ฤดูกาลที่แล้ว ผลงานของสามทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก ไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ก่อนเริ่มต้นซีซั่น ซึ่งเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆ ฤดูกาล
การตกชั้นอย่างง่ายดายของ แชมเปี้ยน นอริช ซิตี้, การอยู่รอดปลอดภัยสบายๆ แถมยังแอบลุ้นพื้นที่ยุโรปของรองแชมป์ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และการรอดตายแบบหวุดหวิดในวันสุดท้ายของ แอสตัน วิลล่า ที่ตีตั๋วขึ้นมาในฐานะแชมป์เพลย์ออฟ
แสดงให้เห็นว่า สำหรับทีมน้องใหม่หรือทีมเล็กๆ ฟุตบอลที่ขับเคลื่อนเกมรุกกันแบบสวยงาม ไม่อาจสู้ฟุตบอลที่เหนียวแน่นและแข็งแกร่ง หากหวังจะยืนหยัดอยู่ในพรีเมียร์ลีก
แล้วสามทีมน้องใหม่ของฤดูกาล 2020-21 มีจุดแข็งจุดอ่อนหรือมีอาวุธเด็ดเรียกร้องความสนใจในพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้าได้มากน้อยเพียงไหน?
ลีดส์ ยูไนเต็ด
ความบอบช้ำทางจิตใจจากฤดูกาล 2018-19 ที่ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า สมควรพา ลีดส์ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ตั้งแต่ซีซั่นก่อนแล้ว ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังที่ขับเคลื่อนให้ ยูงทอง กลับมาอย่างแข็งแกร่ง
บิเอลซ่า เปลี่ยน ลีดส์ จากทีมที่เล่นเกมรุกสวยงาม และเน้นยิงเป็นกอบเป็นกำ ให้กลายเป็นทีมที่เหนียวแน่นและเล่นเพื่อผลการแข่งขัน นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เดอะ พีค็อกส์ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกสำเร็จในรอบ 16 ปี
การเซ็นสัญญายืมตัว เบน ไวท์ เซนเตอร์แบ็กมาจาก ไบรท์ตัน และ เอลแดร์ คอสต้า ปีกมาจาก วูลฟ์แฮมป์ตัน คือสองการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของฤดูกาลที่แล้ว ที่ทำให้ ลีดส์ กลายเป็นทีมที่แกร่งขึ้นกว่าซีซั่นก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ ลีดส์ ที่ บิเอลซ่า มองเห็นได้ชัดจากการคุมทีมมาสองฤดูกาลคือขนาดทีมที่เล็กเกินไป เล็กเกินกว่าที่จะต่อกรในพรีเมียร์ลีกได้
ดังนั้นการเสริมทัพจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อันดับแรกเลยคือการซื้อขาดตัวยืม เอลแดร์ คอสต้า กับ อิลล็อง เมสลีเยร์ ผู้รักษาประตูที่มายึดมือหนึ่งจาก กีโก้ กาซีย่า ในช่วงท้ายของฤดูกาล และขยายสัญญายืมตัว แจ๊ค แฮร์ริสัน ปีกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่มอีกหนึ่งฤดูกาล
แต่ความหวังในการมี ไวท์ เป็นหัวใจในแนวรับต่อไปคงเป็นเรื่องยาก เพราะ ไบรท์ตัน ต้องการเก็บไว้ใช้งานเองในฤดูกาลหน้า
แม้ บิเอลซ่า ไม่เคยมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมาก่อน แต่ไม่น่าจะใช่ปัญหา เพราะประสบการณ์จากลีกอื่นๆ ท่วมท้นมากพอ บวกกับการเรียนรู้ฟุตบอลอังกฤษมาแล้วสองฤดูกาลในแชมเปี้ยนชิพ
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลที่แล้วคือการดึง สลาเวน บีลิช โค้ชชาวโครแอตเข้ามาคุมทัพ และเพียงปีเดียว เดอะ แบ๊กกี้ส์ ก็ได้กลับคืนพรีเมียร์ลีก หลังเพิ่งตกชั้นมาในปี 2018
บีลิช ก้าวเข้ามาพร้อมกับการเสริมทัพที่ดี อาทิ มาเตอุส เปเรร่า, เกรดี้ เดียนกาน่า, โรเมน ซอว์เยอร์ส, เซมี่ อาจายี่ ที่ล้วนเข้ามาเป็นตัวหลักของทีมทั้งหมด พลิกโฉมหน้าของทีมจากซีซั่น 2018-19 โดยสิ้นเชิง
เมื่อ บีลิช ได้สร้างทีมจากความต้องการของตนเอง ทุกอย่างก็ลงล็อก เวสต์บรอมวิช ตีคู่กับ ลีดส์ เป็นสองทีมเต็งที่ลุ้นเลื่อนชั้นมาเกือบตลอดทั้งฤดูกาล แต่มาสะดุดหลังจากรีสตาร์ท ทำให้เกือบเสียอันดับสองไปให้ เบรนท์ฟอร์ด และ ฟูแล่ม ที่จ่อตูดมาติดๆ จนถึงเกมสุดท้าย
มาเตอุส มิดฟิลด์ตัวรุกบราซิล คือขวัญใจแฟนบอลและคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรประจำฤดูกาลที่แล้ว และเงื่อนไขการเปลี่ยนสัญญายืมตัวเป็นสัญญาถาวรก็เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายน
ส่วนคนอื่นๆ เดียนกาน่า, ฟิลิป โครวิโนวิช, คัลลัม โรบินสัน เวสต์บรอม และ บีลิช ต้องตัดสินใจร่วมกันว่าจะยื่นข้อเสนอซื้อขาดหรือยืมต่อหรือไม่
เพราะหากวัดผลงานในช่วงท้ายฤดูกาลที่ เวสต์บรอม ออกทะเล จนเกือบไม่ได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติ ทีมของ บีลิช ยังไม่ดีพอที่จะต่อกรในพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้าอย่างแน่นอน แม้กุนซือชาวโครแอตเคยมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกกับ เวสต์แฮม มาก่อน แต่ก็อาจช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
ฟูแล่ม
ตั๋วใบสุดท้ายก้าวขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก ถูกคาดหมายว่ามีโอกาสเป็นของ เบรนท์ฟอร์ด มากกว่า แต่สุดท้ายทีมของ สกอตต์ พาร์เกอร์ ก็ปล่อยทีเด็ดในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟ ที่ เวมบลีย์
การตัดสินใจของ ชาฮิด คาน ประธานสโมสร ที่เลือก พาร์เกอร์ คุมทีมถาวรก่อนเริ่มฤดูกาล 2019-20 กลายเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แม้มีความเสี่ยงสูงในเรื่องประสบการณ์ที่อดีตมิดฟิลด์ที่ยุติเส้นทางค้าแข้งกับ ฟูแล่ม ไม่เคยคุมทีมแบบฟูลไทม์มาก่อน
การเสริมทัพของ พาร์เกอร์ เป็นการสร้างแนวรุกขึ้นใหม่ จากการยืม อีวาน คาวาเลยโร่, อ็องโตนี่ น็อกการ์ต, บ็อบบี้ รีด และแดนกลาง แฮร์ริสัน รีด กับ แฮร์รี่ อาร์เทอร์ และซื้อขาด จอช โอโนมาห์ กับ ไมเคิ่ล เฮคเตอร์
ขนาดทีมของ ฟูแล่ม ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เหมือนเป็นการสร้างทีมแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า แต่เผอิญว่าทุกอย่างลงล็อค ประกอบกับฟอร์มการถล่มประตูอันร้อนแรงของ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่จบซีซั่นด้วยการยิง 26 ประตูเป็นดาวซัลโวร่วมกับ โอลลี่ วัตกิ้นส ของ เบรนท์ฟอร์ด
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ฟูแล่ม จะจับ คาวาเลยโร่, บ็อบบี้ รีด และ น็อกการ์ต เซ็นสัญญาถาวรตั้งแต่เนิ่นๆ กันทั้งหมดแล้ว แนวรุกที่จะใช้ต่อกรในพรีเมียร์ลีกจึงเป็นสามคนนี้บวกกับ มิโตรวิช และปีกที่มาโชว์ฟอร์มโหดในช่วงท้าย นีสเคนส์ เคบาโน่
ถามว่าพร้อมไหมสำหรับการลุยพรีเมียร์ลีก แดนกลางและแนวรับยังคงเป็นปัญหาที่ ฟูแล่ม ต้องเสริมทัพอีก ยิ่งเกิดมรสุมนักเตะบาดเจ็บระหว่างฤดูกาลขึ้นมา มีหวังผลงานของ พาร์เกอร์ ได้ออกทะเลแน่
จากสามทีมน้องใหม่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นทีมที่มีความหวังในการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด และไม่น่าจะเลียนแบบ นอริช เมื่อฤดูกาลที่แล้ว