"ผมอยู่ที่นี่ครั้งสุดท้ายที่ มิลาน เป็นแชมป์ และ 11 ปีต่อมา เราทำได้อีกครั้ง และผมก็อยู่ที่นี่" คำพูดจากศูนย์หน้าที่ทรงอิทธิพลที่สุดในทีม เอซี มิลาน ชุดนี้
คงไม่มีใครกล้าแย้งคำพูดของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ศูนย์หน้าตัวเก๋าที่ได้สัมผัส สคูเด็ตโต้ อีกครั้งในวัย 40
ค้นประวัติของ ซลาตัน ใน เซเรีย อา โคตรน่าทึ่ง อยู่กับ ยูเวนตุส สองฤดูกาล 2004-05, 2005-06 พาทีมจบอันดับหนึ่งของตารางทั้งสองซีซั่น (ถูกริบแชมป์ คดี 'กัลโช่โปลี')
ย้ายมา อินเตอร์ อีกสามฤดูกาล 2006-07, 2007-08, 2008-09 กวาด สคูเด็ตโต้ มาได้ทุกปี
และช่วงแรกที่เล่นกับ มิลาน ในสัญญายืมตัวจาก บาร์เซโลน่า ก็เป็นแชมป์ เซเรีย อา อีกหน ซีซั่น 2010-11
มีเพียงซีซั่น 2011-12 ที่แม้ 'อิบรา' ยิงแหลก 28 ประตูจาก 32 เกม เซเรีย อา แต่พลาดแชมป์ให้ ยูเวนตุส
ดังนั้น การย้ายกลับ มิลาน ในช่วงกลางฤดูกาล 2019-20 เป้าหมายสูงสุดจึงอยู่ที่ สคูเด็ตโต้ ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ตัวเองเคยสัมผัสมา เช่นเดียวกับสโมสร
แต่การกลับมาที่ ซาน ซีโร่ หนนี้ ทั้ง ซลาตัน เอง ทั้งเทรนเนอร์ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ เอง และทั้งแฟนๆ รอสโซเนรี่ เอง ต่างก็รู้ดีถึงความแตกต่างของ 'อิบรา' จากทศวรรษที่แล้ว เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่ย้ายมาตอนอายุ 38 แล้ว
แม้ประสบปัญหาบาดเจ็บอยู่พอสมควร บวกกับลงตัวจริงบ้าง พักนั่งสำรองบ้าง 'อิบรา' ก็ยังซัลโวไป 11 ประตูจาก 20 เกมในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกที่มาถึง และอีก 17 ประตูจาก 27 เกม ซีซั่นถัดมา
ฤดูกาล 2021-22 มีเพียง 8 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จาก 27 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งเป็นการลงตัวจริงใน เซเรีย อา เพียง 11 เกม และลงสำรอง 12 เกม จากการย้ายมาใหม่ของ โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์
แต่ทุกคนในทีมต่างรู้ดี และสัมผัสได้ถึงอิทธิพลของ 'อิบรา' ในห้องแต่งตัว
การคว้า สคูเด็ตโต้ เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีของ มิลาน และเป็นสมัยที่ 19 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ดูเหมือนจะเป็นการปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของ 'อิบรา' หลังจากไร้แชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และไม่มีโทรฟี่ใดๆ ร่วมกับทีมที่ แอลเอ แกแล็กซี่ ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้
แต่ถึงตอนนี้ ซลาตัน ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ เรื่องอนาคต ขณะที่สัญญาซึ่งเซ็นปีต่อปีกับ มิลาน กำลังจะสิ้นสุดลงหลังผ่านเดือนมิถุนายนนี้
เล่นต่อ หรือ แขวนสตั๊ด?
"ผมต้องมีสภาพร่างกายที่ดี ผมต้องทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง เมื่อผมรู้สึกดีแล้ว ผมจะมองดูว่าสถานการณ์ต่างๆ เป็นเช่นไร"
"ผมยังรู้สึกว่าตัวเองสามารถสร้างความแตกต่างได้เมื่ออยู่ในสนาม ผมยังมองไม่เห็น อิบรา อีกคนเลย"
"ผมจะตัดสินใจในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ มันแย่ทั้งเรื่องสภาพร่างกาย และก็มีเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ด้วย"
"ท้ายสุดแล้ว ผมก็ทำทุกอย่างเพื่อช่วย มิลาน คว้าโทรฟี่นี้มาครอง"
"ผมกลัวว่าผมอาจต้องเลิกเล่น แต่ผมต้องทำตามทางของตัวเอง"
ไม่มีของขวัญชิ้นใดที่ดีที่สุดที่ 'อิบรา' สามารถมอบให้กับแฟนๆ รอสโซเนรี่ ได้ นอกเหนือจาก สคูเด็ตโต้
"มันวิเศษไปเลย ผมอยู่ที่นี่ครั้งสุดท้ายที่ มิลาน เป็นแชมป์ และ 11 ปีต่อมา เราทำได้อีกครั้ง และผมก็อยู่ที่นี่"
"ผมมาถึงที่นี่พร้อมคำมั่นสัญญา และผมก็รักษาคำพูดนั้น"
"หลายคนหัวเราะตอนที่ผมพูดว่าเราจะคว้า สคูเด็ตโต้ อีกครั้ง แต่เราทำงานหนักจริงๆ และแสดงให้เห็นถึงทีมที่ต่อสู้เพื่อผลการแข่งขันให้แฟนๆ"
'อิบรา' ขอมอบ สคูเด็ตโต้ หนนี้ให้กับ มิโน่ ไรโอล่า ที่ไม่เพียงแค่เป็นเอเยนต์ แต่ยังเป็นเพื่อนซี้ของเขาด้วย
"ผมขออุทิศสิ่งนี้ให้กับ มิโน่ เขาเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการให้ผมมาอยู่ที่ มิลาน และบอกผมว่า ผมเป็นคนเดียวที่จะกอบกู้ มิลาน กลับมาได้ ผมขอมอบโทรฟี่นี้ให้กับเขา"
ถึงตอนนี้ แม้ ไรโอล่า มีคนที่พร้อมทำหน้านี้เอเยนต์แทนชั่วคราว แต่ อิบราฮิโมวิช เหมือนขาดเพื่อนคู่คิด และคงต้องตัดสินใจเรื่องอนาคตร่วมกับครอบครัวในเร็วๆ นี้
