13 ปีที่แล้ว เด็กหนุ่มจากออสโล ได้ทำตามความฝันของตัวเอง นั่นคือการย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลที่ใครหลายคนเชื่อว่าดีที่สุดในโลก
โจชัว คริสเตียน โคโจ คิง หรือ จอช คิง ศูนย์หน้าที่มีเชื้อสายแกมเบีย-นอร์เวย์ ฉายแววโดดเด่นในทีมเยาวชนของ วาเลเรนก้า และถูกเชิญไปทดสอบฝีเท้ากับหลายสโมสร อาทิ เชลซี, ซันเดอร์แลนด์ แต่สุดท้ายดาวรุ่งในวัย 16 ปีก็เลือก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรในฝันของตัวเอง
จอช ได้เห็นกองหน้ารุ่นพี่ในทีมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันในทีมเยาวชนที่ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เรียกขึ้นชุดใหญ่ไปก่อนอย่าง แดนนี่ เวลเบ๊ค กับ เฟเดริโก้ มาเคด้า
ความฝันที่จะได้ก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ จอช ก็ไม่นานเกินรอ เพราะเกิดขึ้นในฤดูกาล 2009-10 ในฐานะตัวสำรองบอลถ้วยลีกคัพไป 1 เกม
อย่างไรก็ตาม การปล่อยยืมไปเล่นกับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์, โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และ ฮัลล์ ซิตี้ ผลลัพธ์ออกมาน่าผิดหวัง จนในที่สุด ความฝันการเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สิ้นสุดลงในช่วงต้นปี 2013 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายในการคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ ด้วย
แม้ผลงานการยิงประตูกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในแชมเปี้ยนชิพ มีเพียงน้อยนิด แต่ บอร์นมัธ ก็กล้าๆ ซื้อไปร่วมทัพ และเป็นครั้งแรกที่ จอช ได้ลงสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกเสียที
ฤดูกาล 2016-17 คือปีที่ดีที่สุดของ จอช กับ บอร์นมัธ ในพรีเมียร์ลีก เพราะยิงไปถึง 16 ประตูจาก 36 เกม แม้จำนวนประตูลดลงหลังจากนั้น แต่ฟอร์มการเล่นยังคงเส้นคงวาในบทบาทปีกขวา หรือกองหน้าฝั่งขวาในทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว
ในเดือนมกราคมปี 2020 จอช ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าเขาได้รับข้อเสนอจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเก่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายหน้าหนาว หรือช่วงกลางฤดูกาล 2019-20 เป็นเพราะทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องเสีย มาร์คัส แรชฟอร์ด บาดเจ็บต้องพักรักษาตัวระยะหนึ่ง
จอช เคยร่วมงานกับ โซลชา มาก่อนในทีมสำรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนที่ตำนานของชาวนอร์เวย์เพิ่งเริ่มต้นงานโค้ชใหม่ๆ ด้วยการคุมทีมสำรองร่วมกับ วอร์เรน จอยซ์
ด้วยเหตุผลนี้เอง บวกกับการเคยเป็นเด็กปั้นของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงยื่นข้อเสนอที่บ้างก็เชื่อว่า 20 ล้านปอนด์ บ้างก็เชื่อว่า 25 ล้านปอนด์ แต่ถูก บอร์นมัธ ปฏิเสธ เพราะเหตุผลที่ทีมกำลังหนีตกชั้นอยู่ แม้ จอช เหลือสัญญาอีกเพียง 18 เดือนก็ตาม
"มันใกล้เคียงแค่ไหน ผมไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ผมมีความเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับผม ที่ย้ายมาอังกฤษตั้งแต่อายุ 16 เพื่อทำตามความฝันและต้องการไปถึงเป้าหมายนั้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"
"แต่มันไม่เกิดขึ้น เมื่อคุณได้ยินว่า ยูไนเต็ด ติดต่อและยื่นข้อเสนอเข้ามา ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนได้กลับไปตอนอายุ 16 อีกครั้ง แต่ทำไมมันไม่เกิดขึ้น ผมก็ไม่รู้" จอช พูดถึงความผิดหวังของตัวเองเพียงไม่กี่วันหลังพลาดการย้ายกลับ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
หลังจากนั้น กราฟชีวิตของ จอช ก็ค่อยๆ ดิ่งลงเรื่อยๆ บอร์นมัธ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก และไม่มีข้อเสนอยื่นเข้ามาในช่วงเวลาที่หลายสโมสรกำลังประสบวิกฤติทางการเงินจากโควิด-19
จอช ต้องกลับไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพอีกครั้ง และครั้งนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล บวกกับฟอร์มที่ตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงไม่ใช่ตัวหลักในทีมของ เจสัน ทินดอลล์
ผ่าน 12 เกมที่ลงสนามในแชมเปี้ยนชิพ จากการเป็นตัวจริง 5 เกม และสำรองอีก 7 เกม ไม่มีประตูเกิดขึ้นเลยแม้แต่ลูกเดียว แต่ยังคงได้รับความสนใจจากทีมพรีเมียร์ลีก อาทิ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับ เอฟเวอร์ตัน
จนกระทั่งช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมปี 2021 หรืออีก 5 เดือนก่อนหมดสัญญา ในที่สุด บอร์นมัธ ก็ตอบรับข้อเสนอของ เอฟเวอร์ตัน ถึงตอนนี้เป็นการตกลงค่าตัวเบาๆ 2 ล้านปอนด์ กับการเซ็นสัญญาระยะสั้น 6 เดือน แต่หาก ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ต้องการต่อสัญญาเพิ่ม ก็จะต้องเพิ่มค่าตัวให้อีกนิดหน่อย
ถึงตอนนี้ จอช ลงเล่นในชุด เอฟเวอร์ตัน ไปเพียง 9 เกม เป็นการลงในฐานะตัวสำรองทั้งหมด ที่สำคัญยังทำประตูไม่ได้เลย จึงมีแนวโน้มสูงที่ คาร์โล อันเชล็อตติ จะปล่อยนักเตะหมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้ และอาจต้องระเห็จไปเล่นในลีกตุรกีในฤดูกาลหน้า เพราะยังมีทีมใหญ่ที่ให้ความสนใจอยู่
นี่คือตัวอย่างของความล้มเหลวจากการเดินหมากที่ผิดพลาดของ บอร์นมัธ ทำให้พลาดการได้ค่าตัวแตะหลัก 20 ล้านปอนด์ แถมต้องตกชั้น ขณะที่ จอช คิง ต้องผิดหวังกับการพลาดย้ายกลับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขั้นฟอร์มตกแบบกู่ไม่กลับ