:::     :::

'เซาธ์เกต'กับปัญหาแนวรุก

วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2564 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,140
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจบสามเกมในรอบแบ่งกลุ่ม เห็นได้ชัดว่า อังกฤษ ชุดยูโร 2020 ไม่มีที่ว่างในทีมสิบเอ็ดตัวจริงให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช่

ด้วยสภาพทีมที่สมบูรณ์ และฝีเท้านักเตะที่ใกล้เคียงกันของ อังกฤษ ทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องครุ่นคิดอย่างหนักแน่ๆ สำหรับการจัดทัพตัวจริงในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ยังไม่รู้หน้าตาคู่แข่งว่าทีมใดจะจบอันดับสองกลุ่มเอฟ

จากการยึดระบบ 4-2-3-1 ทั้งสามเกมที่ชนะ โครเอเชีย 1-0, เสมอ สกอตแลนด์ 0-0, ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 จึงค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า เซาธ์เกต จะยึดระบบนี้ในยูโร 2020 ไปจนจบ แตกต่างจากเมื่อสามปีก่อนที่เลือก 3-5-2 ในเวิลด์คัพ 2018
ตำแหน่งผู้รักษาประตู จอร์แดน พิคฟอร์ด มือหนึ่ง กับแนวรับถือว่าลงตัวแล้ว เมื่อได้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กลับมาลงสนาม และผ่านตลอด 90 นาทีเกมกับ สาธารณรัฐเช็ก ดังนั้น ไทโรน มิงส์ คงต้องกลับไปรับบทบาทเดิม นั่นคือตัวสำรอง
อีกสามตำแหน่ง เซนเตอร์แบ็ก จอห์น สโตนส์ กับแบ็กขวา ไคล์ วอล์คเกอร์ ถูกวางเป็นตัวหลักค่อนข้างแน่ และแบ็กซ้ายมีโอกาสที่ ลุค ชอว์ จะยึดตัวจริงต่อไปยาวๆ
แดนกลาง เดแคลน ไรซ์ น่าจะจับจองตัวจริงกับ คัลวิน ฟิลลิปส์ ที่โดดเด่นเรื่องความฟิตและพละกำลัง โอกาสที่ตัวประสบการณ์อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะเบียดกลับมาได้มีน้อย
ปัญหาคือแนวรุกนี่แหละ ที่มีตัวเลือกเยอะ และยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะยึดตำแหน่งในรอบน็อกเอาท์
จากเกมแรกกับ โครเอเชีย ราฮีม สเตอร์ลิง ถูกวางเป็นตัวรุกร่วมกับ เมสัน เมาท์, ฟิล โฟเด้น และหน้าเป้ากัปตันทีม แฮร์รี่ เคน มาถึงเกมสองกับ สกอตแลนด์ เซาธ์เกต ถูกวิจารณ์เยอะพอสมควร กับการไม่เปลี่ยนแปลงแนวรุกทั้ง 4 คนเลย
จริงอยู่ สิงโตคำราม เริ่มต้นด้วยชัยชนะ แต่เป็นชัยชนะในรูปเกมที่อึดอัด เกมรุกไม่ได้ไหลลื่นอย่างที่ควรจะเป็น แฟนๆ จึงอยากเห็นตัวเลือกข้างสนาม แจ๊ค กรีลิช, เจดอน ซานโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ บูคาโย่ ซาก้า สลับมาโชว์ฝีเท้าบ้าง
ในเกมสามกับ สาธารณรัฐเช็ก กรีลิช กับ ซาก้า ถูกส่งลงตัวจริงแทนที่ เมาท์ กับ โฟเด้น ด้วยเหตุผลที่ เมาท์ ถูกกักตัวจากการใกล้ชิด บิลลี่ กิลมอร์ รุ่นน้องในทีม เชลซี เกมเจอ สกอตแลนด์ ส่วน โฟเด้น เป็นเหตุผลเรื่องคาดโทษใบเหลืองอยู่
เซาธ์เกต ชี้แจงแบบนี้ หมายความว่าถ้าไม่มีการกักตัวหรือคาดโทษใบเหลือง 4 แนวรุกในเกมกับ เช็ก จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากสองเกมแรกอย่างนั้นเหรอ?
นี่จึงเป็นเรื่องยากสุดๆ ที่จะอ่านความคิดของ เซาธ์เกต ว่าจะเลือกทีมแบบไหนลงเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย
จากก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ทั้งแฟนบอล สื่อ และบรรดาอดีตนักฟุตบอลที่ผันตัวเป็นนักวิเคราะห์ ต่างกดดันให้ เซาธ์เกต เลือก กรีลิช เป็นตัวจริงบทบาทจอมทัพของทีมชุดนี้ แต่ก็ไม่มีผลอะไร เพราะ เมาท์ ถูกเลือกในสองเกมแรก
ถึงตอนนี้ เซาธ์เกต ถูกกดดันหนักขึ้นเมื่อไม่มี เมาท์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แล้วยังเจอกระแส ซาก้า ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นในเกมกับ เช็ก กดดันเพิ่มเข้าไปอีก
จากเกมกับ สกอตแลนด์ แฟนๆ สิงโตคำราม ส่งเสียงโห่ใส่ เซาธ์เกต ตอนถอด โฟเด้น ออกแล้วส่ง กรีลิช ลงสนาม และมาในเกมกับ เช็ก เสียงโห่ เซาธ์เกต ก็มาอีกครั้งตอน กรีลิช ถูกเปลี่ยนตัวออก
ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ดูเหมือนว่าแนวรุกจะเป็นการแข่งขันกันแค่ระหว่าง กรีลิช, โฟเด้น และ ซาก้า ส่วนอีกสองคน สเตอร์ลิง กับ เคน คงใช้อภิสิทธิ์แตะต้องไม่ได้
ส่วนในราย ซานโช่ เพิ่งลงสำรองเกมกับ เช็ก ไปในนาที 84 คงหมดสิทธิ์ลุ้นตำแหน่งตัวจริงเช่นเดียวกับ แรชฟอร์ด ที่สามนัด ลงสำรองนาที 71 เกมกับ โครเอเชีย, ลงสำรองนาที 74 เกมกับ สกอตแลนด์ และลงสำรองนาที 67 เกมกับ เช็ก
เซาธ์เกต ถูกมองว่าเข้ามาคุมทัพ อังกฤษ ในยุคที่มีนักเตะให้เลือกใช้งานหลากหลายและดีที่สุด ที่เหลือก็อยู่ที่แผนการเล่น แท็กติก และการแก้เกมแล้วว่าจะพา ทรี ไลออนส์ ไปได้ไกลแค่ไหนในยูโร 2020

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด