เสียงโห่ดังขึ้นในสนามสตาดิโอ โอลิมปิโก้ แทมมี่ อาบราฮัม คือเป้าโจมตีของแฟนบอลทีมตัวเอง ขณะเดินออกจากสนามแบบหมดสภาพ
เกิดอะไรขึ้นกับ แทมมี่ เจ้าของค่าตัว 40 ล้านยูโรที่ โรม่า ยอมจ่ายเพื่อซื้อศูนย์หน้าตัวสำรองของ เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ด้วยตัวเลขที่สูงขนาดนี้ แฟนบอล จัลโลรอสซี่ จึงฝากความหวังสูงสุดในการทำประตูเอาไว้ สำหรับการเข้ามาสวมเสื้อหมายเลข 9 ต่อจาก เอดิน เชโก้
การเริ่มต้นของ แทมมี่ ดูดีทีเดียว หลังย้ายเข้ามาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็จับลงตัวจริงทันทีในเกมแรกของฤดูกาลที่ชนะ ฟิออเรนตินา 3-1 แม้ไม่มีประตู แต่มีสองแอสซิสต์จากศูนย์หน้าอังกฤษ
เกมถัดมาที่บุกถล่ม ซาแลร์นิตาน่า 4-0 แทมมี่ นับหนึ่งประตูแรกได้แล้ว และบวกประตูที่สองในชัยชนะเหนือ อูดิเนเซ่ 1-0 ต่อหน้าแฟนๆ จัลโลรอสซี่ ในสตาดิโอ โอลิมปิโก้ เกมที่ 5 ของฤดูกาล ทำให้ โรม่า ยังคงเกาะกลุ่มหัวตารางร่วมกับ นาโปลี และสองทีมจากเมืองมิลาน
ผ่าน 5 เกมแรกในเซเรียอา แทมมี่ มี 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ เป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลวเลยทีเดียว
แต่หลังจากนั้นอีก 6 เกม ไม่มีประตูหรือแอสซิสต์จาก แทมมี่ อีกเลย หรือการมีส่วนร่วมกับประตูของทีมก็แทบไม่มีให้เห็น ทั้งที่เป็นตัวหลักในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าของ มูรินโญ่ จากการได้ลงตัวจริงทั้ง 11 เกม
สุดท้ายแล้วสิ่งที่แฟนๆ จัลโลรอสซี่ หลายคนเก็บกดเอาไว้ก็ได้ระเบิดออกมา นั่นคือเสียงโห่ในเกมที่ โรม่า แพ้คาบ้านต่อ เอซี มิลาน 1-2 ขณะที่ แทมมี่ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม
คะแนนความสามารถของ แทมมี่ ในเกมนี้ กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ให้ 5, ตุ๊ตโต้สปอร์ต ให้ 5, ตุ๊ตโต้แมร์กาโต้เว็บ ให้ 5, คอร์ริเอเร่ เดลล่า เซร่า ให้ 4.5, คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต ให้ 4
และบรรดาสื่อต่างๆ เหล่านี้ เริ่มตั้งคำถามในตัว แทมมี่ ไปยัง มูรินโญ่ หนักข้อขึ้น หลังจากมีประตูให้เห็นเพียง 2 ประตูจาก 11 เกมในเซเรียอา รวมแล้ว 4 ประตูจาก 15 เกมรวมทุกรายการ
"นี่เป็นครั้งแรกที่ อาบราฮัม ถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยเหตุผลทางเทคนิค เขาไม่ได้สร้างอันตรายอะไรเลยถึงขนาดทำให้ มูรินโญ่ ต้องเปลี่ยนตัวเขาออก" ความเห็นจาก คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต
"มันยากที่จะไปได้ไกล หากปราศจากศูนย์หน้าที่มีผลงานการยิงประตูที่ดี" ความเห็นจาก กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ที่จี้ไปหา มูรินโญ่ ให้ต้องทำอะไรสักอย่างในตัว แทมมี่
แต่ดูเหมือนว่า มูรินโญ่ จะยังคงกัดฟัน ให้เวลาและให้โอกาส แทมมี่ ที่ตนเองมองเห็นแววจากครั้งที่ยังอยู่ในทีมเยาวชนของ เชลซี ตอนคุมทัพในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
"เขามาจากวัฒนธรรมฟุตบอลที่แตกต่าง ค่านิยมของการตัดสิน หรือแม้แต่เรื่องสังคม มันไม่เคยง่ายเลย"
"เขาเริ่มต้นได้ดี สร้างผลกระทบต่อทีมในเชิงบวก ตอนนี้เขากำลังเผชิญช่วงเวลาที่พิเศษลดน้อยลง เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และเรามีความเชื่อมั่นในตัวเขา"
"ไม่มีปัญหาอะไรเลย เขาจะเล่นดีขึ้น และจะยิงประตูแน่นอน" คำพูดจาก มูรินโญ่ ที่ตอบคำถามนักข่าวประเด็นผลงานในช่วงหลังของ แทมมี่
ขณะที่ตัว แทมมี่ ทราบดีว่าถึงตอนนี้ตนเองกลายเป็นเป้าหมายที่ถูกจับตามองหนักขึ้นเรื่อยๆ และสำหรับศูนย์หน้า ประตูเท่านั้นที่จะทำให้เรื่องร้ายๆ คลี่คลายไปในทางที่ดี
"ในเกมฟุตบอลมีขึ้นและลง นั่นคือช่วงเวลาที่คุณได้เรียนรู้เพิ่มเติม สำหรับผมแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้แสดงความเป็นผู้นำของตัวเอง และช่วยทีมให้ได้"
"เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น บางครั้งคุณก็ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลายสิ่งเริ่มดีขึ้นในตอนนี้ (สภาพร่างกาย) และไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ผมจะตัดปัญหาเรื่องสภาพร่างกายทิ้งไปให้ได้"
"ผมหวังว่าจะกลับมาสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมหลงรักสโมสรแห่งนี้ตั้งแต่วันแรก พวกเขามีความเชื่อมั่นในตัวผมอย่างมาก มันขึ้นอยู่กับผมแล้วที่จะตอบแทนด้วยผลงาน"
"ผมไม่อยากพูดว่ามันเป็นเรื่องยากในสภาวะแวดล้อมใหม่ๆ ฟุตบอลมักมาพร้อมความท้าทายเสมอ ผมเคยเล่นทั้งเผชิญหน้าและร่วมงานกับ มูรินโญ่ มาแล้ว เป็นความท้าทายที่คุณได้เรียนรู้อะไรบางอย่างอยู่ทุกวัน"
"ทั้งทีมต่างรู้จักกันมากขึ้นในทุกๆ วัน เมื่อเราได้เรียนรู้ทุกอย่างแล้ว เราจะเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว"
ถึงตอนนี้ ขึ้นอยู่กับว่า มูรินโญ่ จะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าในเกมเซเรียอาหรือไม่ หลังจากใช้งาน แทมมี่ เป็นตัวจริงทั้ง 11 เกมแรก
ขณะที่ บอร์ฆา มาโยราล เพิ่งได้ลงสำรองเพียง 2 เกม ส่วนตัวเลือกอื่นๆ ที่เป็นกองหน้าริมเส้นอย่าง สเตฟาน เอล ชาราวี กับ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ เพิ่งได้ลงตัวจริงไปคนละเกมเท่านั้น
หาก แทมมี่ ยังได้รับโอกาส ศูนย์หน้าอังกฤษจะต้องกอบโกยการยิงประตูให้ได้มากที่สุด เพราะถือเป็นโอกาสอันดีแล้วเมื่อดูจากโปรแกรมเซเรียอา 4 เกมถัดไปที่จะได้เจอกับทีมอย่าง เวเนเซีย, เจนัว, โตริโน่ และ โบโลญญ่า ก่อนทำศึกใหญ่กับ อินเตอร์
แทมมี่ ต้องก้าวผ่านช่วงเวลาเช่นนี้ไปให้ได้ แต่ถ้ายังล้มเหลวเหมือน 6 เกมที่ผ่านมาอีก เสียงโห่จากแฟนๆ จัลโลรอสซี่ ก็คงหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนกว่า มูรินโญ่ จะดร็อปออกจากทีม