:::     :::

แขวนสตั๊ดปี2020(ตอน1)

วันเสาร์ที่ 01 สิงหาคม 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,952
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ช่วงปิดฉากฤดูกาลตามเวลาฟุตบอลยุโรป หรือช่วงซัมเมอร์ มักจะเป็นช่วงเวลาที่มีนักเตะตัดสินใจยุติเส้นทางอาชีพค้าแข้ง หรือแขวนสตั๊ด และปี 2020 ก็มีเยอะทีเดียว

บางคนแขวนสตั๊ดในวัยที่เหมาะสม นั่นคือตัวเลขราวๆ 35 ปี แต่บางคนก็ลากยาวไปจนถึงอายุ 40 ขึ้นอยู่กับสภาพความฟิต และเชื้อไฟที่ยังลุกโชนอยู่ในร่างกาย

ไปดูกันว่าในปี 2020 ปีที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก ผ่านไปแล้ว 7 เดือน มีใครตัดสินใจแขวนสตั๊ดกันบ้าง คัดมาเฉพาะนักเตะที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักเท่านั้น
มิลาน บารอส
อดีตศูนย์หน้าทีมชาติเช็ก ที่หลายคนสงสัยว่าป่านนี้แล้วยังเล่นฟุตบอลอยู่อีกเหรอ?
ในอดีต บารอส แจ้งเกิดกับ บานิค ออสตราว่า ก่อนย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2002 และอยู่ในทีมชุดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2004-05 ซีซั่นที่ศูนย์หน้าหมายเลข 5 ทำผลงานได้ดีที่สุดกับ หงส์แดง 13 ประตูจาก 45 เกมรวมทุกรายการ หลังจากก่อนหน้านั้นเพิ่งคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ ยูโร 2004
บารอส ออกพเนจรไปทั่ว ก่อนกลับมาอยู่กับ บานิ ออสตราว่า สโมสรแรกของตัวเองเป็นรอบที่ 4 และเป็นรอบสุดท้ายเมื่อปี 2017 ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดหลังจบซีซั่นในวัน 38 ปี
บรูโน่ โซเรียโน่
กลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ยืนยันการเป็น 'วัน-คลับ แมน' ไปเรียบร้อย หลังประกาศแขวนสตั๊ดกับ บียาร์เรอัล สโมสรเดียวในอาชีพนักฟุตบอล ตอนจบฤดูกาลนี้ในวัย 36 ปี
กองกลางกัปตันทีม บียาร์เรอัล เป็นตัวหลักของสโมสรมาโดยตลอดนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2007 แม้ในช่วงที่ต้องตกชั้นในปี 2012 โซเรียโน่ ก็ไม่ทิ้งทีมไปไหน และใช้เวลาปีเดียวในการกลับคืนสู่ลาลีกา
โชคร้ายของมิดฟิลด์เท้าซ้ายที่ต้องเผชิญอาการบาดเจ็บครั้งเลวร้ายที่ทำให้ต้องพักยาวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2017 ก่อนกลับคืนสนามได้ในซีซั่นนี้หลังจากรีสตาร์ท เป็นการลงเล่น 7 เกมสุดท้ายก่อนแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ ปิดฉาก 424 เกมกับ เดอะ เยลโล่ ซับมารีนส์
อันเดร เชือร์เล่อ
กลายเป็นข่าวที่ช็อกแฟนบอลเยอรมัน เมื่อทราบว่า เชือร์เล่อ เลือกที่จะแขวนสตั๊ดเพราะอาการบาดเจ็บ
ด้วยวัยเพียง 29 ปี เส้นทางสายนักฟุตบอลของ เชือร์เล่อ ยังน่าจะมีอีกอย่างน้อยๆ 3-4 ปี แต่ภายหลังจากทำข้อตกลงยกเลิกสัญญาที่เหลืออีกหนึ่งปีกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้เพียงวันดียว อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนี ก็ประกาศการแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ
ในอดีต เชือร์เล่อ แจ้งเกิดกับ ไมนซ์ แล้วไปฉายแสงที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จนเตะตา เชลซี ซื้อร่วมทัพปี 2013 แต่ถือว่าล้มเหลวในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จนต้องกลับบุนเดสลีกาเพื่อมาเรียกฟอร์มเก่งกับ โวล์ฟสบวร์ก
จากนั้นก็ย้ายเข้ารัง ดอร์ทมุนด์ แต่ผลงานไม่ดีอย่างที่คาดหวัง จนต้องปล่อยให้ ฟูแล่ม กับ สปาร์ตัก มอสโก ยืมใช้งานระหว่างสองฤดูกาลสุดท้าย
มิเล่ เยดินัค
อดีตกองกลางทีมชาติออสเตรเลีย ก้าวเข้าสู่ลีกยุโรปกับ เกนเคลอร์เบียร์ลิจี้ ในลีกตุรกี จากนั้นก็มาเล่นในอังกฤษกับ คริสตัล พาเลซ ตั้งแต่ปี 2011 และมาอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ในปี 2016
หลังจากพา วิลล่า เลื่อนชั้นกลับพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2018-19 เยดินัค ก็หมดสัญญากลายเป็นฟรีเอเยนต์ กระทั่งเดือนมีนาคมปี 2020 ก็รับบทบาทใหม่โค้ชทีมเยาวชนของ สิงห์ผงาด
อย่างไรก็ตาม ถัดจากนั้นสองเดือน เจ้าตัวเผยยังไม่แขวนสตั๊ด และยังอยากลงเล่นต่อ แต่ให้หลังอีกเดือนเดียว ก็เปลี่ยนใจปัดข้อเสนอของสโมสรในเอลีก บ้านเกิด ยืนยันการยุติอาชีพนักฟุตบอลในวัย 35 ปี
มาริโอ โกเมซ
นับตั้งแต่ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของ สตุ๊ตการ์ท ในปี 2003 โกเมซ ต้องเผชิญทั้งเสียงชื่นชมและเสียงวิจารณ์ ยามแบกความกดดันในชุดทีมชาติเยอรมนี ที่เคยโดนโห่จากแฟนบอลทีมตัวเองมาแล้วในศึกยูโร 2008
ความสำเร็จในช่วงพีคสุดเกิดขึ้นที่ บาเยิร์น มิวนิค ระหว่างปี 2009-2013 ที่ซัลโวกระจาย 113 ประตูจาก 174 เกม มีส่วนสำคัญพาทีมครองดับเบิ้ลแชมป์ บุนเดสลีกา - เดเอฟเบ โพคาล ซีซั่นแรก 2009-10 และเทรเบิ้ลแชมป์ บุนเดสลีกา - เดเอฟเบ โพคาล - ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2012-13
โกเมซ ออกไปผจญภัยกับ ฟิออเรนตินา และ เบซิคตัส ก่อนกลับเยอรมนีมาอยู่ โวล์ฟสบวร์ก และคืนรังแรก สตุ๊ตการ์ท ในช่วงต้นปี 2018 ตกชั้นกับทีมซีซั่นที่แล้ว แต่ซีซั่นนี้ลงเล่นเกมสุดท้ายคือการฉลองเลื่อนชั้นกลับบุนเดสลีกา
โลอิก แปร์กแร็ง
อีกหนึ่ง 'วัน-คลับ แมน' ที่อยู่กับ แซงต์-เอเตียน มาตั้งแต่ปี 1997 ลงรับใช้ทีมชุดใหญ่หนแรกในปี 2003 และปิดฉากด้วยการแขวนสตั๊ดกลายเป็นตำนานของสโมสรในปี 2020
ความสำเร็จเดียวของ แปร์กแร็ง กับ แซงต์-เอเตียน คือการคว้าแชมป์ เฟร้นช์ลีกคัพ ฤดูกาล 2012-13 จากการลงสนามทั้งหมด 470 เกมใน 17 ฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม การอำลาสนามเกมสุดท้ายในวัย 34 ปี จบลงแบบไม่น่าจดจำนัก เพราะ แปร์กแร็ง โดนใบแดงตั้งแต่ครึ่งแรกของเกม เฟร้นช์คัพ ที่ แซงต์-เอเตียน แพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง 0-1 จากจังหวะเสียบหนักใส่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จนคู่แข่งบาดเจ็บหนัก
*ติดตามตอนต่อไป

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด