(ต่อจากวันพุธ) อีก 10 ผู้จัดการทีม คุณรู้จักกุนซือพรีเมียร์ลีกมากน้อยแค่ไหน? ในอดีต ใครประสบความสำเร็จ ไม่ประสบความสำเร็จกันบ้าง ในฐานะนักเตะ
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
มิสเตอร์ เป๊ป น่าจะเป็นกุนซือพรีเมียร์ลีกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฐานะนักเตะ จากการคว้าแชมป์ลาลีกา 6 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, ยูโรเปี้ยนคัพ และ คัพวินเนอร์สคัพ อย่างละสมัย ร่วมกับ บาร์เซโลน่า ในยุค 'ดรีมทีม' ของ โยฮัน ครัฟฟ์ ทศวรรษที่ 90
เป๊ป ก้าวขึ้นมาจาก 'ลา มาเซีย' ที่เข้าร่วมสโมสรแห่งนี้มาตั้งแต่อายุ 13 ก่อนย้ายออกจากถิ่น คัมป์ นู 17 ปีหลังจากนั้น ส่วนระดับทีมชาติ รับใช้ สเปน มากว่า 47 นัด ระหว่างนั้นมีเล่นให้ กาตาลุนย่า (เกมไม่เป็นทางการ) อีก 7 นัดในรอบ 10 ปี
โชเซ่ มูรินโญ่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
มูรินโญ่ สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการผู้จัดการทีมรุ่นใหม่ ด้วยลีลาการคุมทีมที่ไม่เหมือนใคร และไม่เอาใครหน้าไหนเหมือนกัน แต่ก่อนหน้านี้ เค้าเป็นใครมาจากไหน? ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อนในฐานะกองกลางที่ลงเล่นฟุตบอลอาชีพไปไม่ถึง 100 นัด
โชเซ่ ต้องการตามรอยเท้า เฟลิกซ์ ผู้พ่อในฐานะนักฟุตบอล และมีโอกาสร่วมงานกันที่ ริโอ อาเว่ (พ่อเป็นโค้ช) ก่อนย้ายไป เบเลเนนเซส และ เซซิมบรา ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จทุกที่ และไม่มีวี่แววที่จะเอาดีได้เลย จึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นนักบอลในวัย 24
ราฟาเอล เบนิเตซ (นิวคาสเซิ่ล)
ราฟา เป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมที่ไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาก่อนสมัยเป็นนักเตะ แม้ก้าวมาจากรั้วเยาวชนของ เรอัล มาดริด ในยุค 'เซเวนตี้ส์' ควบคู่ไปกับการศึกษาที่ เทคนิคอล ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ มาดริด จึงมีดีกรี พละศึกษา ติดตัว
แม้พยายามไต่เต้าจากทีมชุดเล็กของ มาดริด แต่ก็แจ้งเกิดไม่ได้ จนต้องยอมลดชั้นไปเล่นกับทีมดิวิชั่น 3 และ 2 แต่ก็ไปไม่ถึงดวงดาวเช่นกัน จนตัดสินใจแขวนรองเท้าในวัย 26 และกลับมาเป็นโค้ชเยาวชนที่ มาดริด ก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกกุนซือยุคโมเดิร์น
เมาริซิโอ เปเยกรีโน่ (เซาธ์แฮมป์ตัน)
อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟอาร์เจนตินา ตัวหลักของ บาเลนเซีย ในช่วงเริ่มต้นศตวรรษที่ 21 ที่คว้าแชมป์ลาลีกาถึง 2 สมัย ปี 2002 กับ 2004 แม้เคยมีช่วงเวลาสั้นๆ กับยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และ ลิเวอร์พูล แต่ก็แจ้งเกิดระยะยาวไม่ได้ ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับ อลาเบส ในวัย 35 ปี
แม้มีแชมป์ลาลีกา 2 สมัยกับ บาเลนเซีย, 1 สมัยกับ บาร์เซโลน่า แต่ความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักคือการแพ้รอบชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 2 ครั้งกับ เจ้าค้างคาว โดยเฉพาะครั้งหลังในปี 2001 เขาคือคนยิงจุดโทษพลาดในการดวลคนที่ 7 ช่วงซัดเดนเดธ แพ้ต่อ บาเยิร์น มิวนิค
มาร์ค ฮิวจ์ส
ไม่บ่อยนักที่จะเห็นอดีตนักเตะตำแหน่งศูนย์หน้ายืนหยัดอยู่ในวงการกุนซือระยะยาว และ ฮิวจ์ส ก็เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์โชกโชนกับการคุมทีมในพรีเมียร์ลีก หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2002 ทั้งที่เล่นต้นรับงานคุมทีมชาติเวลส์ไปแล้วตั้งแต่ปี 1999
'สปาร์กี้' ก้าวมาจากรั้วเยาวชน แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 1980 ก่อนสร้างชื่อจนถูก เทอร์รี่ เวนาเบิลส์ กุนซือชาวอังกฤษ ที่คุม บาร์เซโลน่า ดึงตัวไปร่วมถิ่น คัมป์ นู พร้อมๆ กับ แกรี่ ลินิเกอร์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนปล่อยยืมไป บาเยิร์น และกลับมาเป็นตัวหลัก ปีศาจแดง
พอล คลีเมนท์
ในบรรดา 20 ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีก มีเพียง คลีเมนท์ คนเดียวที่ไม่เคยผ่านการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน แม้มีช่วงสั้นๆ 6 ปี ที่พยายามพิสูจน์ฝีเท้าในระดับนอกลีก แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ และล้มเลิกความตั้งใจไปตอนอายุ 22 ก่อนมุ่งสู่งานโค้ชเต็มตัวในปีต่อมา
ด้วยความที่เป็นลูกชายของ เดฟ คลีเมนท์ อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษผู้ล่วงลับ และน้องชายก็เป็นอดีตกองหลัง เวสต์บรอม ทำให้ คลีเมนท์ กลายเป็นครอบครัวฟุตบอลของแท้ พอล เคยเอาดีด้านการเป็นครูสอนพละที่ เกล็นธอร์น ไฮสคูล และจบหลักสูตรโค้ชตั้งแต่อายุ 28
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
เป็นอดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟอาร์เจนตินา เช่นเดียวกับ เมาริซิโอ เปเยกรีโน่ แต่สไตล์การเล่นแตกต่างกัน และด้วยวัยที่ใกล้เคียงกัน (โปเช็ตติโน่ อ่อนกว่า 1 ปี) ทำให้เคยต่อกรกันมาแล้วบ่อยๆ ในศึกลาลีกา สเปน ขณะที่ โปเช็ตติโน่ เล่นกับ เอสปันญ่อล 2 ช่วง
โปเช็ตติโน่ เก็บข้าวของมาลุยยุโรปกับ เอสปันญ่อล ก่อนย้ายไปหากินในฝรั่งเศส กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง และ บอร์กโดซ์ แต่ที่สร้างชื่อมากที่สุด คือการรวบ ไมเคิ่ล โอเว่น เสียจุดโทษในเวิลด์คัพ 2002 ก่อนที่ เดวิด เบ๊คแฮม สังหารจุดโทษให้ สิงโตคำราม ชนะ 1-0
มาร์โก ซิลวา
อดีตแบ็กขวาที่ชื่อเสียงสมัยเป็นนักเตะไม่ได้โด่งดังอะไร แถมยังเป็นสไตล์ 'โฮมซิก' เพราะค้าแข้งอยู่แต่ในลีกโปรตุกีส ไม่เคยออกไปยังต่างแดนเลย ก่อนแขวนสตั๊ดกับสโมสรสุดท้าย เอสโตริล ในวัย 34 และรับงานคุมทีม เอสโตริล ต่อเลยทันที
เรื่องความสำเร็จสมัยเป็นนักเตะไม่มีอะไรให้จดจำ ผิดกับตอนเป็นกุนซือที่พา เอสโตริล คว้าแชมป์และเลื่อนชั้นจากเซกุนดา ลีกา ก่อนพา สปอร์ติ้ง ลิสบอน คว้าแชมป์บอลถ้วย และนำ โอลิมเปียกอส ซิวแชมป์ลีกกรีซ จนได้ย้ายมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีก
อลัน พาร์ดิว
พาร์ดิว เกือบแจ้งเกิดไม่ได้สมัยเป็นนักเตะ เพราะต้องรอถึงอายุ 26 กว่าจะย้ายมาสู่ คริสตัล พาเลซ เป็นตัวหลักที่นี่ก่อนย้ายต่อไป ชาร์ลตัน, บาร์เน็ต และแขวนสตั๊ดอย่างเงียบๆ กับ เร้ดดิ้ง ในปี 1998 โดยความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สุดคือรองแชมป์เอฟเอคัพ กับ พาเลซ ปี 1990
ในรอบรองชนะเลิศ พาร์ดิว ยิงประตูชัยพา พาเลซ ล้ม ลิเวอร์พูล 4-3 ช่วงต่อเวลาที่ วิลล่า พาร์ค พาทีมผ่านเข้าชิงชนะเลิศ โดยลงคุมแดนกลางในรอบชิงฯ ที่แพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมรีเพลย์ แต่หลังจากนั้นปีเดียวก็พาทีมคว้าแชมป์ฟูลเมมเบอร์สคัพ ที่เวมบลีย์
เดวิด มอยส์
คนสุดท้ายถ้าลองเดาตำแหน่งสมัยเป็นนักเตะ คงเดากันถูก เพราะ มอยส์ คืออดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ผ่านประสบการณ์โชกโชนระดับลีกรอง และลีกสกอตต์ ก่อนปิดฉากอาชีพค้าแข้งที่ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ และหลังจากนั้นก็ก้าวขึ้นมาคุมทีมแห่งนี้จนสร้างชื่อ
แต่หากย้อนกลับไปในช่วงเริ่มเล่นฟุตบอลอาจจะแปลกใจที่เห็น มอยส์ ขึ้นมาจากทีมเยาวชนของ ไอบีวี ทีมในลีกไอซ์แลนด์ ก่อนย้ายกลับมาสกอตแลนด์ และเล่นให้ทีมใหญ่อย่าง เซลติก สมัยเป็นดาวรุ่งในช่วงสั้นๆ จากนั้นก็ระเห็จมาเล่นกับทีมลีกรองอังกฤษ