ในช่วงเวลาที่ โจ ฮาร์ท ไม่ได้เล่น แจ็ค บัตแลนด์ กับ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ โดนทะลวงเป็นประตูน้ำ มีเพียง จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่โชว์ฟอร์มพระเอกอยู่คนเดียว
เด็กปั้นจากรั้วเยาวชนของ ซันเดอร์แลนด์ ก้าวเท้าขึ้นมาสู่ทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ชุดเยาวชน ยู-16, ยู-17, ยู-18, ยู-19, ยู-20, ยู-21 ตรงตามคอนเซปท์ของ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ และ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป๊ะๆ
แม้ฤดูกาลที่แล้วจะเสียประตูแบบเทน้ำเทท่ากับทีม แมวดำ แต่ พิคฟอร์ด ก็โชว์ซูเปอร์เซฟเอาไว้เยอะไม่แพ้กัน และนั่นเองที่ไปเตะตา เอฟเวอร์ตัน ที่ยอมจ่ายสูงถึง 25 ล้านปอนด์ (ที่จะเพิ่มเป็น 30 ตามเงื่อนไข) กับการเซ็นสัญญายาว 5 ปี
พิคฟอร์ด ถูกเลือกเป็นมือ 1 แทน มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก และกลายเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเฝ้าเสาทุกนัดในพรีเมียร์ลีกจนถึงครึ่งทางของฤดูกาลนี้ ทำให้ปี 2017 เป็นปีทองของประตูวัย 23 ปีอย่างไม่ต้องสงสัย
เซาธ์เกต เรียกตัว พิคฟอร์ด ไปทดลองฝีมือกับ สิงโตคำราม ชุดใหญ่มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกต้องถอนตัวเพราะบาดเจ็บ ส่วนครั้งหลังได้ประเดิมเฝ้าเสาแถมยังเป็นตัวจริงด้วย ในเกมอุ่นเครื่องที่ เวมบลีย์ เสมอ เยอรมนี 0-0 เป็นเกมที่มีจังหวะเซฟสวยๆ เยอะ และพูดได้เต็มปากว่า เป็นการประเดิมสนามในฝัน
เท่าที่เอ่ยมานี้ ดูเหมือนจะมีแต่เรื่องดีๆ ไปซะหมด มีใครรู้บ้างว่าในอดีต พิคฟอร์ด เคยฝันร้ายมาแล้วกับการรับใช้ อังกฤษ ชุดยู-17 ทำศึกเวิลด์คัพ ปี 2011 ที่ เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพ
ในเกมรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง ที่ อังกฤษ ขึ้นนำ แคนาดา สองครั้งสองครา แต่ในช่วงท้ายเกม พิคฟอร์ด ต้องจดจำฉากนี้ไปตลอดชีวิต เมื่อปล่อยให้ลูกสาดยาวจากครึ่งสนามของผู้รักษาประตู ควิลแลน โรเบิร์ตส์ กระดอนพื้นแล้วกระเด้งข้ามหัวเข้าไปแบบไม่น่าเชื่อ และกลายเป็นประตูแรกที่นายด่านทำประตูได้ในทัวร์นาเมนต์รอบสุดท้ายของ ฟีฟ่า ด้วย
ประตูลักษณะนี้เคยมีให้เห็นมาแล้วในเกมพรีเมียร์ลีก ที่ พอล โรบินสัน ผู้รักษาประตู สเปอร์ส เปิดยาวแล้วบอลกระเด้งพื้นข้าม เบน ฟอสเตอร์ ของ วัตฟอร์ด เข้าไปเมื่อ 10 ปีก่อน
นั่นคือฝันร้ายของเด็กหนุ่มวัย 17 ที่หลายคนมองว่าอาจจะอนาคตดับไปเลยจากทัวร์นาเมนต์นั้น แม้จะแก้ตัวด้วยการเซฟจุดโทษพาทีมล้ม อาร์เจนตินา ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ตาม
แต่ประตูนั้นก็ไม่ได้ทำให้ พิคฟอร์ด จิตตก กลับกันเขายิ่งมุ่งมั่นก้าวต่อไปเรื่อยๆ จนกระเตื้องขึ้นสู่ทัพ ทรี ไลออนส์ ชุดยู-21 และในที่สุดโอกาสสำคัญก็มาถึง นั่นคือมือ 1 ของ ซันเดอร์แลนด์ ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่แล้ว
ข้ามผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีต จนถึงเวลานี้ พิคฟอร์ด กลายเป็นตัวเลือกที่เตะตาที่สุดของ เซาธ์เกต ที่เกมล่าสุดก็มานั่งชมอยู่บนอัฒจันทร์ที่ กูดิสัน พาร์ค และเห็นผลงานแบบเต็มๆ สองลูกกะตา
ขณะที่มือ 1 ของ เซาธ์เกต ที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้อย่าง ฮาร์ท กำลังนั่งสำรองในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันหลายนัดแล้ว อาจต้องรอโอกาสอีกทีเอาในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ต้นปีหน้านู้น ยกเว้นแต่ว่า อาเดรียน จะฟอร์มหลุดเสียก่อน
ส่วนคนอื่นๆ อาการหนักทั้ง บัตแลนด์ และ ฟอร์สเตอร์ ต่างโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะผู้รักษาประตู สโต๊ค ที่ฟอร์มออกทะเล กลายเป็นประตูน้ำพระอินทร์ไปแล้ว
หลังจากนี้อีกประมาณ 5 เดือนเศษๆ เซาธ์เกต มีเวลาให้ตัดสินใจ หากสถานการณ์ของ ฮาร์ท ยังเป็นเช่นนี้ไปจนจบซีซั่น และ พิคฟอร์ด ก็ยังรักษาฟอร์มเก่งของตัวเองเอาไว้ได้
ขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนเดียวเท่านั้น ว่าจะกล้าเปลี่ยนแปลงมือ 1 สิงโตคำราม ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่หรือเปล่า?
