นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เดเล่ อัลลี ถูกตัดชื่อออกจากทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทั้งที่ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย
เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ช่วงของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ โชเซ่ มูรินโญ่
เพียงแต่ครั้งนี้ มันน่าแปลกกว่าที่เคย เพราะ อัลลี ถูก นูโน่ เอสปิริโต้ ตัดชื่อในเกมคาราบาวคัพ บอลถ้วยเล็กที่คาดว่าจะเป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองให้กับกองกลางที่กำลังฟอร์มตกอย่างแรง
เกิดอะไรขึ้นกับ อัลลี ครั้งแล้วครั้งเล่า?
เพราะผลงานในช่วงหลังที่ได้ลงสนาม รวมถึงการลงตัวจริงและเป็นความหวังของทีมในเกมยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ที่บุกแพ้ วิเทสส์ 0-1 มีน้ำหนักพอที่จะถูก นูโน่ ตัดชื่อ
นูโน่ ยอมรับว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของ อัลลี จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองเห็นโอกาสในพรีเมียร์ลีก และที่แย่ไปกว่านั้นคือในบอลถ้วย คาราบาวคัพ ก็ยังไร้โอกาส
อัลลี เคยเผชิญสถานการณ์เช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง ทั้งในช่วงเวลาของ โปเช็ตติโน่ และ มูรินโญ่ แต่กับ นูโน่ นาทีนี้ นี่คือช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุด และอาจถูกพิจารณาอนาคตในเดือนมกราคม หลังจากโค้ชชาวโปรตุกีสได้ลองพยายามแล้ว
การย้ายจาก เอ็มเค ดอนส์ มาอยู่กับ สเปอร์ส เมื่อปี 2015 ถือเป็นปรากฏการณ์การย้ายทีมครั้งสำคัญ เพราะค่าตัวเพียง 5 ล้านปอนด์ เป็นการก้าวกระโดดสองขั้นจากลีกวันขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก แล้วผลงานที่ออกมาในช่วง 3-4 ฤดูกาลแรกถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด
10 ประตูซีซั่นแรก, 22 ประตูซีซั่นสอง, 14 ประตูซีซั่นสาม ทำให้ โปเช็ตติโน่ จับไปเล่นกองกลางตัวรุกแบบเต็มตัว ผนึกกำลังร่วมกับ แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน
ในทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็กลายเป็นตัวหลักที่ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยบทบาทที่แตกต่างออกไป ทำให้ผลงานที่ออกมาไม่ได้ดูดีเหมือนที่สโมสร
แม้จะเป็นตัวเลือกลำดับแรกของ โปเช็ตติโน่ แต่เมื่อผลงานโดยรวมเริ่มตกต่ำลง การดร็อป อัลลี จึงเป็นทางเลือก
การมาของ มูรินโญ่ ถูกมองว่าเป็นการปลุก อัลลี ฟื้นคืนชีพ หลังจากกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงแรกๆ แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็กลับกลายเป็นแบบเดิม และครั้งนี้ถูกตัดชื่อออกจากทีมแทบจะเป็นขาประจำไปแล้ว
ภาพเหตุการณ์เดิมๆ กลับมาเกิดขึ้นในช่วงเวลาของ นูโน่ อีก เพราะในช่วงต้นซีซั่นนี้ยังเป็นตัวหลักของทีม เป็นคนเรียกจุดโทษและสังหารเองเป็นประตูชัยที่บ้าน วูลฟ์แฮมป์ตัน แต่แล้วทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม
เรื่องภายในสโมสร หรือเรื่องในสนามซ้อม คนภายนอกไม่มีทางรับรู้ แต่สิ่งที่แฟนบอลสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากผลงานในสนามคือภาพนักเตะที่วิ่งเหยาะแหยะไปมา เคาะบอลสั้นๆ ไม่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมได้เลย
และสิ่งที่ขาดหายไปอย่างชัดเจนคือการแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ความขยัน ความทุ่มเท แรงกระตุ้นหรือแรงจูงใจที่จะเล่นฟุตบอล นั่นคือสิ่งที่แฟนบอลต้องการเห็นมากที่สุด แม้อยู่ในช่วงฟอร์มตกก็ตาม
นี่คือนักเตะที่ 3-4 ปีที่แล้ว เคยถูกโยงเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด มาแล้ว และในปี 2018 ซีไออีเอส องค์กรชื่อดัง เคยยกให้เป็นกองกลางที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก จากการพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ
เมื่อ อัลลี ได้รับโอกาสหนที่สามจากโค้ชใหม่อย่าง นูโน่ แล้วยังไขว่คว้าเอาไว้ไม่ได้ บทสรุปที่ตามมาคงหนีไม่พ้นการอำลา ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เพราะตอนนี้สัญญาของกองกลางวัย 25 ปียังมีอายุถึงปี 2024 ยังคงเรียกค่าตัวได้ในระดับหนึ่ง
จากกองกลางที่เคยเป็นดาวดังของ สเปอร์ส เป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษที่ได้ไปลุยยูโร 2016 และเวิลด์คัพ 2018 มาแล้ว แต่ตอนนี้เลิกคิดเรื่องเวิลด์คัพ 2022 ไปได้เลย หากยังไม่สามารถปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นกับต้นสังกัด หรือบางทีโอกาสนั้นอาจไม่มาถึงอีกแล้ว