การบินสูงของ เวสต์แฮม ในช่วงต้นซีซั่นนี้ เกิดขึ้นจากหลายองค์ประกอบที่มาประจวบเหมาะในช่วงเวลาเดียวกัน
ระบบการเล่น 4-2-3-1 ของ เดวิด มอยส์ ถูกจับตามองไปที่แนวรุกมากที่สุด เพราะมีความเร็วเป็นอาวุธ และสลับตำแหน่งกันไปมาได้ดีทั้งสี่คน ไม่ว่าจะเป็น มิเคล อันโตนิโอ, ปาโบล ฟอร์นาลส์, จาร์รอด โบเวน, ซาอิด เบนราห์มา ที่เป็นแกนหลัก
แต่ตำแหน่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และมักถูกมองข้ามคือกองกลางตัวรับ ที่ฤดูกาล 2021-22 ยังคงเป็น เดแคลน ไรซ์ จับคู่กับ โทมัส ซูเช็ค ต่อยอดความสำเร็จมาจากซีซั่นที่แล้ว
ฤดูกาล 2020-21 ซูเช็ค คือดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร 10 ประตูเท่ากันกับ มิเคล อันโตนิโอ ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับ แต่ทีเด็ดของกองกลางทีมชาติเช็กอยู่ที่ลูกกลางอากาศ และการจบสกอร์จากลูกเซตพีซ
ขณะเดียวกัน มอยส์ ยังมอบอีกบทบาทให้เป็นตัวละครลับในการสอดขึ้นไปทำประตูในกรอบโทษจากจังหวะโอเพนเพลย์อีกด้วย
การขาย เซบาสเตียง อัลแลร์ แบบขาดทุนย่อยยับไปให้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในช่วงกลางซีซั่น ยังถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญให้ มอยส์ ค้นพบระบบการเล่นที่ดีที่สุดกับการจับ อันโตนิโอ ไปยืนหน้าเป้าแทน แล้วได้ เจสซี่ ลินการ์ด ที่ยืมมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาผนึกกำลังในการสร้างสรรค์เกมรุกร่วมกับ ฟอร์นาลส์ และ โบเวน
แม้ซีซั่นนี้ไม่สามารถดึงตัว ลินการ์ด มาร่วมทีมได้อีกครั้ง แต่ระบบการเล่นและแท็กติกต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่คนที่ลงสนามแทนคือ เบนราห์มา
สี่แนวรุก อันโตนิโอ, ฟอร์นาลส์, โบเวน, เบนราห์มา ประสานเกมรุกกันได้อย่างไหลลื่น ขณะเดียวกันอีกหนึ่งอาวุธของ เดอะ แฮมเมอร์ส ก็คือลูกตั้งเตะ ทั้งเตะมุมและฟรีคิก ที่มีสองเซนเตอร์แบ็ก, สองกองกลางตัวรับ และอีกหนึ่งศูนย์หน้าตัวเป้า เป็นตัวสอดเข้าทำในกรอบโทษ
23 ประตูจาก 11 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก คือผลงานการทำประตูที่น่าทึ่งของทีม เวสต์แฮม เป็นรองแค่ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ที่ยิงได้มากกว่าสองทีมเท่านั้น
และหากใครว่าการได้ไปเล่นถ้วยยุโรป โดยเฉพาะยูโรปาลีกที่ต้องลงเล่นวันพฤหัสบดี บังคับต้องกลับไปเล่นเกมลีกในวันอาทิตย์ เป็นการฉุดรั้งทีมให้ตกต่ำ แม้จะโรเตชั่นทีมหรือไม่ก็ตาม
แต่ มอยส์ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เวสต์แฮม สามารถเอาตัวรอดได้ในทุกรายการที่อยู่ตรงหน้า
ในถ้วย คาราบาวคัพ เวสต์แฮม สร้างปรากฏการณ์ด้วยการบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในรอบสาม และลงเล่นในบ้านเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 ก่อนชนะในช่วงการดวลจุดโทษ เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม
แม้หลายคนอาจมองว่า ผีแดง กับ เรือใบสีฟ้า ต่างโรเตชั่นทีมลงเล่นฟุตบอลถ้วยใบเล็ก แต่อย่าลืมว่า มอยส์ ก็โรเตชั่น ขุนค้อน เช่นกัน
ใน ยูโรปาลีก เวสต์แฮม ก็ใกล้การันตีการผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายเต็มทีแล้ว หลังจากคว้าชัยชนะสามเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มแบบคลีนชีต ดินาโม ซาเกรบ (เยือน) 2-0, ราปิด เวียนนา (เหย้า) 2-0, เกงค์ (เหย้า) 3-0 ก่อนที่เกมสี่บุกเสมอ เกงค์ 2-2 โอกาสจบอันดับหนึ่งของกลุ่มสดใสมาก
ถึงตอนนี้ แฟนๆ เดอะ แฮมเมอร์ส สามารถมองถึงความสำเร็จในฤดูกาลนี้ได้แล้ว หากยังคงรักษากำลังหลักของทีมเอาไว้ได้ในระยะยาว
โดยเฉพาะ 8 ตัวหลักที่ลงตัวจริงครบทั้ง 11 เกมในพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็น ลูคัส ฟาเบียนสกี้, อารอน เครสเวลล์, อังเจโล่ อ็อกบอนน่า, ปาโบล ฟอร์นาลส์, โทมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์, จาร์รอด โบเวน, ซาอิด เบนราห์มา ขณะที่ มิเคล อันโตนิโอ พลาดไปเกมเดียวเพราะติดโทษแบน
จากรายชื่อตอนนี้หายไปหนึ่งคนแล้ว เพราะ อ็อกบอนน่า บาดเจ็บจนต้องพักยาว ขึ้นอยู่กับตัวที่เข้ามาแทน ที่คาดว่าจะเป็น เคร็ก ดอว์สัน ว่าจะทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน
เพราะการที่่ มอยส์ มีสภาพทีมที่สมบูรณ์มาโดยตลอด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลงานในช่วงต้นฤดูกาลออกมายอดเยี่ยม
หากทุกอย่างยังคงเป็นใจให้ เวสต์แฮม ก็มีลุ้นยาวๆ แย่งตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนซีซั่นที่แล้วที่มีลุ้นจนถึงช่วงท้าย ก่อนจบอันดับ 6 ตามหลังอันดับ 4 แค่สองคะแนนเท่านั้น