หลายคนอาจสงสัยว่า นิวคาสเซิ่ล มีงบประมาณเสริมทัพมากมายในช่วงตลาดซื้อขายแรกของเจ้าของใหม่ แต่ทำไมถึงเลือกจ่ายหนักให้กับ คริส วูด
เป้าหมายสูงสุดของผู้บริหารชุดใหม่ของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด คือการเสนอชื่อทีมอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไปในฤดูกาล 2022-23 นี่คือภาระกิจสำคัญของเฮดโค้ช เอ็ดดี้ ฮาว ที่จะต้องทำให้ได้
เจ้าของทีมใหม่พร้อมตอบสนองเรื่องการเสริมทัพให้ผู้จัดการทีมใหม่ ดังนั้นผู้จัดการทีมใหม่ก็ต้องตอบสนองเรื่องผลการแข่งขันให้เจ้าของทีมใหม่เช่นกัน
เกมที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงทำให้ผู้บริหารต้องลากเก้าอี้มานั่งคุยกับ ฮาว สักหน่อย สำหรับแผนการเสริมทัพเพิ่ม ที่ตอนนี้เหลืออีกครึ่งทางของตลาดซื้อขายหน้าหนาว
จริงอยู่ การเสริมทัพไปแล้วสองคนอาจยังไม่เพียงพอที่จะพลิกโฉมหน้าของ นิวคาสเซิ่ล ในฤดูกาลนี้ แต่ ฮาว ก็ต้องปรับใช้ และเค้นศักยภาพของนักเตะที่มีอยู่ในมือเช่นกัน
การซื้อนักเตะใหม่สองคนแรกของเจ้าของใหม่จากซาอุดิอาราเบีย ถูกมองว่าเป็นการเสริมทัพตามแนวทางของ ฮาว นั่นคือ คีแรน ทริปเปียร์ ค่าตัวตามคาด 12 ล้านปอนด์ ที่อาจเพิ่มเป็น 15 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไข และ คริส วูด ตามคาดเป็นการจ่ายตามค่าฉีกสัญญา 25 ล้านปอนด์
ในราย ทริปเปียร์ มีดีกรีแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษติดตัวอยู่แล้ว และคว้าแชมป์ลาลีกามากับ แอตเลติโก มาดริด ด้วย เรื่องประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็หายห่วง แถมยังเคยร่วมงานกับ ฮาว ในช่วงสั้นๆ ที่ เบิร์นลี่ย์ จึงถือเป็นการเสริมทัพที่น่าพอใจ
แต่ในราย วูด แฟนบอลหลายคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงกล้าลงทุนกับศูนย์หน้าทีมชาตินิวซีแลนด์ที่อายุแตะหลักสามไปแล้ว สูงถึง 25 ล้านปอนด์
หรือหมายความว่า ฮาว จะสร้างเกมรุกจากริมเส้น มีปีกสองฝั่ง มีฟูลแบ็กเติมเกมรุกสองฝั่ง เพื่อให้ วูด จอมโหม่งเป็นตัวเป้าจบสกอร์ เหมือนอย่างที่ ฮาว เคยเลื่องชื่อกับระบบการเล่น 4-4-2 หรือ 4-4-1-1 ที่ บอร์นมัธ
แน่นอน แผนการหรือแนวทางต่างๆ คงไม่ประสบความสำเร็จเพียงแค่นัดสองนัด หากแต่เกมล่าสุดเป็นเกมสำคัญในการลุ้นหนีโซนท้ายตาราง ที่ นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ วัตฟอร์ด
ดังนั้นผลเสมอ 1-1 แบบที่โดนคู่แข่งไล่ตีคืนท้ายเกม จึงถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังมากๆ สำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโค้ช นักเตะ แฟนบอล เจ้าของทีม
อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง กับ ไรอัน เฟรเซอร์ ถูกวางเป็นสองตัวรุกริมเส้น ขนาบข้างคอยป้อนบอลให้ วูด ในกรอบเขตโทษ แต่ผลที่ออกมาคือยังไม่มีลูกครอสหรือการเปิดบอลตามที่ควรจะเป็น
เมื่อไม่เป็นไปตามแผน วูด ก็กลายเป็นศูนย์หน้าร่างใหญ่ที่ไร้พิษสง ต่างจากตอนอยู่ เบิร์นลี่ย์ ที่มี ดไวท์ แม็คนีล, โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน หรือ มักซ์เวลล์ กอร์กเนต์ คอยครอสบอลหรือป้อนบอลให้อยู่เรื่อยๆ
สถานการณ์ตอนนี้ นิวคาสเซิ่ล หล่นไปเป็นรองบ๊วย จากการมี 12 คะแนนจาก 20 เกม หลังจากชัยชนะของ นอริช เหนือ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ขึ้นไปมี 13 คะแนน จากการเตะมากกว่า 21 เกม
และแม้ เบิร์นลี่ย์ จมบ๊วยอยู่ แต่เป็นเพราะ เดอะ คลาเรตส์ เตะไปเพียง 17 เกมเท่านั้น มีอยู่ 11 คะแนน
การลุ้นหนีตกชั้นระหว่างสี่ทีม วัตฟอร์ด (19 เกม - 14 คะแนน), นอริช (21 เกม - 13 คะแนน), นิวคาสเซิ่ล (20 เกม - 12 คะแนน) และ เบิร์นลี่ย์ (17 เกม - 11 คะแนน) จะมีเพียงทีมเดียวที่ได้อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไป
ตอนนี้ยังคงคาดเดาอะไรยากลำบาก แต่เชื่อว่า นิวคาสเซิ่ล จะมีการเสริมทัพเพิ่มเติมอีกในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม และหากต้องจบซีซั่นด้วยการตกชั้น คงดูจืดไม่น้อย