2011 คือปีแรกของศูนย์หน้าจากบัวโนสไอเรสในเมืองแมนเชสเตอร์ และ 2021 คือปีสุดท้ายของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ในชุด เรือใบสีฟ้า
29 มีนาคม 2021 คือวันที่ อเกวโร่ ประกาศอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการหลังหมดสัญญาตอนจบฤดูกาล 2020-21 เป็นวิถีทางของสโมสรใหญ่ที่ต้องแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุด
จากปัญหาอาการบาดเจ็บ ความฟิต และฟอร์มการเล่นที่ไม่เหมือนเดิม คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่เสนอสัญญาฉบับใหม่ให้กับศูนย์หน้าผู้กลายเป็นตำนานของสโมสรไปแล้ว
แม้แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ไม่มีอำนาจพอที่จะจัดการเรื่องดังกล่าวได้ ทำได้เพียงชี้แจงว่า อเกวโร่ จะได้รับสัญญาฉบับใหม่จากสโมสรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลงานในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้เท่านั้น
และสุดท้าย อเกวโร่ ไม่ต้องการรอคำตอบ จึงตัดสินใจเลือกทางเดินดังกล่าวด้วยตัวเอง
การอำลาสโมสรตั้งแต่ตอนนี้ จะเป็นการจากไปแบบตำนานผู้ยิ่งใหญ่ แม้ซีซั่นสุดท้ายในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม จะได้รับโอกาสลงสนามไม่มากนักก็ตาม
อเกวโร่ จดบันทึกสถิติต่างๆ เอาไว้มากมาย ไม่เพียงแค่กับสโมสร แต่ยังรวมถึงพรีเมียร์ลีกด้วย
นับตั้งแต่ประตูแรกที่ยิงตั้งแต่เกมประเดิมสนามในชุด สกายบลู เกมเจอกับ สวอนซี วันที่ 15 สิงหาคม 2011 อเกวโร่ ใช้เวลา 6 ปีกับอีก 2 เดือนเศษๆ ยิงประตูที่ 178 ในเกมที่ นาโปลี เป็นประตูที่ทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสรที่ทำเอาไว้โดย เอริค บรู๊ค มาอย่างยาวนานถึง 78 ปี
จนถึงตอนนี้ อเกวโร่ บวกเพิ่มสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้วถึง 257 ประตู จากการลงสนามทั้งสิ้น 384 เกมรวมทุกรายการ และตัวเลขนี้คงยังไม่หยุดลงจนกว่าจะถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาล
อเกวโร่ ยังเป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรเฉพาะเกมลีกสูงสุดที่ 181 ประตู
เป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรเฉพาะเกมยุโรปที่ 43 ประตู
เป็นนักเตะที่ยิงในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของสโมสร 26 ประตู
เป็นนักเตะที่ยิงในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดในหนึ่งเกมของสโมสร 5 ประตู
เป็นนักเตะที่ทำแฮตทริกกับสโมสรมากที่สุด 16 ครั้ง
และยังมียิบย่อยอีกนับไม่ถ้วน
ในพรีเมียร์ลีก อเกวโร่ ก็เป็นเจ้าของสถิติอีกพอสมควร อาทิ
เป็นนักเตะที่ยิงแฮตทริกมากที่สุด 12 ครั้ง
เป็นนักเตะที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประจำเดือนมากที่สุด 7 ครั้ง
เป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยยิงประตูต่อนาทีดีที่สุด
เป็นนักเตะต่างชาติที่ยิงได้มากที่สุด (แซง เธียร์รี่ อองรี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว)
และตัวเลข 181 ประตูในพรีเมียร์ลีก ทำให้ อเกวโร่ แซงขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก เหลืออีกแค่ 6 ประตูก็จะทาบอันดับ 3 ของ แอนดี้ โคล
นี่คือส่วนหนึ่งของสถิติที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชื่อของ เซร์คิโอ อเกวโร่ จะกลายเป็นตำนานของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างแน่นอน
"ผลงานของ เซร์คิโอ ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอด 10 ปี ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ทั้งหมด ตำนานของเขาจะถูกฝังอยู่ในความทรงจำของทุกคนที่รักสโมสรแห่งนี้ และอาจรวมถึงทุกคนที่รักฟุตบอลด้วย" คัลดูน อัล มูบารัค ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร กล่าว
"นี่ยังไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งการกล่าวคำอำลาและการกล่าวสุนทรพจน์ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำร่วมกับ เซร์คิโอ ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ และเราตั้งหน้าตั้งตารอที่จะร่วมงานกับเขาในการเผชิญความท้าทายที่รออยู่ตรงหน้า"
"ในระหว่างนี้ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขอประกาศให้ทราบว่า เราจะว่าจ้างศิลปินให้สร้างรูปปั้นของ เซร์คิโอ ตั้งอยู่ที่หน้าสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ร่วมกับรูปปั้นที่กำลังก่อสร้างของ แว็งซ็องต์ (ก็องปานี) และ ดาบิด (ซิลบา) และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสจัดงานอำลา เซร์คิโอ ตอนจบฤดูกาลนี้"
ถึงเวลานี้ยังไม่มีใครทราบได้ว่าแฟนบอลจะได้มีส่วนร่วมกับเกมอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือไม่ เนื่องด้วยเหตุผลเรื่องโควิด-19 แต่ชื่อของ เซร์คิโอ อเกวโร่ กลายเป็นตำนานของสโมสรและกลายเป็นตำนานของพรีเมียร์ลีกไปแล้วอย่างแน่นอน
