นักฟุตบอลอาชีพส่วนใหญ่เริ่มต้นที่อายุ 17-18 แต่สำหรับ คาโอรุ มิโตมะ เริ่มต้นที่ 22 ถึงจะออกสตาร์ตช้ากว่าคนอื่นๆ แต่กำลังก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
"พูดตรงๆ ผมไม่มีความเชื่อมั่นเลยว่าจะเล่นฟุตบอลอาชีพในตอนนั้น" มิโตมะ ย้อนกลับไปนึกถึงความคิดของตัวเองในช่วงเวลา 18 ฝน 18 หนาว
มิโตมะ เกิดที่จังหวัดโออิตะ และมาเติบโตในเมืองคาวาซากิ จากนั้นก็เข้าสู่อาคาเดมี่ของ ฟรอนตาเล่ ในชุดยู-10 หรืออายุไม่เกิน 10 ปี
ในช่วงจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของชีวิต ยาฮิโระ คาซามะ เฮดโค้ชทีมชุดใหญ่ของ ฟรอนตาเล่ เสนอโอกาสเซ็นสัญญาอาชีพกับ มิโตมะ และดึงตัวขึ้นมาจากทีมชุดยู-18
แต่ มิโตมะ เลือกที่จะปฏิเสธฟุตบอลอาชีพ และก้าวเท้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ สึคูบะ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องทีมฟุตบอล
"พูดตรงๆ ผมไม่มีความเชื่อมั่นเลยว่าจะเล่นฟุตบอลอาชีพในตอนนั้น ผมเห็น (โคจิ) มิโยชิ กับ (โค) อิตาคูระ ที่ขึ้นชุดใหญ่ก่อนหน้าผมหนึ่งปี ผมไม่มีความรู้สึกมั่นใจเลยว่าจะเล่นฟุตบอลในระดับสูงสุดได้"
"เพราะเช่นนั้น การตัดสินใจอนาคตของผม ผมจึงคิดว่ามันคงดีกว่าหากไปที่มหาวิทยาลัยสึคูบะ" มิโตมะ เล่าถึงเหตุผลการตัดสินใจตอนอายุ 18 ตอนประเดิมเจลีกกับ ฟรอนตาเล่
สิ่งที่ มิโตมะ คิดในตอนนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง
เยาวชนที่วาดฝันจะก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่นมีล้นตลาด ยิ่งทีมระดับชั้นนำอย่าง ฟรอนตาเล่ ที่มีทีมชุดใหญ่ขนาดใหญ่มาก มีการแข่งขันสูง มิโตมะ จึงไม่อยากเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง
เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันสองคนที่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ฟรอนตาเล่ ก่อนหนึ่งปีอย่าง มิโยชิ ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ทุกครั้งที่ได้รับโอกาส สุดท้ายก็ต้องไปเล่นกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในสัญญายืมตัว ก่อนกลับมาเป็นแกนหลักของทีมในซีซั่น 2019 และย้ายไป รอยัล อันท์เวิร์ป ในปีเดียวกัน
อิตาคูระ ก็เช่นกัน โอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่ที่มีน้อยนิด ทำให้ต้องไปเล่นกับ เวกัลตะ เซนได ในสัญญายืมตัวปีเดียวกับ มิโยชิ ก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เห็นแววเซ็นสัญญาด้วยในช่วงต้นปี 2019 แต่ก็ปล่อยยืมไปเล่นกับ โกรนิงเก้น และ ชาลเก้ 04
ตัดภาพกลับมาที่ มิโตมะ ในปี 2018 เขาตัดสินใจตกลงสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ ฟรอนตาเล่ แต่จะไปนับหนึ่งในอีกสองปีข้างหน้า หรือในฤดูกาล 2020
สถานการณ์คล้ายคลึงกับ เรโอะ ฮาตาเตะ ที่ ฟรอนตาเล่ จับเซ็นสัญญาก่อน แล้วรอให้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยจุนเทนโดะ ถึงเริ่มต้นฤดูกาล 2020 พร้อมกัน
มิโตมะ รับบทบาทปีก หรือตัวริมเส้น ซัลโว 13 ประตูในเจลีก และอีก 5 ประตูในบอลถ้วยทั้งสองรายการ เป็นการเริ่มต้นซีซั่นแรก 2020
กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงแตะสองหลักในฐานะรุกกี้ของเจลีก นับตั้งแต่ โยชิโนริ มูโตะ เคยทำเอาไว้ในซีซั่น 2014 กับ เอฟซี โตเกียว
ซีซั่นที่สอง ผ่านไปครึ่งทาง มิโตมะ ยิ่งร้อนแรงกว่าเดิม ซัลโว 12 ประตูจาก 24 เกมในทุกรายการ จนถูก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ทีมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซื้อไปร่วมทัพ
อย่างไรก็ตาม ซีซั่นแรกในยุโรป 2021-22 มิโตมะ ต้องไปเริ่มต้นในลีกสูงสุดเบลเยียม เพราะ ไบรท์ตัน ส่งไปหาประสบการณ์กับ อูนิโอน แซงต์-ชิลลัวส์ สโมสรที่มีเจ้าของเดียวกัน
อีกเหตุผลสำคัญคือยังไม่สามารถขอเวิร์คเพอร์มิต หรือใบอนุญาติทำงานในอังกฤษได้
จบซีซั่นแรกในยุโรปที่เบลเยียม มิโตมะ ยิงไป 8 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จาก 29 เกมรวมทุกรายการ
และหลังจากกลายเป็นนักเตะในสังกัดของ ไบรท์ตัน มิโตมะ ก็ประเดิมทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ จนถึงตอนนี้ลงเล่นไปแล้ว 7 เกม ยิงได้ถึง 4 ประตู
คาโอรุ มิโตมะ ในวัย 25 ปี จึงพร้อมแล้วที่จะเสนอชื่อตัวเองลุยศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23