'กองกลางตัวรับ' มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังที่นำทีมประสบความสำเร็จได้ เหมือนอย่างที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทำมาแล้วกับ เลสเตอร์ และ เชลซี
เลสเตอร์ ไปค้นพบ ก็องเต้ มาจาก ก็อง ที่ตอนนั้นเพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกเอิงได้ฤดูกาลเดียว ค่าตัวสุดถูกเพียง 5.6 ล้านปอนด์ ก่อนขายให้ไปประสบความสำเร็จต่อที่ เชลซี ในราคา 32 ล้านปอนด์
การเสาะหา 'เพชรในตม' แบบ ก็องเต้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-21 ที่ผ่านมา มีการจดบันทึกสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจเอาไว้มากมายหลายแขนง ซึ่งหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ได้รับการยืนยันโดย 'สถิติ' ว่ามีผลงานดีที่สุดลำดับต้นๆ น่าสนใจตรงที่มีชื่อ อีฟ บิสซูม่า โผล่อยู่ตรงจุดนั้น
ก่อนอื่น ไปทำความรู้จัก บิสซูม่า กันก่อนว่ากองกลางรายนี้เป็นใคร? มาจากไหน?
กองกลางของสโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน เกิดที่เมืองอิสเซีย ประเทศไอวอรี่โคสต์ มีเชื้อสายไอวอเรียน แต่เมื่อเลือกทางเดินสายฟุตบอล เขาตัดสินใจอำลาไปครอบครัวไปฝึกเข้าศูนย์ฝึกเยาวชนของ ฌอง-มาร์ก กิลลู ในกรุงบามาโก้ ประเทศมาลี เพื่อนบ้านที่ดูจะมีอนาคตสดใสมากกว่า (และหลังจากนั้นก็ตัดสินใจเลือกเล่นให้ทีมชาติมาลี ทั้งที่ได้รับการติดต่อจากไอวอรี่โคสต์เช่นกัน)
พอเริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลกับสโมสร เรียล บามาโก้ ก็ถูกจับตามองจากแมวมองของหลายสโมสรในฝรั่งเศส สุดท้ายได้เซ็นสัญญากับสโมสร ลีลล์ ตอนอายุ 20 ปี ฉายแววโดดเด่นอยู่สองฤดูกาล ก็ถูก ไบรท์ตัน ซื้อมาร่วมทัพในราคาที่คาดการณ์ว่าอยู่ที่ราวๆ 15 ล้านปอนด์
บิสซูม่า เป็นตัวหลักในแดนกลางของ ไบรท์ตัน มาโดยตลอดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมา จนกระทั่งโชว์ฟอร์มสะดุดตาที่สุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
จากสถิติที่น่าสนใจของบรรดากองกลางในพรีเมียร์ลีกทั้งหลาย ชื่อของ บิสซูม่า กลายเป็นเบอร์หนึ่ง กองกลางที่เข้าสกัดบอลได้มากที่สุด 104 ครั้ง ตามด้วย ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 98 ครั้ง และ วิลเฟรด เอ็นดีดี้ ของ เลสเตอร์ 96 ครั้ง
แล้วกองกลางตัวรับที่แฟนบอลต่างคิดถึงเป็นคนแรกอย่าง ก็องเต้ มีชื่ออยู่เพียงอันดับ 9 แท็กเกิ้ล ไปทั้งหมด 79 ครั้ง ขณะที่ เดแคลน ไรซ์ ของ เวสต์แฮม ที่ถูกยกย่องเกินหน้าเกินตา และถูกตั้งค่าตัวถึง 100 ล้านปอนด์ แต่เข้าสกัดบอลได้แค่ 59 ครั้ง อยู่อันดับ 28 ในบรรดากองกลางทั้งหมด
สถิติอื่นๆ หากเทียบกันตัวต่อตัวระหว่าง บิสซูม่า กับ ก็องเต้ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
นอกจากเรื่องเข้าสกัดบอลที่ บิสซูม่า เหนือกว่า 104-79 แล้ว การตัดบอลหรือแย่งบอล บิสซูม่า ก็ยังเอาชนะ 64-59 และตัวเลขเคลียร์บอลทิ้งห่าง ก็องเต้ 64-26
จริงๆ แล้ว บิสซูม่า ก็ไม่ได้ดูเป็นกองกลางตัวรับจ๋าเหมือนอย่าง ก็องเต้ เพราะได้เห็นประตูที่ส่องไกลสวยๆ จากกองกลางทีมชาติมาลีมาแล้ว และเมื่อเทียบสถิติการง้างเท้ายิง บิสซูม่า เหนือกว่า ก็องเต้ ถึง 42-10
เรื่องการผ่านบอล บิสซูม่า ก็ทำได้ดีกว่า 1,685 ครั้ง เหนือกว่า ก็องเต้ 1,529 ครั้ง แต่ไม่ใช่ลำดับต้นๆ ทั้งคู่
จากสถิติต่างๆ ที่ปรากฏออกมา ตัวเลขของ บิสซูม่า ดูจะเหนือกว่า ก็องเต้ ไปเสียหมด แต่สถิติหลายอย่างที่โดดเด่นของ ก็องเต้ ที่ไม่ได้ถูกจดบันทึกเอาไว้อย่าง การวิ่งไล่กดดันคู่แข่งแบบไม่มีหมด เรื่องนี้ดูจะมีใครมาทำลายยาก
ความเหมือนที่แตกต่างของทั้งสองคนคือ บิสซูม่า เป็นไอวอเรียน (ไอวอรี่โคสต์) ที่เล่นให้ทีมชาติมาลี ขณะที่ ก็องเต้ เป็นชาวมาเลียน (มาลี) แต่เล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส
ถึงตอนนี้ ชื่อของ อีฟ บิสซูม่า สามารถพิสูจน์ตัวเองในระดับทีมหนีตกชั้นอย่าง ไบรท์ตัน ได้แล้ว ก้าวต่อไปคือการพิสูจน์ตัวเองกับทีมใหญ่ที่ตอนนี้ได้รับความสนใจจาก อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ค่าตัวที่คาดการณ์ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ 40 ล้านปอนด์ แม้ดูแพงไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับอายุ 24 ปี และมองว่าจะกลายเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คนต่อไปในพรีเมียร์ลีกแล้ว ถือเป็นการลงทุนที่น่าลองเสี่ยง
