บอกตามตรง รู้สึกประหลาดใจและผิดหวังไม่น้อยกับการตัดสินใจของ โจ ฮาร์ท ในการเลือกสโมสรใหม่ นับตั้งแต่ออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สองปีก่อน
โจ ฮาร์ท กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไม่เคยมีข่าวมีคราวกันมาก่อน อันที่จริง อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ เงียบเชียบมาตลอดบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้งที่กลายเป็นฟรีเอเจนท์ หรือไร้สังกัดมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมแล้ว
ดังนั้นเมื่อข่าวปรากฏพรวดเดียวว่า ฮาร์ท กำลังเดินทางมาตรวจร่างกายที่ ฮ็อทสเปอร์ เวย์ สนามซ้อมของ ท็อตแน่ม จึงสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ ไก่เดือยทอง และทีมอื่นๆ ไม่น้อยทีเดียว
ทำไม ฮาร์ท ถึงเลือกเซ็นสัญญากับ ท็อตแน่ม? ทั้งที่มีหลายทางเลือกให้พิจารณา
คำถามนี้คงต้องย้อนกลับไปถามตั้งแต่สองปีก่อนแล้วว่า ทำไม ฮาร์ท ถึงเลือกเซ็นสัญญากับ เบิร์นลี่ย์? ทั้งที่มีสองผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติอังกฤษ ทอม ฮีตัน กับ นิค โพ๊ป ยืนขวางทางอยู่
แต่ก่อนจะคาดเดาคำตอบของทั้งสองคำถาม ขอย้อนกลับไปเอ่ยถึงจุดเริ่มต้นและความสำเร็จของ ฮาร์ท กว่าจะก้าวมาเป็นมือหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติอังกฤษ
เด็กหนุ่มจากทีมนอกลีก ชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี และขยับขึ้นเป็นมือ 1 ในอีก 2 ปีต่อมา ซึ่งตอนนั้นทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกทูแล้ว และได้รับการโหวตให้เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของลีกทูซีซั่น 2005-06
นั่นคือจุดเริ่มต้นการฉายแสงของดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่ตอนนั้นมีดีกรีทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-19 ค้ำคออยู่ด้วย จึงถูกแมวมองของหลายสโมสรพรีเมียร์ลีกจับตามองแทบจะทุกเกมที่ลงเฝ้าเสา
และผู้ชนะในการเซ็นสัญญาคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เจียดเงินเบาๆ 1.5 ล้านปอนด์ในปี 2006 ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ ทิม ฟลาวเวอร์ส อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 1994-95 ที่ตอนนั้นทำหน้าที่โค้ชผู้รักษาประตูของ เรือใบสีฟ้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ สจ๊วร์ต เพียร์ซ กำลังมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่มาทำหน้าที่ต่อจาก เดวิด เจมส์ ที่อายุอานามตอนนั้นปาเข้าไป 36 ปีแล้ว
แต่ ฮาร์ท ไม่ใช่ผู้รักษาประตูคนเดียวที่ย้ายเข้าสู่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม ในช่วงซัมเมอร์ปี 2006 เพราะยังมี อันเดรียส อิซัคส์สัน ดีกรีทีมชาติสวีเดน ย้ายมาจาก แรนส์ ในภายหลัง
แม้ อิซัคส์สัน ถูกวางให้เป็นมือหนึ่งคนใหม่ แต่เล่นไปเล่นมา เพียร์ซ กลับต้องใช้งาน นิคกี้ วีฟเวอร์ ที่ซีซั่นก่อนหน้านั้นนั่งสำรอง เจมส์
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ ฮาร์ท เริ่มต้นในฤดูกาล 2007-08 จากการมาของผู้จัดการทีมคนใหม่ สเวน โกรัน เอริคส์สัน ภายใต้การบริหารของเจ้าของสโมสรใหม่เช่นกัน
ฮาร์ท ถูกเลือกเป็นมือหนึ่งเหนือ อิซัคส์สัน และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ดาวรุ่งจากทีมเยาวชนที่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เป็นปีที่สาม
ช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องถึงจุดสิ้นสุด เพราะการมาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฮดโค้ชคนใหม่ ที่อยากเห็นผู้รักษาประตูเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี ตามแบบฉบับ 'สวีปเปอร์-คีปเปอร์'
โตริโน่ กับ เวสต์แฮม จึงเป็นสองสโมสรที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่ง ฮาร์ท ไปเล่นในสัญญายืมตัว ก่อนตัดสินใจขายขาดในปี 2018 ปิดฉากช่วงเวลา 12 ปีในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยความทรงจำที่ดี กับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฐานะมือ 1 ยุคของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ฤดูกาล 2011-12 และยุคของ มานูเอล เปเยกรินี่ ฤดูกาล 2013-14
การตัดสินใจเลือก เบิร์นลี่ย์ ที่ยอมจ่ายค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ และเสนอสัญญาสองปีให้ ถือเป็นการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงสูง และท้าทายเกินไป เพราะอย่างที่เกริ่นไปว่าตอนนั้น ชอน ไดช์ กำลังมีสองประตูฝีมือดี ฮีตัน กับ โพ๊ป ที่จูงมือกันติดทีมชาติอังกฤษทั้งคู่ และเขี่ย ฮาร์ท หลุดจากทีมชุดเวิลด์คัพ 2018 แท้ๆ
การเซ็นสัญญาของ เบิร์นลี่ย์ เหตุผลคืออาการบาดเจ็บในช่วงก่อนเริ่มต้นฤดูกาลของทั้ง ฮีตัน และ โพ๊ป ที่ทำให้เหลือแค่มือสาม อันเดอร์ส ลินเดการ์ด คนเดียว ดังนั้นการมาของ ฮาร์ท จึงการันตีโอกาสลงเฝ้าเสาในช่วงต้นฤดูกาล 2018-19 แน่ๆ จนกว่าจะมีคนใดคนหนึ่งหายเจ็บกลับมา
ฮาร์ท ลงเฝ้าเสาให้ เดอะ คลาเรตส์ ไป 21 เกม หลังจากนั้น ฮีตัน ฟิตกลับมาก่อน จึงทวงตำแหน่งมือหนึ่งคืน ก่อนที่ โพ๊ป จะทะยอยกลับมาอีกคนในช่วงท้ายฤดูกาล
ซีซั่นถัดมา กลายเป็นอีกหนึ่งปีที่ชีวิตของ ฮาร์ท ตกต่ำดำดิ่งสุดๆ กับการนั่งสำรอง โพ๊ป ตลอดทั้งฤดูกาล โดยได้ลงเล่นเพียงสามเกมในบอลถ้วย และไม่ได้รับสัญญาใหม่ แม้แต่การขยายสัญญาระยะสั้นออกไปจนจบซีซั่น (เพราะเหตุโควิด-19) ก็ยังไม่มีให้เห็น
การเลือกเซ็นสัญญากับ เบิร์นลี่ย์ จึงสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดและล้มเหลว
ด้วยวัยเพียง 33 ปี สำหรับผู้รักษาประตูที่ยังสามารถเล่นได้อีก 6-7 ปีแบบสบายๆ ฮาร์ท น่าจะเลือกสโมสรใหม่โดยให้น้ำหนักเรื่องโอกาสลงสนามมาเป็นอันดับแรก
แต่ ฮาร์ท ก็ยังเลือก ท็อตแน่ม ที่มี อูโก้ โยริส เป็นมือหนึ่งกัปตันทีม และ เปาโล กัซซานิกา เป็นมือสอง
เหตุผลที่ ท็อตแน่ม เลือกเซ็น ฮาร์ท ทั้งที่ไม่มีปัญหาในตำแหน่งนี้ เป็นเพราะต้องการเพิ่มโควต้า 'โฮมโกรว์น' ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังประสบปัญหาอยู่
ส่วนเหตุผลที่ ฮาร์ท เลือก ท็อตแน่ม อาจเป็นเพราะการได้กลับสู่สโมสรใหญ่ในกลุ่ม 'บิ๊ก6' หรือ ความท้าทายในการแย่งตำแหน่งกับสองประตูฝีมือดี อะไรทำนองนั้น
แต่ที่แน่ๆ หาก โยริส กับ กัซซานิกา ไม่ได้มีปัญหาบาดเจ็บหรือติดโทษแบนพร้อมๆ กัน คงได้เห็น ฮาร์ท ลงเฝ้าเสาแค่ในเกม คาราบาวคัพ แหงๆ