เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์ พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ 2021-22 จะเปิดฉากขึ้น ขณะที่ตลาดซื้อขายยังคงเปิดทำการไปจนถึงสิ้นเดือน
แอสตัน วิลล่า กลายเป็นทีมที่เสริมทัพในแนวรุกได้น่าตื่นตาตื่นใจ สี่คนแรกที่เซ็นเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ เอมิเลียโน่ บวนเดีย, แอชลี่ย์ ยัง, ลีออน เบลี่ย์, แดนนี่ อิงส์ ค่าตัวรวมกันเฉียดๆ 100 ล้านปอนด์เข้าให้แล้ว
แม้ในทางกลับกัน กำลังจะเสีย แจ็ค กรีลิช กัปตันทีมย้ายออกไป แต่ค่าตัวที่ได้กลับมาเป็นสถิติใหม่ของอังกฤษก็ถือว่าน่าพอใจ
ทิศทางของสโมสร แอสตัน วิลล่า กำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกเมื่อสองปีก่อน
เหตุผลสำคัญมาจากการเสริมทัพที่วางรากฐานของทีมได้ดี ซึ่งก็เป็นผลมาจากปัจจัยด้านการเงินของสโมสร
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 หลังตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก เรคอน กรุ๊ป กลุ่มทุนสัญชาติจีน บรรลุข้อตกลงซื้อหุ้นจาก แรนดี้ เลอร์เนอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน จบที่ตัวเลข 76 ล้านปอนด์ และ โทนี่ เสียะ ซึ่งเป็นประธาน, ซีอีโอ และเจ้าของ เรคอน กรุ๊ป ก็ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสโมสร แอสตัน วิลล่า
อย่างไรก็ตาม แอสตัน วิลล่า ประสบปัญหาทางการเงิน เพราะ เสียะ ไม่สามารถโยกย้ายเงินจากจีนเข้าสู่สหราชอาณาจักรได้ กลายเป็นส่งผลกระทบในวงกว้างกับสโมสร
ภายหลังปัญหามากมายตลอดเวลาสองปี ในที่สุด เสียะ ก็ตัดสินใจขายหุ้นส่วนใหญ่ของเขาให้กับ เอ็นเอสดับเบิ้ลยูอี บริษัทที่มีเจ้าของร่วมคือสามพี่น้องครอบครัว ซาวิริส มหาเศรษฐีชาวอียิปต์ และ เวส เอเดนส์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน
และปี 2018 นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของกราฟที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ของ แอสตัน วิลล่า
การหมดอำนาจของ เสียะ และได้ นาสเซอร์ ซาวิริส ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานสโมสรคนใหม่ เพียงแค่ปีเดียว แอสตัน วิลล่า สามารถเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ทั้งที่ยังมีการลงทุนไม่มากนัก
หนึ่งปีผ่านไป เม็ดเงินมหาศาลจากเจ้าของใหม่ไหลเข้าสู่สโมสร ตามมาด้วยการเสริมทัพอย่างหนักหน่วง
ไทโรน มิงส์ 20 ล้านปอนด์, เอซรี่ คอนซ่า 12 ล้านปอนด์, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ 11.5 ล้านปอนด์, บียอร์น เอนเกิลส์ 9 ล้านปอนด์, คอร์ทนี่ย์ ฮอส 3 ล้านปอนด์ เป็นการวางรากฐานในแนวรับ
ดั๊กลาส ลุยซ์ 15 ล้านปอนด์, มาร์เวอลัส นาคัมบา 10.2 ล้านปอนด์ โปะแดนกลาง และ เวสลี่ย์ 22 ล้านปอนด์, เทรเซเก้ต์ 8.75 ล้านปอนด์ เป็นการจ่ายเพื่อแนวรุก (ยังมีอีกหลายคน) เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าของทีมให้ ดีน สมิธ เพื่อเป้าหมายคือการเป็นสมาชิกพรีเมียร์ลีกแบบผูกขาด
แต่การสร้างทีมใหม่หลังจากเลื่อนชั้นปีแรก ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายอยู่แล้ว แอสตัน วิลล่า ใช้เวลาเกือบทั้งฤดูกาลป้วนเปี้ยนอยู่แถวก้นตาราง เข้าสู่ครึ่งซีซั่นหลัง ก็จมแหมะอยู่ในโซนแดง จนกระทั่ง 4 เกมสุดท้ายที่เก็บไป 8 คะแนน ทำให้ทีมจบอันดับ 17 รอดตายอย่างหวุดหวิด ชนิดต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้ายของเกม
เอ็นเอสดับเบิ้ลยูอี ยังคงสนับสนุนงบประมาณในการเสริมทัพของ สมิธ สำหรับฤดูกาลที่สองในพรีเมียร์ลีก
โอลลี่ วัตกิ้นส์ 28 ล้านปอนด์, เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ 17 ล้านปอนด์, แบร์กตร็องด์ ตราโอเร่ 17 ล้านปอนด์, แม็ตตี้ แคช 14 ล้านปอนด์, มอร์กาน ซ็องซง 14 ล้านปอนด์ ถูกซื้อเข้ามาโปะในจุดต่างๆ ให้แน่นขึ้น
แอสตัน วิลล่า ออกสตาร์ตซีซั่นชนะ 4 เกมรวด หนึ่งในนั้นคือเกมถล่ม ลิเวอร์พูล 7-2 ที่มีแฮตทริกแรกจาก วัตกิ้นส์
แม้สุดท้ายแล้ว แอสตัน วิลล่า มาฟอร์มแผ่วในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง ทำให้จบอันดับ 11 ของตาราง แต่ถือเป็นทิศทางที่ดี
ซัมเมอร์ปีนี้ เจ้าของสโมสรยังคงอัดฉีดงบเสริมทัพอย่างหนักหน่วงเหมือนเดิม บวนเดีย 33 ล้านปอนด์, ยัง เซ็นฟรี, เบลี่ย์ 30 ล้านปอนด์, อิงส์ ค่าตัวไม่เปิดเผย แต่คาดว่าอยู่ที่ราวๆ 25 ล้านปอนด์ (และอาจมีเซ็นเข้ามาเพิ่มอีก) แม้หลังจากนี้อาจต้องขาย กรีลิช ออกไป แต่ก็ได้ค่าตัวแตะหลัก 100 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นผลดีสำหรับทุกฝ่าย
เห็นได้ชัดเจนว่า ทิศทางของ แอสตัน วิลล่า กำลังพุ่งขึ้นภายใต้การบริหารของ เอ็นเอสดับเบิ้ลยูอี ที่มี นาสเซอร์ ซาวิริส นั่งเก้าอี้ประธานสโมสร
จากเป้าหมายเดิมคือการปักหลักอยู่ในพรีเมียร์ลีกให้ได้ ตอนนี้เป้าหมายกำลังเปลี่ยนไป เป็นการท้าทายพื้นที่ยุโรป เหมือนอย่างที่เคยมีลุ้นอยู่ในบางช่วงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว