:::     :::

ก้าวที่มั่นคงขึ้นของ'เคห์เรอร์'

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2565 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
808
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตลอดช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ในทีมชาติเยอรมนี ยุคของ ฮันซี่ ฟลิค ไม่มีใครลงสนามไปมากกว่า ธีโล เคห์เรอร์

เคห์เรอร์ จึงถูกเรียกได้ว่าเป็นนักเตะคนโปรดของ ฟลิค ก็คงไม่ผิด แม้กับต้นสังกัด ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ไม่ได้รับโอกาสลงตัวจริงอย่างสม่ำเสมอตลอดฤดูกาล 2021-22 ก็ตาม

ปราการหลังวัย 25 ปี ต้องลงเล่นในฐานะตัวสำรองไปมากถึง 14 เกม จากการลงสนามทั้งหมด 34 เกมรวมทุกรายการ ไม่ใช่ตัวเลือกแรกในใจของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
แต่ขณะเดียวกัน เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาของทีมชาติ เคห์เรอร์ ได้ลงสนามไปถึง 11 เกม จากทั้งหมด 13 เกมที่ ฟลิค อดีตเทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค คุมทัพตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2021
นับจำนวนนาทีที่อยู่ในสนาม 956 นาที ไม่มีนักเตะในทีม อินทรีเหล็ก คนไหนในช่วงเวลาของ ฟลิค ที่ได้ลงสนามไปมากกว่า เคห์เรอร์ อีกแล้ว
ที่สำคัญ ในจำนวนเกมดังกล่าว เคห์เรอร์ ได้ลงตัวจริงในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ไปถึง 7 เกม เยอรมนี ชนะทุกเกม และเสียไปเพียงแค่สองประตูเท่านั้น
นั่นคือสิ่งที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เล็งเห็น และจ่ายเงินในระดับที่ไม่ได้สูงเลย คาดราวๆ 10 ล้านปอนด์เศษๆ (ยังไม่รวมเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง) ดึงตัวมาเล่นพรีเมียร์ลีก
ในอดีตของ เคห์เรอร์ เกิดที่เมืองทือบิงเกน ห่างจากตอนใต้ของสตุ๊ตการ์ทไป 20 ไมล์ โดยมีพ่อเป็นชาวเยอรมัน และแม่เป็นชาวบุรุนดี
เคห์เรอร์ เริ่มต้นฝึกฟุตบอลครั้งแรกกับสโมสรท้องถิ่น ทือบิงเกน ตามด้วย รอยท์ลิงเกน แล้วถึงไปสโมสรใหญ่ สตุ๊ตการ์ท แต่เพียงแค่สองปีก็ก้าวไปสู่อาคาเดมี่ของ ชาลเก้ 04
กุมภาพันธ์ ปี 2016 คือช่วงเวลาที่ เคห์เรอร์ ได้ประเดิมเกมบุนเดสลีกา กับ ชาลเก้ ในวัย 19 ปี ต่อยอดผลงานที่ยอดเยี่ยมกับทีมสำรอง และทีมชาติเยอรมนี ตั้งแต่ชุดยู-16 มาจนถึงชุดยู-20 ในช่วงเวลานั้น
หลังจากเป็นตัวหลักของ ชาลเก้ ซีซั่น 2017-18 ฤดูกาลที่จบอันดับสอง บุนเดสลีกา และไปถึงรอบรองชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล มีความสนใจจากหลายสโมสรใหญ่ในช่วงตลาดซัมเมอร์
และ เคห์เรอร์ เลือก เปแอสเช และ ลีกเอิง เป็นจุดหมายปลายทางต่อไป หลังจากทีมดังฝรั่งเศสทุ่มจ่ายค่าตัวสูงถึง 37 ล้านยูโรให้กับ ชาลเก้
ผ่านไป 4 ฤดูกาลในเมืองหลวงของฝรั่งเศส แม้มีความสำเร็จแชมป์ลีกเอิง 3 สมัย, แชมป์เฟร้นช์คัพ 2 สมัย และแชมป์เฟร้นช์ลีกคัพ 1 สมัย แต่ดูเหมือน เคห์เรอร์ จะพูดได้ไม่เต็มปากนัก
การเดินทางต่อไปจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ทั้ง เคห์เรอร์ และ เปแอสเช ที่มีโอกาสเสียนักเตะไปแบบฟรีๆ ในช่วงกลางปีหน้า
การกลับบุนเดสลีกาในช่วงวัยเบญจเพศจึงไม่ใช่ความท้าทายในชีวิต หากแต่เป็นพรีเมียร์ลีกที่ เคห์เรอร์ ต้องการ หลังจากการเซ็นสัญญาระยะเวลา 4 ปี บวกกับเงื่อนไขต่ออายุอีก 2 ปีกับ เดอะ แฮมเมอร์ส
"ผมตื่นเต้นมากที่ได้เซ็นสัญญากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด"
"นี่คือลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ผมตื่นเต้นที่จะได้มาเล่นในพรีเมียร์ลีก"
ฤดูกาล 2022-23 จึงเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของ เคห์เรอร์ หลังจากไปเสียเวลา 4 ปีกับ เปแอสเช
และเส้นทางสายใหม่นี้ จะเป็นการตอกย้ำความมั่นคงในทีมชาติเยอรมนี ที่ เคห์เรอร์ พร้อมเป็นตัวหลักในทีมของ ฟลิค ไม่ว่าจะจับเล่นบทบาทใดในแนวรับสำหรับเวิลด์คัพ 2022 ที่ กาตาร์ ปลายปีนี้

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด