ความล้มเหลวในรอบชิงชนะเลิศสองปีติดต่อกันกับทีมชาติอาร์เจนตินา คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ กอนซาโล่ อีกวาอิน สภาพจิตใจตกต่ำ และฟอร์มถดถอย
กอนซาโล่ อีกวาอิน เกิดที่เมืองแบรสต์ ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงเวลาที่พ่อ ฮอร์เก้ อีกวาอิน เล่นฟุตบอลอยู่ที่นั่น และพออายุได้ 10 เดือน ก็ย้ายกลับอาร์เจนตินา ตามพ่อที่ย้ายไปเล่นกับ ริเวอร์เพลท ในช่วงเวลานั้น
พออายุได้ 9 ขวบ อีกวาอิน ก็เข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของ ริเวอร์เพลท สโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศ จนอายุ 17 ก็ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ยิง 5 ประตูจาก 12 เกมในซีซั่นแรก และตะบันไปอีก 10 ประตูจาก 17 เกมซีซั่นต่อมา จนได้รับคำชื่นชมจากโค้ช ดาเนียล พาสซาเรลล่า เป็นอย่างมาก
เรอัล มาดริด เห็นแววมาแต่ไกล จ่ายเงิน 12 ล้านยูโร ดึงตัว อีกวาอิน มาร่วมทัพตั้งแต่ปี 2006
สองฤดูกาลแรกเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับตัวในเวทียุโรป หลังจากนั้น อีกวาอิน เริ่มทำประตูเป็นกอบเป็นกำ ยิง 22 ประตูจาก 34 เกมในลาลีกา ฤดูกาล 2008-09 รวม 24 ประตูในทุกรายการ เป็นดาวซัลโวของสโมสรร่วมกับ ราอูล กอนซาเลซ ผู้เป็นตำนาน
อย่างไรก็ตาม การมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เริ่มทำให้บทบาทและความสำคัญของ อีกวาอิน ลดลง
โรนัลโด้ กดไป 33 ประตูตั้งแต่ซีซั่นแรกที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว และไม่เคยยิงต่ำกว่า 50 ประตูเลยในอีก 6 ฤดูกาลต่อมา
อีกวาอิน เล่นกับ เรอัล มาดริด จนถึงปี 2013 ปิดฉากการลงสนาม 264 เกม ยิง 121 ประตู ก่อนย้ายไป นาโปลี ยิงกระฉูด 91 ประตูจาก 146 เกมในช่วงเวลา 3 ฤดูกาลในเมืองเนเปิ้ลส์ สโมสรที่เขากลายเป็นพระเอกแต่เพียงผู้เดียว
ยูเวนตุส ยอมทุ่มเงินถึง 90 ล้านยูโร กลายเป็นสถิติต่างๆ มากมายในช่วงเวลานั้น และ อีกวาอิน ก็กลายเป็นดาวเด่นของทีม ยิงไป 55 ประตูจาก 105 เกมในสองฤดูกาลแรก
จนกระทั่งการย้ายมา (อีกแล้ว) ของ โรนัลโด้ ในปี 2018
อีกวาอิน ถูกบีบให้ย้ายไป เอซี มิลาน ในสัญญายืมตัว ยิงไปเพียง 8 ประตูจาก 22 เกม ก่อนส่งต่อให้ เชลซี ยืมในครึ่งซีซั่นหลัง ผลงานตกต่ำหนักขึ้น ยิงไป 5 ประตูจาก 19 เกม ย่ำแย่ทั้งผลงานในสนามและสภาพจิตใจ
อีกวาอิน ไม่ใช่ศูนย์หน้าหมายเลข 9 ที่มีความสำคัญกับ ยูเวนตุส อีกต่อไป เขากลับไปที่ตูริน สวมเสื้อหมายเลข 21 ยิงไปเพียง 11 ประตูจาก 44 เกม ที่ลงสำรองถึง 16 เกม และนั่นคือฤดูกาลสุดท้ายกับ เบียงโคเนรี่
การเลือกย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีก ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย โดยเฉพาะตัว อีกวาอิน ที่ยังสามารถไปสร้างชื่อเสียงต่อที่สหรัฐอเมริกาได้อีกสบายๆ
แต่อะไรๆ กลับไม่ง่ายดายเหมือนที่คิด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ อินเตอร์ ไมอามี่ สโมสรที่มี เดวิด เบ็คแฮม เป็นประธานและเจ้าของร่วม เพิ่งสร้างทีมขึ้นมาได้ไม่กี่ปี ทีมยังไม่มีคุณภาพมากพอ เมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ
ฤดูกาลแรกในเมเจอร์ลีก (เล่นแค่ครึ่งซีซั่น) อีกวาอิน ประเดิมสนามให้กับ อินเตอร์ ไมอามี่ ในเกมที่สังหารจุดโทษพลาด กลายเป็นสภาพจิตใจย่ำแย่ไปอีก จบซีซั่นมีเพียงประตูเดียวจาก 9 เกมที่ลงสนาม
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลต่อมา สถานการณ์เริ่มดีขึ้น มี 12 ประตูจาก 30 เกม และซีซั่นปัจจุบัน 2022 ยิงไปแล้ว 8 ประตูจาก 20 เกม
ถึงตอนนี้ อีกวาอิน ในวัย 34 ปี ผ่านอะไรมาอย่างโชกโชน เมื่อมองย้อนกลับไปได้มองเห็นทั้งช่วงที่ดีที่สุดในชีวิต และช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิต
อีกวาอิน ต้องเผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักระหว่างปี 2014-2015 ช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับ นาโปลี
ไม่ใช่ผลงานกับสโมสร แต่เป็นผลงานกับทีมชาติอาร์เจนตินา ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2014 และ โกปา อเมริกา 2015
ภาพจำยังคงติดตาในรอบชิงฯ เวิลด์คัพ 2014 ระหว่าง อาร์เจนตินา กับ เยอรมนี ที่ อีกวาอิน ได้หลุดเดี่ยวดวลตัวต่อตัวกับ มานูเอล นอยเออร์ แต่ยิงออก และที่กระชากอารมณ์ในอีกไม่กี่นาทีต่อมาคือจังหวะยิงเข้าแล้วล้ำหน้า
ถัดมาหนึ่งปี อีกวาอิน ยังไม่สามารถลบฝันร้ายของตัวเองได้ในรอบชิงฯ โกปา อเมริกา 2015 ที่พบกับ ชิลี เมื่อพลาดโอกาสทำประตูชัยในช่วงท้ายเกม แล้วดันเป็นหนึ่งในสองนักเตะ อาร์เจนตินา ที่พลาดจุดโทษในช่วงดวลเป้า
"มนุษย์ทุกคนย่อมเผชิญหน้ากับเสียงวิจารณ์อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ทำให้คุณลดความนับถือในตัวเองลง เกิดภาวะซึมเศร้า เบื่ออาหาร หรือมีทัศนคติในการมองโลกที่ไม่ดี เพราะข้อความแย่ๆ จากผู้คนที่อยู่หลังคอมพิวเตอร์"
"ทุกคนสามารถตำหนิใครกันได้ง่ายๆ ดูถูกคุณโดยที่ไม่รู้จักคุณ ไม่รู้จักชีวิตของคุณ"
"ผมผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมามากมาย แต่ก็เหมือนกันหมด ทุกคนในทุกบทบาทอาชีพต่างก็มีช่วงเวลาแบบนั้น สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง และทนทุกข์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้"
"ชีวิตเป็นเรื่องที่เรียบง่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีความสุข แม้ไม่รู้ว่าความสุขมีอยู่จริงหรือไม่ อยู่ที่การพยายามทำให้ดีที่สุด เรื่องนั้นมาพร้อมกับวุฒิภาวะและประสบการณ์ในชีวิต"
อีกวาอิน เป็นหนึ่งในกองหน้าเพียงไม่กี่คนที่ได้ประสานงานแดนหน้าร่วมกับทั้ง ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาแล้ว นั่นคือเรื่องที่เขาไม่มีวันลืม
"ผมเคยเล่นกับสองนักเตะที่ดีที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมไม่รู้ว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์หรือเปล่า และยังกับสองผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ บุฟฟ่อน กับ กาซียาส"
"ผมมีช่วงเวลา 7 ปีกับทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ (เรอัล มาดริด) ยิงได้มากกว่า 100 ประตู คว้าแชมป์ 15 รายการ และเป็นนักเตะอาร์เตนไจน์ที่ลงเล่นมากที่สุดอันดับสองที่มาดริด"
"ปีแรกที่ คริสเตียโน่ มาถึงที่ มาดริด ผมยิงไป 27 ประตู (ในลีก) เขายิงไป 26 ประตู (ในลีก) จากนั้นเขาก็ยิงเรื่อยๆ ปีละ 50 ประตู ทำได้ยังไง 50 ลูก!"
ท้ายที่สุด อีกวาอิน มั่นใจว่าการย้ายมา อินเตอร์ ไมอามี่ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในชีวิต
"หลังจากหลายปีในยุโรป ผมก็ได้พบกับความสงบสุขในด้านกีฬาและการใช้ชีวิต มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ผมต้องการ"
หลังจากเผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักทั้งกับสโมสรและทีมชาติมาตลอดหลายปี ฟุตบอลลีกสหรัฐอเมริกาอาจเป็นเวทีสุดท้ายก่อนแขวนสตั๊ดของ กอนซาโล่ อีกวาอิน
