'ไอดอล' ของเขาคือ เธียร์รี่ อองรี จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เห็นกองหน้ากึ่งปีกซ้ายขยับเข้ามาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าเต็มตัว และมีฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกที่ลืมไม่ลง
ประวัติและเรื่องราวในอดีตของ โอลิเวอร์ จอร์จ อาร์เธอร์ วัตกิ้นส์ หรือที่รู้จักในนาม โอลลี่ วัตกิ้นส์ ไม่ได้มีมากมายเหมือนซูเปอร์สตาร์คนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก หรือแม้แต่เพื่อนร่วมทีม แอสตัน วิลล่า อย่าง แจ๊ค กรีลิช
แต่ถ้าเป็นเรื่องการก้าวกระโดดในอาชีพนักฟุตบอล พูดได้เลยว่า โอลลี่ วัตกิ้นส์ นี่น้องๆ เจมี่ วาร์ดี้ เลยทีเดียว
โอลลี่ เกิดใน นิวตัน แอ๊บบ็อต และเติบโตที่นั่น จึงไม่แปลกอะไรที่ทีมเชียร์ในวัยเด็กคือ ทอร์คีย์ ยูไนเต็ด สโมสรในละแวกใกล้เคียงที่ตอนนั้นเล่นอยู่ในระดับดิวิชั่น 3 (หรือลีกทูปัจจุบัน)
การเริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอล โอลลี่ ก็ไม่ได้ออกเดินทางไปไหนไกล หลังจากล้มเหลวในการทดสอบฝีเท้าตอนอายุ 9 ขวบ เขาก็ได้สมหวังหลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ทีมเยาวชน ชุดอายุไม่เกิน 11 ปี ของ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ ที่ตอนนั้นเล่นอยู่นอกลีก ระดับคอนเฟอเรนซ์พรีเมียร์ (หรือรองจากลีกทูปัจจุบัน)
30 ประตูกับทีมชุดยู-18 ในฤดูกาล 2013-14 ทำให้ โอลลี่ ได้เซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพฉบับแรกกับ เอ็กเซเตอร์ ระยะเวลาสองปี ค่อยๆ ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในทีมที่เล่นในลีกทู ฤดูกาล 2015-16 และเป็นตัวหลักของทีมในซีซั่นต่อมา
รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของอีเอฟแอล ในฤดูกาล 2016-17 เป็นเครื่องการันตีความสามารถที่ทำให้ ดีน สมิธ ผู้จัดการทีม เบรนท์ฟอร์ด ดึงตัวไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพซีซั่นถัดมา
โอลลี่ ก้าวกระโดดสองขั้นจากลีกทูขึ้นสู่แชมเปี้ยนชิพ โดยเซ็นสัญญาระยะเวลา 4 ปีอยู่ในถิ่น กริฟฟิน พาร์ค (สนามเก่าของ เบรนท์ฟอร์ด) ค่าตัวคาดการณ์ว่าอยู่ที่ราวๆ 1.8 ล้านปอนด์ เป็นการตอบแทนสโมสรที่มีพระคุณอย่าง เอ็กเซเตอร์ ได้ไม่น้อยทีเดียว
ด้วยบทบาทกองหน้าตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โอลลี่ ทำไป 11 ประตู กับ 12 ประตูในสองฤดูกาลแรก จนได้รับสัญญาฉบับใหม่ที่ดีขึ้นทั้งเรื่องระยะเวลาที่ยืดออกไปจนถึงปี 2023 และค่าเหนื่อยที่ตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ แม้เจ้านาย สมิธ จะย้ายไปคุม แอสตัน วิลล่า ตั้งแต่ต้นซีซั่น 2018-19 แต่คนที่มาแทนคือ โธมัส แฟร้งค์ ซึ่งก็เป็นมือขวา สมิธ มาก่อน
แต่การเปลี่ยนแปลงของ โอลลี่ เกิดขึ้นในซีซั่น 2019-20 เมื่อทีมขาย นีล โมเปย์ ไปให้ ไบรท์ตัน ในพรีเมียร์ลีก ทำให้เขาต้องขยับเข้ามายืนตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าแทนที่ โดยมี ไบรอัน เอ็มบวยโม่ ที่ย้ายมาใหม่ ทดแทนตำแหน่งริมเส้น
จบฤดูกาลที่ โอลลี่ ซัลโวไป 26 ประตูเป็นดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพร่วมกับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช แต่โชคร้ายที่ เบรนท์ฟอร์ด มาแผ่วช่วงท้ายซีซั่น พลาดเลื่อนชั้นอัตโนมัติ และยังมาแพ้รอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟอีก
เบรนท์ฟอร์ด ต้องอยู่แชมเปี้ยนชิพต่อ แต่ โอลลี่ จะได้เล่นพรีเมียร์ลีกแน่ เมื่อมีข้อเสนอยื่นเข้ามาอย่างเป็นทางการ
"มีข้อเสนอเข้ามามากพอสมควร" โอลลี่ เล่าถึงช่วงเวลาเมื่อซัมเมอร์ปี 2020
"ลีดส์ ให้ความสนใจผม แต่พวกเขาเพิ่งเซ็น โรดรีโก้"
"ท็อตแน่ม ก็สนใจผม แต่พวกเขาก็ชัดเจนว่าถ้า แฮร์รี่ เคน ฟิตสมบูรณ์ เขาจะได้เล่น ผมค้างคาใจเรื่องนั้น แต่พวกเขาก็บอกว่ากับโปรแกรมหลายรายการ ที่มียูโรปาลีกด้วย ยังมีอีกหลายเกมให้ได้ลงสนาม"
"ผมต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ในที่สุดผมก็รู้สึกว่าผมตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว"
"เจ้านาย (ดีน สมิธ) มีส่วนสำคัญมากในการพาผมมาที่ วิลล่า ผมเคยร่วมงานกับเขา และสนิทกับเขามากที่ เบรนท์ฟอร์ด"
เพียงแค่เกมที่สามของ โอลลี่ ในพรีเมียร์ลีก ก็สามารถประเดิมประตูสำเร็จ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ แน่ เพราะเป็นการยิงแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ 4 นาทีแรก และจบเกมด้วย 'แฮตทริก' ในชัยชนะที่โลกต้องตะลึง 7-2
"ตอนผมกลับถึงบ้าน ผมเดินเข้าประตูพร้อมลูกบอลที่ยิงแฮตทริกและกระเป๋าเสื้อผ้า ผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ยิ่งผมคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ข้อความในโทรศัพท์ของผมก็เข้ามาไม่หยุด มันบ้ามากๆ"
"ผมคงโกหกถ้าบอกว่า ไม่" โอลลี่ ตอบคำถามที่ว่ารู้สึกประหลาดใจมั้ยที่ปรับตัวเล่นพรีเมียร์ลีกได้ดีมาก?
"ที่ วิลล่า คุณมีทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการ สนามซ้อมที่ไม่น่าเชื่อ คุณมีทุกอย่างที่คุณต้องการกับการผลักดันตัวเองไปในทิศทางที่ถูกต้อง ผมต้องการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ผมรู้สึกเหมือนว่านี่คือที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผมแล้ว"
"มันช่วยยกระดับเกมของผม และพาผมก้าวไปอีกขั้น ผมประหลาดใจนิดหน่อยที่ตัวเองเล่นได้ดีในบางเกม แต่ผมก็รู้สึกว่าผมมีนักเตะเก่งๆ อยู่รายรอบตัวไปหมด ทุกคนช่วยผลักดันผมไปในทางที่ใช่ ผมจึงไม่แปลกใจเลย"
ชื่อของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ติดอยู่ในท็อปชาร์ตดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอย่างต่อเนื่อง แกเร็ธ เซาธ์เกต จึงไม่อาจมองข้ามกับการเรียกตัวสู่ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ที่มีโปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ในเดือนมีนาคม
โอลลี่ ไม่เคยติดทีมชาติใดๆ และชุดเยาวชนระดับไหนมาก่อน ซึ่งคงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับนักเตะหนุ่มที่เริ่มต้นในลีกทู แต่ตอนนี้กำลังจะได้ประเดิมสนามในทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่
เซาธ์เกต เลือกส่ง โอลลี่ ลงในฐานะตัวสำรองนาที 63 ของเกมที่อ่อนที่สุด นั่นคือการเจอกับ ซาน มารีโน่ ที่ เวมบลีย์
"ตอนที่ผมลงสนาม ผมคิดในใจว่า "ขอเถอะนะ ผมขอแค่โอกาสเดียว" ในช่วง 10-15 นาทีแรก ผมได้แต่มองบอลอย่างเดียว ไม่มีใครส่งบอลให้ผมเลย"
"ผมเลยต้องถอยตัวเองลงมายืนครึ่งสนาม ผมแค่ขอสัมผัสบอลหน่อยเถอะ นิดนึงก็ยังดี แล้วผมก็คิดว่าโอกาสคงมาถึง แค่ไปยืนรออยู่แถวๆ กรอบโทษเข้าไว้"
"ฟิล (โฟเด้น) ผ่านบอลมาถึงแล้วผมก็ยิงเข้าไป มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษที่สุด เมื่อคุณหันไปรอบๆ เพื่อนๆ ทุกคนมารายล้อม นี่คือเกมประเดิมและยิงประตูได้ ทุกคนจึงวิ่งมาหาผม มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยสัมผัสมาเลย"
ถึงตอนนี้ ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว แอสตัน วิลล่า ลอยตัวอยู่กลางตารางแบบสบายๆ ไม่ต้องลุ้นหนีตกชั้น
เหลือแค่เป้าหมายส่วนตัวของ โอลลี่ หนึ่งคือการจบฤดูกาลด้วยการมีชื่ออยู่ในชาร์ต 'ท็อป 10' ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ซึ่งตอนนี้ยังคงเกาะอยู่แบบเฉียดฉิว และสองคือการลุ้นมีชื่ออยู่ในทีมชาติอังกฤษ ชุดยูโร 2020
