:::     :::

"ผมอยากเล่นเซนเตอร์แบ็ก"

วันเสาร์ที่ 05 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,735
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เริ่มต้นจากเซนเตอร์แบ็กสลับกับแบ็กขวา แล้วพลิกบทบาทเล่นกองกลางตัวรับ ตอนนี้ เอริค ดายเออร์ กำลังไปได้สวยกับการกลับมารับบทปราการหลังตัวกลาง

"โอเค ถ้าคุณอยากเล่นเซนเตอร์แบ็ก ตอนนี้เป็นโอกาสของคุณแล้ว โชว์ฟอร์มให้ผมเห็นเลย" คำพูดจากปาก โชเซ่ มูรินโญ่ ที่กระตุ้นให้ ดายเออร์ เค้นฟอร์มเก่งในบทบาทที่ตัวเองอยากเล่นมากที่สุด

ดายเออร์ ย้ายจาก สปอร์ติ้ง ในลีกโปรตุเกส มาอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 หรือราวๆ สองเดือนเศษ หลังจาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อำลา เซาธ์แฮมป์ตัน มาคุมทีมในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน
โปเช็ตติโน่ ไม่รีรอที่จะใช้งาน ดายเออร์ ตั้งแต่ซีซั่นแรก ทั้งในบทบาทเซนเตอร์แบ็กและแบ็กขวาสลับกันไปแล้วแต่ความต้องการในแต่ละเกม แต่พอเข้าสู่ซีซั่นที่สอง กองกลางตัวรับ กลายเป็นบทบาทใหม่ของเจ้าตัว
แม้ระหว่างซีซั่น 2016-17 ดายเออร์ ต้องกลับมาเล่นเซนเตอร์แบ็กอีกครั้ง จากการเซ็นสัญญากับ วิคเตอร์ วานยาม่า บวกกับการบาดเจ็บพร้อมกันของ โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ กับ ยาน แฟร์ทองเก้น
การเล่นได้สารพัดตำแหน่ง แม้เป็นเรื่องดีสำหรับผู้จัดการทีม แต่บางครั้ง เมื่อสภาพทีมอยู่ในช่วงที่สมบูรณ์ทุกจุด ก็อาจส่งผลร้ายสำหรับ ดายเออร์ เหมือนอย่างที่ประสบในช่วงสองฤดูกาลก่อนหน้านี้ จนถึงขั้นพิจารณาย้ายทีมเลยด้วย
"เรื่องนั้นอยู่ในความคิดของผม" ดายเออร์ พูดถึงเรื่องการคิดอำลา ท็อตแน่ม ก่อนหมดสัญญาฉบับที่แล้วที่มีอายุจนถึงปี 2021
"ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองบรรลุสิ่งที่ต้องการ เมื่อสัญญาของคุณเริ่มต้นจนมาถึงจุดสิ้นสุด คุณจะตั้งคำถามว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตหรือไม่"
"ผมไม่มีความปรารถนาที่จะอยู่กับสโมสรในปีสุดท้ายของสัญญา (ฤดูกาล 2020-21) สโมสรก็ทราบดีว่าในช่วงซัมเมอร์จะต้องตัดสินใจทางใดทางหนึ่ง"
การเข้ามาของ มูรินโญ่ ช่วงกลางฤดูกาล 2019-20 ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อนาคตของ ดายเออร์ คลุมเครือ
"ผมลงเล่นสองเกมสุดท้ายของ โปเช็ตติโน่ (ก่อนถูกไล่ออก) ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะกลับไปเล่นกองกลางอีกครั้ง"
"ผมอธิบายเรื่องนั้นกับ มูรินโญ่ ผมบอกเขาว่า นี่คือตำแหน่งที่ผมอยากเล่น กองหลัง แต่ผมก็รู้ว่ามันเสี่ยงมาก"
มูรินโญ่ จับ ดายเออร์ กลับมาเล่นกองกลางตัวรับในเกมประเดิมคุมทีมที่บุกชนะ เวสต์แฮม 3-2 แต่ในเกมที่สอง ซึ่งเป็นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในบ้านตัวเอง โอลิมเปียกอส บุกมานำ 2-0 ตั้งแต่ 20 นาทีแรก และ ดายเออร์ ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 29
ดายเออร์ ดูเก็บอารมณ์ได้ดี แต่ลึกลงข้างใน เขาเจ็บปวดและเสียใจที่สุด และคิดว่าอนาคตกับ ท็อตแน่ม จบสิ้นลงแล้ว
"มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่หนักหนาที่สุดในอาชีพค้าแข้งของผม" ดายเออร์ ไม่ปิดบังความรู้สึกตัวเอง
"ผู้จัดการทีมมีสิทธิ์เปลี่ยนตัวผมออก ผมไม่ได้เล่นดี และเราก็กลับมาชนะในเกมได้ แต่การต้องถอยห่างออกจากความมุ่งมั่นที่ผมเคยมีกับตำแหน่งใหม่ของผมในช่วงเวลานั้นเป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับผม"
ท็อตแน่ม กลับมาแซงชนะ โอลิมเปียกอส 4-2 ทุกอย่างราบรื่นและดูชื่นมื่น ก่อนที่เกมถัดไปในพรีเมียร์ลีก ดายเออร์ ก็ยังคงลงตัวจริงในบทบาทกองกลางตัวรับตามเดิม
ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ ดายเออร์ รับรู้ได้ถึงบางอย่าง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเขาเคยบอกกับ โปเช็ตติโน่ และ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ แบบเปิดอกไปแล้วว่าอยากเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กมากกว่ากองกลางตัวรับ แต่การเปลี่ยนแปลงแบบทันทีทันใด อาจส่งผลกระทบตามมาอย่างไม่คาดคิดได้
ดายเออร์ หลุดเป็นตัวสำรองหลายต่อหลายเกม เช่นเดียวกับเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่นั่งข้างสนามโดยไม่ได้ลงไปสัมผัสเกมเลยแม้แต่นาทีเดียว
"หลังจบเกมที่ เชลซี เขาเดินมาหาผมแล้วบอกว่า 'โอเค ถ้าคุณอยากเล่นเซนเตอร์แบ็ก ตอนนี้เป็นโอกาสของคุณแล้ว โชว์ฟอร์มให้ผมเห็นเลย' ผมมุ่งมั่นกับคำท้าทายนั้น มันเป็นสิ่งที่ผมอยากได้ยิน มันเป็นโอกาส เป้าหมายหลักของผมคือการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่ง นั่นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อ"
และในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ดายเออร์ ก็ตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ท็อตแน่ม จากปี 2021 ยืดออกไปจนถึงปี 2024
"มันทำให้ผมมีช่วงเวลาปรีซีซั่นที่ดี และทำให้ผมมีสมาธิกับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ผมรู้สึกมีสมาธิกับเกมฟุตบอลมาก แบบที่ผมไม่เคยรู้สึกมาตั้งแต่อายุ 19 ความรู้สึกนั้นทำให้ผมพยายามเล่นอย่างเต็มที่เพื่อรักษาตำแหน่ง"
ฤดูกาล 2020-21 ผ่านไปแล้ว 10 เกมในพรีเมียร์ลีก ดายเออร์ คือเซนเตอร์แบ็กที่ได้ลงสนามมากที่สุด 9 เกม ซึ่งเป็นการลงตัวจริงทั้งหมดด้วย นอกนั้น โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ ลงตัวจริง 6 เกม, ดาวินซอน ซานเชซ ลงตัวจริง 4 เกม และ โจ โรดอน ลงตัวจริง 1 เกม สำรอง 2 เกม
ถึงตอนนี้ ดายเออร์ คงลืมบทบาทกองกลางตัวรับไปจนหมดแล้ว และ มูรินโญ่ ก็คงไม่คิดเปลี่ยนแปลงบทบาทของกองกลางวัย 26 ปี ตราบใดที่ผลงานของทีมยังคงยอดเยี่ยม

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด