นับตั้งแต่การออกสตาร์ตสวยๆ ในฤดูกาล 2016-17 แฟนๆ เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่เคยได้วาดฝันถึงการมีซีซั่นที่สวยงามอีกเลย จนมาถึงการเริ่มต้นฤดูกาล 2020-21
ย้อนกลับไป 4 ปีที่แล้ว เอฟเวอร์ตัน ภายใต้เจ้าของใหม่ปีแรกของ ฟาร์ฮัด โมชิรี่ นักธุรกิจเชื้อสายอิหร่าน ตั้งเป้าหมายที่จะท้าทายบรรดา 'บิ๊กซิกซ์' หลังจากการทาบทาม โรนัลด์ คูมัน มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่
ตามด้วยการเสริมทัพอย่างหนักหน่วง อาทิ ยานนิค โบลาซี่ 22.5 ล้านปอนด์, มอร์กาน ชไนเดอร์ลิน 20 ล้านปอนด์, แอชลี่ย์ วิลเลียมส์ 9 ล้านปอนด์, อาเดโมล่า ลุคแมน 7.5 ล้านปอนด์, อิดริสซ่า เกย์ 7.1 ล้านปอนด์, เอนเนร์ วาเลนเซีย ยืมตัว
และซัมเมอร์ปีนั้นก็มีการดึง โดมินิก คัลเวิร์ท-ลูอิน มาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แบบเงียบๆ 1.5 ล้านปอนด์
เอฟเวอร์ตัน เริ่มซีซั่นเหมือนฝัน หลังจากเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-1 ในเกมแรก ก็ชนะ 4 เกมติดต่อกันเหนือ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน, สโต๊ค ซิตี้, ซันเดอร์แลนด์ และ มิดเดิลสโบรช์ เหตุผลสำคัญคือโปรแกรมเบาที่เป็นใจให้ด้วย
ซีซั่นถัดมา 2017-18 โมชิรี่ อัดฉีดงบประมาณให้บอร์ดบริหารเสริมทัพหนักหน่วงขึ้น อาทิ กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน 40 ล้านปอนด์, เชงค์ โตซุน 27.5 ล้านปอนด์, จอร์แดน พิคฟอร์ด กับ ไมเคิ่ล คีน คนละ 25 ล้านปอนด์, ดาวี่ คลาสเซ่น 23.6 ล้านปอนด์, ธีโอ วัลค็อตต์ 20 ล้านปอนด์ เป็นต้น
แต่โปรแกรมในช่วงต้นซีซั่นที่แตกต่างจากปีก่อน หลังจากเริ่มต้นชนะ สโต๊ค ซิตี้ และบุกเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุกอย่างดูสวยงาม แต่ด้วยโปรแกรมโหด พวกเขาแพ้ เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเกมศูนย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่พอรับได้ในระดับหนึ่ง
แต่เกมสำคัญในบ้านที่ต้องชนะเพื่อเรียกความมั่นใจ คูมัน กลับพาทีมแพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-1 ต่อด้วยการบุกเสมอ ไบรท์ตัน 1-1 และสุดท้ายก็โดนไล่ออกหลังจบเกมแพ้ เอฟเวอร์ตัน 2-5
การมาใหม่ของกุนซือ มาร์โก ซิลวา ในฤดูกาล 2018-19 เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้นไม่สวย ชนะเกมเดียวจาก 6 เกมแรก แต่สุดท้ายโค้ชชาวโปรตุกีสก็พาทีมจบอันดับ 8 ของตาราง ถือว่าใกล้เคียงกับเป้าหมาย
แต่เรื่องราวต่างๆ กลับเกิดขึ้นคล้ายๆ กับตอน คูมัน เพราะซีซั่นที่สอง ซิลวา พาทีมแพ้ถึง 6 เกมจาก 10 เกมแรก และหลังจากแพ้สามเกมติดๆ ต่อ นอริช, เลสเตอร์ และ ลิเวอร์พูล ในช่วงต้นเดือนธันวาคม อดีตกุนซือ วัตฟอร์ด จึงตกงานตามระเบียบ
หลังจากนั้น เอฟเวอร์ตัน ก็ได้เฮดโค้ชคนใหม่ คาร์โล อันเชล็อตติ เข้ามาคุมทีมเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม
การเสริมทัพที่น่าสนใจก่อนเริ่มต้นซีซั่น 2020-21 อาทิ ฮาเมส โรดริเกซ, อับดูลาย ดูคูเร่, อัลลัน สร้างความแข็งแกร่งในแดนหน้าให้ อันเชล็อตติ ได้มาก ขณะที่แดนหน้าวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะใช้ ริชาร์ลีซอน กับ คัลเวิร์ท-ลูอิน ดาวซัลโวร่วมของทีมจากซีซั่นก่อน
เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยการคว้าชัยชนะทั้งหมด 7 เกมแรก ทั้งพรีเมียร์ลีก และคาราบาวคัพ เป็นการออกสตาร์ตที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1894 หรือเมื่อ 126 ปีที่แล้ว
ชัยชนะสวยๆ เกมเปิดซีซั่นพรีเมียร์ลีกที่บุกชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 ตามด้วยการอัด เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 5-2, บุกชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 และชนะ ไบรท์ตัน 4-2 บวกกับชัยชนะสามรอบใน คาราบาวคัพ เหนือ ซัลฟอร์ด ซิตี้ 3-0, ฟลีทวูด ทาวน์ 5-2 และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 ทำให้ 7 เกมแรก เอฟเวอร์ตัน ตะบันไป 24 ประตู
"ผมปลื้มจริงๆ ที่ได้รับรางวัลนี้" อันเชล็อตติ เปิดใจหลังจากคว้า 'อีเอ สปอร์ตส์ พรีเมียร์ลีก เมเนเจอร์ ออฟ เดอะ มันธ์ อวอร์ด' หรือรางวัลผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน จากชัยชนะสามเกมรวดเหนือ ท็อตแน่ม, เวสต์บรอม และ พาเลซ
นี่คือความสำเร็จครั้งที่ 5 ของ 'อันเช่' และเป็นครั้งแรกร่วมกับ เอฟเวอร์ตัน หลังจากก่อนหน้านี้เคยกวาดมาแล้ว 4 ครั้งสมัยคุม เชลซี เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009, เดือนสิงหาคม ปี 2010, เดือนมีนาคม และเดือนเมษายน ติดต่อกันในปี 2011
"ผมคิดว่านี่คือการบรรลุเป้าหมายอย่างยอดเยี่ยมในเดือนนี้ ผมต้องแบ่งปันความสำเร็จนี้ให้กับทีมของผมด้วย เพราะพวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลได้ดีจริงๆ"
"เราหวังว่าจะรักษาผลงานที่ดีแบบนี้ต่อไป และคว้ารางวัลนี้มาครอบครองให้ได้อีกครั้ง"
อันเชล็อตติ ยอมรับว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นตลอด 7 เกมแรกของฤดูกาลใหม่ 2020-21 เป็นผลพวงมาจากชัยชนะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ในเกมเปิดซีซั่นอย่างแท้จริง
"ผมคิดว่าจุดสำคัญคือเกมแรกที่เจอ ท็อตแน่ม"
"ท็อตแน่ม คือทีมที่ดีจริงๆ แต่เราทำได้ดีและคว้าชัยชนะเกมเยือนที่นั่น ชัยชนะเกมนั้นเพิ่มความมั่นใจให้กับเรา และสร้างความเชื่อให้เราในฤดูกาลนี้ มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีจริงๆ"
นอกจาก อันเชล็อตติ ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากแล้ว หนึ่งในนักเตะที่ทำให้ทุกคนต้องทึ่งกับผลงานการถล่มประตูนั่นก็คือ โดมินิก คัลเวิร์ท-ลูอิน ศูนย์หน้าที่คว้ารางวัล 'อีเอ สปอร์ตส์ พรีเมียร์ลีก เพลย์เยอร์ ออฟ เดอะ มันธ์ อวอร์ด' หรือรางวัลนักเตะพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน
คัลเวิร์ท-ลูอิน ซัลโว 5 ประตูจาก 3 เกมพรีเมียร์ลีกในเดือนกันยายน เป็นการยิงทุกเกม หนึ่งในนั้นคือแฮตทริกในเกมถล่ม เวสต์บรอม 5-2 และเมื่อรวมทุกเกมทั้งกับ เดอะ ทอฟฟี่ส์ และทีมชาติอังกฤษที่เพิ่งได้ประเดิมสนามแล้ว 'ดีซีแอล' ยิงรวมไป 10 ประตูจาก 7 เกม
ศูนย์หน้าวัย 23 ปี กลายเป็นนักเตะ เอฟเวอร์ตัน คนแรกที่คว้ารางวัลนี้ต่อจาก โรเมลู ลูกากู ที่เคยทำได้เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2017
"โดมินิก มีเดือนที่สุดยอด เขาสมควรได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของเดือน เขายังหนุ่มยังแน่น แต่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก" อันเชล็อตติ เอ่ยถึงศูนย์หน้าหมายเลข 9 แท้ๆ ของทีม
"เดือนที่แล้ว เขามีสมาธิอยู่ในกรอบเขตโทษ และนี่คือเหตุผลที่เขายิงประตูได้มากมาย เขากลับมา (ช่วงปรีซีซั่น) ด้วยแรงกระตุ้น สำหรับนักเตะหนุ่ม นี่คือเรื่องสำคัญที่สุด เป้าหมายที่คุณตั้งเอาไว้กับตัวเอง"
"เขาทำงานหนักเพื่อพัฒนาตัวเอง และมีสมาธิอยู่ในกรอบเขตโทษมากขึ้น และมีความเฉียบคมมากขึ้น"
"คัลเวิร์ท-ลูอิน ด้วยความสามารถและคุณภาพในตัวเขา สามารถช่วยนักเตะอย่าง ริชาร์ลีซอน กับ ฮาเมส ได้ด้วยเช่นกัน เขาคือศูนย์หน้าที่สมบูรณ์แบบ"
หลังจบสัปดาห์ทีมชาติในเดือนตุลาคม เอฟเวอร์ตัน จะได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็น 'ของแท้' หรือแค่ 'ฟลุ๊ค' ในเกม 'เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้' ที่จะเปิดรัง กูดิสัน พาร์ค รับมือ ลิเวอร์พูล วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม
และด้วยฟอร์มนาทีนี้ กลายเป็น หงส์แดง ที่จะต้องเกรงกลัว ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ซะแล้ว ยิ่งหลังจากความพ่ายแพ้ที่ วิลล่า พาร์ค 2-7
คำตอบจะอยู่ที่ 'ผลการแข่งขัน' เท่านั้น
