แฟนๆ วูล์ฟส์ คงได้ชื่นใจ เมื่อเห็น ราอูล ฮีเมเนซ กลับมาทำประตูได้อีกครั้ง แม้เป็นแค่เกมอุ่นเครื่อง แต่ก็สร้างกำลังใจให้ศูนย์หน้าเม็กซิกันได้ไม่น้อย
นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า เมื่อปี 2018 ราอูล กลายเป็นดาวซัลโวของสโมสร วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทันที ฤดูกาล 2018-19 ตะบันไป 17 ประตูรวมทุกรายการ และซีซั่น 2019-20 กระซวกไปถึง 27 ประตูรวมทุกรายการ
และในช่วงเวลานั้นก็ถูกโยงกับหลายสโมสรใหญ่ หนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ฟอร์มของ ราอูล ยังคงร้อนแรง เปิดฤดูกาล 2020-21 พรีเมียร์ลีก ซัดไปถึง 4 ประตูจาก 6 เกมแรก แต่แล้วเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นก็มาถึงในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2020 เป็นเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ที่ วูล์ฟส์ ออกไปเยือน อาร์เซน่อล
จากจังหวะเล่นลูกเตะมุมของ วูล์ฟส์ ที่มีการปะทะกันกลางอากาศเหมือนกับทุกๆ ครั้ง ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แต่หลังจากศีรษะสัมผัสกันระหว่าง ราอูล กับ ดาวิด ลุยซ์ ทันใดนั้นศูนย์หน้าเม็กซิกันก็หลับกลางอากาศ
ราอูล ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแบบทันท่วงที ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้นได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่ากะโหลกศีรษะร้าว และต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร็วที่สุด
แค่นั้นแหละ วูล์ฟส์ รู้ทันทีว่าจะหมดสิทธิ์ใช้งานศูนย์หน้าคนสำคัญตลอดทั้งฤดูกาลค่อนข้างแน่ เพียงแต่อาการบาดเจ็บลักษณะนี้ยากจะคาดเดากำหนดกลับคืนสนาม
ราอูล ใช้เวลาสามเดือนเศษๆ กลับมาฟื้นฟูร่างกายกับทีมแพทย์ของสโมสร ทำได้เพียงการอบอุ่นร่างกาย และซ้อมตามลำพัง เพราะยังไม่สามารถใช้ร่างกายเข้าปะทะได้
ปลายเดือนมีนาคม เม็กซิโก เรียกตัว ราอูล ไปฝึกซ้อมกับทีมชาติ ขณะเดินทางมาเตะอุ่นเครื่องที่ เวลส์ แต่เป็นเพียงการแยกซ้อมเบาๆ เช่นกัน เรียกได้ว่าเชิญมาพบปะเพื่อนฝูงมากกว่า
ในช่วงเวลานั้น เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ เฮดโค้ชทีมชาติ แอบหวังว่าจะเห็น ราอูล รับใช้ จังโก้ ในช่วงเดือนกรกฏาคม ไม่ทัวร์นาเมนต์ โกลด์คัพ ของทีมชุดใหญ่ ก็อาจเป็น โอลิมปิก เกมส์ ของทีมชุดยู-23
ทั้งนี้ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ราอูล ต้องกลับมาลงสนามให้ได้ในช่วงปลายฤดูกาล 2020-21
แต่สุดท้าย ความหวังดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น
เพียงไม่กี่วันก่อนเกมสุดท้ายพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2020-21 ที่ วูล์ฟส์ มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ราอูล เข้ารับการตรวจจากแพทย์ โดยการทำ เอ็มอาร์ไอ สแกน ทดสอบด้วยจิตวิทยา และการโหม่งบอล ก่อนจะได้รับไฟเขียวให้ลงซ้อมอย่างเต็มรูปแบบได้แล้ว แต่ก็เตรียมความพร้อมไม่ทันสำหรับเกมสุดท้าย
เป้าหมายของ วูล์ฟส์ คือการเห็น ราอูล พร้อมที่สุดสำหรับการกลับมาซ้อมในช่วงปรีซีซั่น 2021-22 มากกว่า
เดิมที มีการยืนยันว่า ราอูล จะต้องสวมเฮดการ์ดไปตลอดอาชีพค้าแข้ง แบบเดียวกับที่ ปีเตอร์ เช็ก เคยใช้ แต่นั่นคงสร้างปัญหาให้กับศูนย์หน้าที่ต้องเล่นลูกศีรษะบ่อยๆ แตกต่างไปจากผู้รักษาประตู
ดังนั้นอุปกรณ์ป้องกันที่ศีรษะของ ราอูล จึงถูกเรียกว่า เฮดแบนด์ ที่มีลักษณะเป็นผ้าคาดศีรษะธรรมดาๆ แต่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นการออกแบบพิเศษป้องกันกะโหลกศีรษะ และได้รับการรับรองจากแพทย์
ราอูล เริ่มต้นลงสนาม 33 นาทีในเกมแพ้ ครูว์ อเล็กซานดรา, ลงอีก 60 นาทีในเกมชนะ เรอัล เบติส, ลงสำรองในเกมชนะ อัล ชาบับ (เตะสนามซ้อมไม่เป็นทางการ) ซึ่งเกมนี้ ราอูล สังหารจุดโทษท้ายเกม ก่อนถึงเกมที่ เบท 365 สเตเดี้ยม ที่ วูล์ฟส์ บุกเสมอ สโต๊ค 1-1 ราอูล ยิงประตูได้ต่อเนื่อง
ประตูสุดท้ายในพรีเมียร์ลีกของ ราอูล ต้องย้อนกลับไปวันที่ 25 ตุลาคม เกมเสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 เท่ากับว่าเกือบจะสิบเดือนเต็มอยู่แล้วที่ ราอูล ไม่ได้สัมผัสการเฉลิมฉลองหลังทำประตูได้
74 นาทีที่อยู่ในสนาม เบท 365 สเตเดี้ยม นอกจากประตูที่ยิงได้แล้ว นี่คือเกมที่ ราอูล ได้ทดสอบศีรษะมากที่สุดในเกมอุ่นเครื่องเลยก็ว่าได้ เป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ ราอูล ได้มากขึ้น โดยเฉพาะครึ่งแรกที่ดวลลูกกลางอากาศชนะคู่แข่งหลายครั้ง
ถึงตอนนี้ เรื่องความฟิต สมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ จังหวะกับเกม ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ราอูล ฮีเมเนซ กำลังจะกลับมาเป็นตัวหลักของ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และกลับมาเป็นดาวเด่นของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2021-22 เช่นกัน