การได้เล่นพรีเมียร์ลีก การติดทีมชาติอังกฤษ เป็นความฝันของเด็กๆ หลายคนที่เกิดหรือโตที่นั่น แต่ก่อนอื่น คิดถึงการเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้ก่อนเถอะ!
กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลชื่อดัง หลายคนไม่ฉายแววเลยในวัยเด็ก ทำให้ต้องเผชิญอุปสรรคขวากหนามมากมาย ไทโรน ดีออน มิงส์ เด็กน้อยที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเพื่อนๆ ในรุ่นก็เช่นกัน
ไทโรน ที่มีเชื้อสายบาร์บาโดส ถือกำเนิดและเติบโตในเมืองบาธ เมืองใหญ่ที่อยู่ห่างจากลอนดอนเพียง 97 ไมล์ แม้เป็นลูกชายของ อาดี้ มิงส์ อดีตศูนย์หน้าโนเนมที่เคยเล่นฟุตบอลระดับนอกลีก แต่ช่วงวัยเด็กเคยใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน
ความใฝ่ฝันของ ไทโรน เริ่มต้นอย่างสวยงาม เมื่อเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของ เซาธ์แฮมป์ตัน ตอนอายุ 8 ขวบ แต่พออายุได้ 16 ปี เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก็เผชิญอุปสรรค เพราะถูกปล่อยตัวออกจากสโมสร สาเหตุจากงบประมาณของทีมเยาวชนที่ถูกตัดทอนลง
ช่วงเวลานั้น ไม่เพียงแค่ ไทโรน ที่ต้องผิดหวังสุดๆ ครอบครัวของเขาก็สิ้นหวังเช่นกัน เพราะหวังจะได้พึ่งพิง หากลูกชายได้เซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับทีมชุดใหญ่ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ตอนนั้นเล่นอยู่ใน แชมเปี้ยนชิพ
"ผมถูกปล่อยตัวจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ตอนอายุ 15 หรือ 16 นี่แหละ แม่ผมเขียนจดหมายส่งไปให้ทุกสโมสรในฟุตบอลลีก 72 สโมสรเลย เธอเขียนบรรยายสรรพคุณผม และบอกว่าลูกชายของฉันเพิ่งถูกปล่อยตัว นั่นคือสิ่งที่แม่ทำ" ไทโรน เปิดฉากเล่าเรื่องราวในอดีต
"แน่นอน ไม่เคยมีใครตอบกลับมา บางสโมสรตอบมาว่า "เราได้ทำการสรรหาครบถ้วนแล้ว" แต่นั่นก็มีแค่ 5 หรือ 6 ทีมมั้ง ที่เหลือไม่มีใครตอบกลับมาเลย นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้น ผมไปทดสอบฝีเท้ากับหลายสโมสร และถูกปฏิเสธกลับมาทั้งหมด"
ไทโรน ปรึกษากับครอบครัว และตัดสินใจเข้าเรียนที่โรงเรียนมิลล์ฟิลด์ โดยรับทุนในฐานะนักกีฬาฟุตบอลเป็นเวลาสองปี หลังจากนั้น จึงเซ็นสัญญากับทีมนอกลีก เยท ทาวน์ และเกิดท้อกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จนถึงขั้นคิดที่จะหันหลังให้
ชิพเพนแฮม ทาวน์ คือทีมใหม่ของ ไทโรน ที่เล่นอยู่นอกลีกระดับเซาธ์เทิร์นลีก พรีเมียร์ดิวิชั่น เป็นช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มรับจ็อบทำงานอยู่ในบาร์ พร้อมกับเป็นที่ปรึกษาด้านการจำนองอสังหาริมทรัพย์
"ผมเข้าไปอยู่ในโรงเรียน เป็นนักเรียนระดับมัธยม เล่นฟุตบอลกับทีมนอกลีก ทำงานในผับ แล้วก็ทำงานในออฟฟิสด้วย ผมมีประสบการณ์ที่หลากหลายมาก"
หลังจากนั้น เส้นทางของ ไทโรน ก็กลับสู่ถนนที่ถูกต้องอีกครั้ง หลังจากทดสอบฝีเท้ากับ อิปสวิช ทาวน์ ได้ดี และได้รับสัญญาจากทีมระดับแชมเปี้ยนชิพในช่วงปลายปี 2012
ไทโรน ได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ อิปสวิช เกมสุดท้ายของฤดูกาล 2012-13 ที่เจอ เบิร์นลี่ย์ และซีซั่นต่อมา เริ่มได้รับโอกาสมากขึ้น ทั้งการเป็นแบ็กซ้ายแทน อารอน เครสเวลล์ ตอนติดโทษแบน และต้องรับบทแบ็กขวาจำเป็นในบางครั้ง แม้เป็นเซนเตอร์แบ็กเท้าซ้ายก็ตาม
ช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ไทโรน ได้รับความสนใจจากทีมพรีเมียร์ลีก คริสตัล พาเลซ แต่ข้อเสนอ 3 ล้านปอนด์ถูกปฏิเสธ และนักเตะก็เซ็นสัญญาฉบับใหม่ 3 ปีกับทีมในถิ่น พอร์ทแมน โร้ด
ถัดมาหนึ่งปี ไทโรน ก็ได้เซ็นสัญญากับทีมพรีเมียร์ลีกสมใจ เป็นการเซ็น 4 ปีกับทีมน้องใหม่ บอร์นมัธ ในราคา 8 ล้านปอนด์ แต่การประเดิมลีกสูงสุดกลับกลายเป็นฝันร้าย เพราะเพียงแค่ 6 นาที ก็ประสบปัญหาเอ็นหัวเข่าฉีกต้องพักยาวเกินหนึ่งปี
"ชัดเจนว่า อาการบาดเจ็บเป็นเรื่องที่แย่มาก ผมเจ็บตั้งแต่ 6 นาทีแรกในพรีเมียร์ลีก และต้องพักยาว 15 เดือน ผมกลับมาแล้วก็มีปัญหากระดูกแผ่นหลังร้าวอีก ต้องพักนานอีก 8-9 เดือน"
ไทโรน ตัดสินใจรื้อฟื้นช่วงเวลาเก่าๆ ที่ อิปสวิช กลับมา โดยการย้ายไปเล่นกับ แอสตัน วิลล่า ในแชมเปี้ยนชิพด้วยสัญญายืมตัว และมีส่วนสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2019 จนทีมของ ดีน สมิธ ต้องทุ่มเงิน 21 ล้านปอนด์ซื้อขาดจาก บอร์นมัธ
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ ไทโรน กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แม้อยู่ในวัยที่เลยเบญจเพศมาแล้ว และไม่เคยเล่นให้ทีมชาติชุดเยาวชนมาก่อนเลยแม้แต่ชุดเดียว
ถึงตอนนี้ ตำแหน่งในทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต มั่นคงขึ้น หลังจาก ไทโรน เป็นหัวใจสำคัญในแนวรับที่ทำให้ แอสตัน วิลล่า ออกสตาร์ทฤดูกาลพรีเมียร์ลีกอย่างยอดเยี่ยม
"มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณไม่สามารถรับมือได้ และมีโอกาสที่จะทิ้งอาชีพของตัวเองไปได้เลย แต่เมื่อผมมองย้อนกลับไปดูเส้นทางของตัวเอง ไม่มีสิ่งใดที่ผมเปลี่ยนไปเลย มันทำให้ผมกลายเป็นคนที่ดีขึ้น และเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้นด้วย"