:::     :::

การเดินทางของ อาเก้

วันเสาร์ที่ 05 กันยายน 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
3,021
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"ผมพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าผมมีความสามารถพอที่จะเล่นในระดับสูงสุดได้ และผมก็ชอบความท้าทาย"

แม้การย้ายทีมของ นาธาน อาเก้ ถูกมองว่าเป็นเพียงความต้องการเพิ่มโควต้า 'โฮมโกรว์น' ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่สำหรับกองหลังดัตช์ ไม่เห็นต้องแคร์เรื่องนั้น

สิ่งที่ อาเก้ ต้องใส่ใจมากที่สุด คือการทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนค่าตัวมหาศาล 40 ล้านปอนด์ ที่ถูกมองว่าเป็นตัวเลขที่สูงเกินฝีเท้าจริง
การเริ่มต้นฟุตบอลอาชีพในช่วงวัยรุ่นของ อาเก้ ไม่เป็นอย่างที่ปรารถนา แม้ถูก เชลซี ดึงตัวจาก เฟเยนูร์ด ในวัย 16 ปี เพื่อมาเข้าสังกัดทีมเยาวชน และได้ประเดิมทีมชุดใหญ่ในปีต่อมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาของ ราฟาเอล เบนีเตซ กุนซือชั่วคราวในฤดูกาล 2012-13 โดยลงเล่นไป 6 เกมรวมทุกรายการ
แต่หลังจากนั้น เชลซี ที่ต้องการความสำเร็จอย่างแรงกล้า ทุ่มเงินเสริมทัพมากมาย ทำให้ อาเก้ กลายเป็นดาวรุ่งที่ถูกลืม ถูกปล่อยยืมไปเล่นกับ เร้ดดิ้ง, วัตฟอร์ด และ บอร์นมัธ ทั้งในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ (รอบสอง), กุส ฮิดดิ้งค์ และ อันโตนิโอ คอนเต้
และขายขาดให้ บอร์นมัธ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ค่าตัวไม่เบาทีเดียว 20 ล้านปอนด์ กลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน
อาเก้ เป็นตัวหลักในถิ่น ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม มาโดยตลอด จนมีข่าวว่า เชลซี ต้องการใช้เงื่อนไขซื้อตัวกลับ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงแค่ข่าวโคมลอยเท่านั้น แม้ในช่วงเวลาปัจจุบันของเฮดโค้ช แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลุกปั้นดาวรุ่ง และให้โอกาสนักเตะที่สโมสรสร้างขึ้นมาจากทีมเยาวชนหลายต่อหลายคน
แม้ บอร์นมัธ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019-20 แต่ อาเก้ เป็นเพียงหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนในทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่ยังได้รับการจับตามอง และเมื่อมีข้อเสนอจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นเข้ามาในราคามหาศาล 40 ล้านปอนด์ เพียงพอที่จะทำให้ เดอะ เชอรี่ส์ ตอบรับแต่โดยดี กองหลังดัตช์จึงไม่ต้องคิดอะไรมาก
"ผมไม่ได้เซ็นสัญญากับ ซิตี้ โดยคิดว่าผมจะต้องฉีกหน้าพวกที่วิจารณ์ทุกคน"
"ผมพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าผมมีความสามารถพอที่จะเล่นในระดับสูงสุดได้ และผมก็ชอบความท้าทาย"
"ผมแสดงให้เห็นมาตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก เล่นกับทีมในบ้านเกิดของผมที่เมืองฮาก ผมย้ายไป ร็อทเทอร์ดัม ร่วมทีม เฟเยนูร์ด และผมก็แสดงให้เห็นอีกตอนย้ายมา เชลซี"
"ผมต้องทำงานอย่างหนักมากเพื่อก้าวไปถึงจุดสูงสุด และผมรู้ว่าผมทำได้แล้ว"
"ผมยังทำตามความฝันของตัวเองอีกอย่างคือการเล่นให้กับทีมชาติฮอลแลนด์ด้วย" ปราการหลังวัย 25 ปี ที่ลงเล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายในชัยชนะของ ฮอลแลนด์ เหนือ โปแลนด์ 1-0 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก วันที่ 4 กันยายน กล่าว
แม้เคยได้ยินข่าวคราวมาบ้าง เรื่องที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการเสริมนักเตะในโควต้า 'โฮมโกรว์น' แต่เมื่อ อาเก้ ได้รับข้อเสนอจาก เรือใบสีฟ้า และได้พูดคุยกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทุกอย่างเหมือนฝันที่กลายเป็นจริงขึ้นมาทันที
"ผมต้องหยิกแขนตัวเอง ผมคิดว่า นี่มันเรื่องจริงเหรอ?"
"ตอนที่ผมได้ยินข่าวว่าพวกเขาต้องการผมไปเล่นที่ แมนเชสเตอร์ ผมตกใจมาก"
"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลก และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็คือหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน"
"ผมคุยกับ กวาร์ดิโอล่า อย่างราบรื่น ทุกอย่างลงตัวไปหมด แนวทางที่ ซิตี้ เล่นก็เหมาะกับแนวทางของผม"
"ผมเคยเผชิญหน้ากับพวกเขามาแล้วหลายต่อหลายคน ผมรู้ดีว่ามันหนักแค่ไหนในการต้องรับมือพวกเขา"
จากนี้ไป อาเก้ จะต้องพิสูจน์ตัวเองในด่านต่อไป กับสโมสรใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เชื่อว่าตอนนี้ เป๊ป เตรียมแผนการเอาไว้ในหัวแล้วว่าจะมอบบทบาทไหนให้ปราการหลังชาวดัตช์ในฤดูกาล 2020-21
อย่างน้อยๆ อาเก้ มีประสบการณ์ในเวทีพรีเมียร์ลีก ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวเยอะเหมือนนักเตะที่ย้ายมาจากต่างแดน
และอาจกลายเป็นทีเด็ดกลับมาเล่นงานต้นสังกัดเก่า เชลซี เหมือนอย่างที่ เควิน เดอ บรอยน์ ทำมาแล้ว

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด