแค่ ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน และ อาร์เซน่อล ที่ยืนหยัดอยู่ในลีกสูงสุดมานานกว่า
ที่หนักกว่านั้นคือการหล่นลงสู่ ลีกวัน ในปี 2012 เป็นครั้งแรกที่ โคเวนทรี ตกลงไปอยู่ระดับดิวิชั่น 3 ครั้งแรกในรอบ 48 ปี และยังมีแย่กว่านั้นอีกคือการตกสู่ ลีกทู ปี 2017 เป็นการเล่นอยู่ในดิวิชั่น 4 ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1959
ยังดีที่ โคเวนทรี ใช้เวลาปีเดียวกลับขึ้นสู่ ลีกวัน ได้ และซีซั่นนี้ก็ครองแชมป์ ลีกวัน ก้าวเท้ากลับขึ้นสู่ แชมเปี้ยนชิพ เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี เหลืออีกขั้นเดียวก็จะกลับสู่ พรีเมียร์ลีก แล้ว
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์
เดวิด เฮิร์สท์, คริส วอดเดิ้ล, มาร์ค ไบรท์, จอห์น เชอริแดน คือขุนพลของ เทรเวอร์ ฟรานซิส ในยุคเริ่มต้นพรีเมียร์ลีก เป็นฤดูกาลที่ เว้นส์เดย์ จบอันดับ 7 พรีเมียร์ลีก และในบอลถ้วยทั้งสองรายการผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ไปแพ้ต่อ อาร์เซน่อล ทั้ง เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ
เว้นส์เดย์ ยังคงยืดหยัดอยู่ในพรีเมียร์ลีก และเปลี่ยนโฉมทีมให้เป็นที่น่าจับตามองในเกมรุก ด้วยการดึงสองดาวเตะอิตาเลียน เบนิโต้ คาร์โบเน่ กับ เปาโล ดิ คานิโอ เข้ามาสร้างสีสัน และกลายเป็นดาวดังของพรีเมียร์ลีก
แต่การขาย ดิ คานิโอ กับ คาร์โบเน่ ออกจากทีมในสองช่วงตลาดซื้อขายของปี 1999 คือหายนะของทีม นกเค้าแมว อย่างแท้จริง เพราะการมาใหม่ของ ชิลล์ส เดอ บิลด์ กับ เคราลด์ ซิบง ไม่อาจทดแทนได้ และทีมต้องตกชั้นทันทีในปีต่อมา
จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ฤดูกาลแล้วที่ เว้นส์เดย์ ไม่สามารถกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีกได้ มิหนำซ้ำ ยังลงไปสัมผัสเกมดิวิชั่น 2 หรือ ลีกวัน ถึงสองครั้ง ในปี 2003 และ 2010 และหลังจากกลับขึ้นสู่ แชมเปี้ยนชิพ มาเป็นเวลา 8 ฤดูกาล พวกเขาใกล้เคียงกับการเลื่อนชั้นสองครั้งในปี 2016 และ 2017 แต่ก็ไปไม่ถึงแชมป์ในรอบเพลย์ออฟ
*ติดตามตอนต่อไป