แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะก้าวขึ้นมามีบทบาทในทีม เชลซี ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตราบใดที่ยังมี เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กับ รีซ เจมส์ ยืนขวางหน้าอยู่
นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เชลซี ตัดสินใจขาย ทาริก แลมพ์ตีย์ และ แลมพ์ตีย์ ก็เลือก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน เป็นสโมสรที่จะแจ้งเกิด มากกว่าการย้ายออกไปเล่นต่างแดน
แลมพ์ตีย์ เกิดในครอบครัวชาวกานา ที่อพยพมาอยู่ในอังกฤษ โดยถือกำเนิดในฮิลลิงดอน กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 30 กันยายน ปี 2000 พอดิบพอดี
ความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ บวกกับการสนับสนุนของครอบครัว ทำให้ แลมพ์ตีย์ เข้ามาอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร เชลซี ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ
เส้นทางกับทีมเยาวชนชุดต่างๆ ของ สิงโตน้ำเงิน ใช้เวลายาวนานถึง 11 ปี กว่าจะกรุยทางขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในช่วงเวลาที่มี แลมพาร์ด เป็นเฮดโค้ช ซึ่งถือเป็นโชคดีสำหรับนักเตะดาวรุ่งทุกคน
ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า ถูกโละกลับอิตาลี ขณะที่ ดูจอน สเตอร์ลิง ถูกส่งไปหาประสบการณ์ในลีกรอง เหลือไว้เพียง เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันทีม แต่โชคไม่ดีของ แลมพ์ตีย์ เพราะยังมี รีซ เจมส์ รุ่นพี่หนึ่งปี ที่ไประเบิดฟอร์มกับ วีแกน แอธเลติก ในแชมเปี้ยนชิพ ซีซั่น 2018-19 จน แลมพาร์ด ต้องเรียกใช้งานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ช่วงกลางซีซั่นที่แล้ว แลมพ์ตีย์ ได้ประเดิมสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญกับ อาร์เซน่อล ในฐานะตัวสำรองแทน ฟิคาโย่ โทโมรี่ ในนาที 59 และกลายเป็นดาวรุ่งจากทีมเยาวชนรายที่ 7 ที่ได้รับโอกาสจาก แลมพาร์ด ต่อจาก เมสัน เมาท์, บิลลี่ กิลมอร์, รีซ เจมส์, มาร์ค เกอี, ตีโน่ อันโจริน และ เอียน มาทเซ่น
วันสุดท้ายของตลาดซื้อขายเดือนมกราคม 31 ม.ค. 2000 แลมพ์ตีย์ จึงตัดสินใจย้ายไป ไบรท์ตัน หลังจาก เชลซี ตอบรับข้อเสนอจำนวน 3 ล้านปอนด์
นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ เชลซี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการตัดสินใจที่ไม่มีทางเลือกมากนัก หลังจาก แลมพ์ตีย์ ปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่ที่มีค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
โจวานนี่ กูลโล่ แมวมองมากประสบการณ์ที่เคยเห็นแววเด่นของ ซีเนดีน ซีดาน, ดีดีเย่ร์ เดส์ชองส์, โคล้ด มาเกเลเล่, ปาทริค วิเอร่า ยอมรับว่าตนเองเห็นบางอย่างในตัว แลมพ์ตีย์ ตั้งแต่สามปีก่อน ขณะเข้าไปดูเกมที่ ค็อบแฮม สนามซ้อมของ เชลซี ในเกมที่ทีมเยาวชนเล่นกับ อาร์เซน่อล
แต่น่าเสียดายที่ กูลโล่ ไม่สามารถดึงดูด แลมพ์ตีย์ ไปร่วมทีม นีซ เพราะนักเตะเลือก ไบรท์ตัน
"ผมเห็นเขาตอนอายุ 16 ผมนึกถึงนักเตะคนหนึ่งขึ้นมาทันที เขาเหมือนกันมาก แต่เล่นคนละตำแหน่ง ตอนที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มเหมือนกัน ซามูเอล เอโต้"
"ผมเห็น ซามูเอล เอโต้ ตอนที่เขาอายุ 14 ในศูนย์ฝึกเยาวชน บราสซีรี่ส์ อาคาเดมี่ ในแคเมอรูน เขา (แลมพ์ตีย์) สร้างความประทับใจให้ผมได้เหมือนกันเป๊ะๆ โว้ว"
"เร็ว คล่อง ว้าว ว้าว ผมบอกเลยว่า "โอเค จับตาดูเจ้าหนูรายนี้ได้เลย" สภาพร่างกายเขาไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก เพราะเขาไม่ใช่แบ็กขวาร่างใหญ่ แต่เขาคือลูกระเบิด มีพละกำลังมหาศาล"
"เขาแสดงให้ผมเห็นว่าเขาสามารถสร้างความแตกต่างได้ เมื่อคุณเห็นนักเตะลักษณะนี้ คุณคิดว่า ว้าว เจ้าเด็กคนนี้มันมีของ"
"มันน่าผิดหวัง เมื่อคุณมองเห็นนักเตะ แต่ไม่สามารถดึงตัวร่วมทีมได้ ผมผิดหวังนิดหน่อย ที่ไม่ได้เขามาร่วมทีม เพราะผมคิดว่ามีโอกาสงามๆ แล้ว แต่ก็เขาประสบความสำเร็จ"
ด้วยส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 5 นิ้ว หรือราวๆ 164 เซนติเมตร แลมพ์ตีย์ อาจเจอปัญหาในจังหวะตั้งรับลูกกลางอากาศ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการเติมเกมรุกแล้ว ทุกคนคงได้เห็นผลงานจากสามเกมแรกของพรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่ ที่เติมขึ้นมาเรียกจุดโทษได้ถึงสองครั้ง และยังสร้างสรรค์โอกาสอีกนับครั้งไม่ถ้วน
ถึงตอนนี้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ทาริก แลมพ์ตีย์ จะเป็นดาวรุ่งอนาคตไกลที่น่าจับตามองในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และอนาคตทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่รออยู่อีกไม่ไกล