การเลือกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่ปรากฏเมื่อวันอังคาร มีหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ แต่อาจถูกกลบด้วยเรื่องของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซะหมด
การไม่มีแมทช์แข่งขันนานเกือบๆ 10 เดือน ทำให้หลายคนลืมไปแล้วว่าเกมสุดท้ายที่ลงสนามของอังกฤษ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ คำตอบคือเกมบุกชนะ โคโซโว 4-0 ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2019
ย้อนกลับไปอีกหน่อย คือเกมเปิด เวมบลีย์ ถล่ม มอนเตนโกร 7-0 และบุกถล่ม บัลแกเรีย ที่ โซเฟีย 6-0
17 ประตูจาก 3 เกม และคลีนชีตทั้งหมดด้วย ถือเป็นผลงานที่กำลังยอดเยี่ยมสุดๆ ของ เซาธ์เกต กับ ทรี ไลออนส์ น่าเสียดายที่ต้องมาดับเครื่องยาวจากช่วงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับโควิด-19 และตอนนี้ต้องมาสตาร์ทเพื่อวอร์มเครื่องกันใหม่
จากรายชื่อ 24 คนที่ประกาศออกมา แล้วถูกลดเหลือ 23 เพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมา จากประเด็นของ แม็กไกวร์ ที่เกริ่นนำไปแล้ว ยังคงมีอีกหลากหลายประเด็นให้พูดถึงและวิเคราะห์ หนึ่งในนั้นคือการไม่ปรากฏรายชื่อแบ็กซ้าย
น่าแปลกใจที่จากรายชื่อ 23 คน ไม่มีแบ็กซ้ายเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้บางทีเรียกมาถึงสามด้วยซ้ำ เพราะตัวเลือกที่เคยมีอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็น แดนนี่ โรส, ลุค ชอว์, เบน ชิลเวลล์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ เป็นต้น
อย่างที่ทราบกันดี อาการบาดเจ็บของ ชิลเวลล์ กับ ชอว์ ทำให้ไม่มีชื่อในทีมชาติ และนั่นแสดงให้เห็นว่า เซาธ์เกต ก็ไม่ได้ชายตามอง โรส กับ เบอร์ทรานด์ สองแบ็กซ้ายที่มีรูปร่างคล้ายๆ กัน คือเตี้ยๆ ตันๆ อีกต่อไปแล้ว
แล้ว บูคาโย่ ซาก้า ละ?
ชื่อของดาวรุ่งจากค่าย อาร์เซน่อล ถูกจับตามองว่าจะก้าวขึ้นสู่ทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว แต่เงียบหายไปก่อนเพราะโปรแกรมถูกยกเลิกเนื่องจากโควิด-19
แล้วทำไมตอนนี้ เซาธ์เกต ก็ยังไม่เรียกประเดิมชุดใหญ่ในวัย 18
"ผมรู้สึกว่าเขามีความเป็นนักเตะเกมรุกมากกว่า ผมรู้ว่าเขาเล่นแบ็กซ้ายได้ และเขาจะมีการสนับสนุนเกมรุกที่ดีอย่างแน่นอน" เซาธ์เกต ชี้แจงประเด็น ซาก้า
"ผมรู้ว่าเขาเล่นกองกลางก็ได้ ปีกขวาก็ได้ เขาเป็นนักเตะที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก แต่มันยังเร็วเกินไปสำหรับเขา เขาคือนักเตะที่เราชอบนะ และเรายังคงจับตามองอย่างใกล้ชิด"
"ผมคิดว่าในเคส ฟิล โฟเด้น เขาก็อดทนรอจนได้รับโอกาส และเราก็ต้องใช้เวลากับเรื่องนั้น"
"ใช่ ซาก้า มีฤดูกาลที่ดีมากๆ กับ อาร์เซน่อล เขาไม่อยู่ในทีมช่วงท้ายๆ แต่เขามีฤดูกาลที่ดีในแง่ของความก้าวหน้า และเขาจะถูกจับตามองจากเราไม่ห่างไปไหนแน่นอน"
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เซาธ์เกต จะแก้ปัญหาแบ็กซ้ายอย่างไร?
สามแบ็กขวาที่มีอยู่ ไคล์ วอล์คเกอร์, คีแรน ทริปเปียร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทบไม่มีใครถูกจับยืนแบ็กซ้ายจำเป็นกับต้นสังกัดของตัวเองทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แอตเลติโก มาดริด, ลิเวอร์พูล เลย
เซนเตอร์แบ็กเท้าซ้ายอย่าง ไทโรน มิงส์ ก็พอเล่นไหว เพราะเคยมีประสบการณ์มาบ้าง แต่จะให้แบกส่วนสูงที่ขาดอีก 4 เซนติเมตรจะครบ 200 ก็ดูจะกระไรๆ อยู่ ขณะที่ โจ โกเมซ ก็เคยเล่นฝั่งซ้ายให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาแล้ว
อันที่จริง ก่อนจะมานั่งคิดว่า เซาธ์เกต จะใช้ใครเล่นแบ็กซ้าย ต้องมาวิเคราะห์กันก่อนว่าระบบการเล่นของผู้จัดการทีมวาสนาดีจะใช้ 4-3-3, 4-2-3-1, 3-4-3 หรือ 3-5-2
ในที่นี้ขอแยกเป็นสองระบบ ระหว่างใช้แบ็กโฟร์ กับแบ็กทรีโดยมีสองวิงแบ็ก
ตามความเห็นส่วนตัว จากรายชื่อกองหลังทั้ง 7 คน ที่มี เซนเตอร์แบ็ก 4 คน (หนึ่งในนั้นคือ เอริค ดายเออร์ ที่พร้อมเล่นกองกลางตัวรับด้วย) และแบ็กขวา 3 คน จึงน่าเชื่อว่า เซาธ์เกต น่าจะใช้แบบหลังมากกว่า
มีโอกาสไม่น้อยที่จะได้เห็น มิงส์ เป็นหนึ่งในสามปราการหลังที่ยืนฝั่งซ้าย ดังนั้นเท้าซ้ายธรรมชาติที่เหลืออยู่ในทีมจึงมีแค่สองคนคือ ฟิล โฟเด้น กับ เมสัน กรีนวูด สองดาวรุ่งที่เพิ่งถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต
นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ เซาธ์เกต จะต้องมานั่งแก้ไขเหมือนการคุมสโมสรยามเผชิญปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แต่ เซาธ์เกต คิดแผนการในใจเอาไว้อยู่แล้วก่อนประกาศรายชื่อออกมาว่าจะให้ใครเล่นตำแหน่งไหน
ดังนั้นคนที่มีโอกาสยืนวิงแบ็กฝั่งซ้ายคงจะเป็น โฟเด้น ที่แม้กับต้นสังกัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ถูก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จับมีบทบาทในเกมรุกมากกว่าแดนกลาง
แต่หากย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ตอนที่ โฟเด้น ได้ประเดิมสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ เรือใบสีฟ้า ดาวรุ่งที่ตอนนั้นอายุ 17 ถูก เป๊ป จับยืนวิงแบ็กซ้าย เหมือนอย่างที่หลายๆ คนเคยโดนมาแล้ว ดังนั้นประสบการณ์ตรงนี้ โฟเด้น ยังมีติดตัวอยู่
ท้ายสุดแล้ว เซาธ์เกต จะใช้ระบบการเล่นแบบใด จับใครยืนแบ็กซ้าย ต้องรอติดตามในเกมเยือน ไอซ์แลนด์ วันที่ 5 กันยายน และเยือน เดนมาร์ก วันที่ 8 กันยายน ซึ่งเป็นเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ทั้งสองนัด