การเสริมทัพของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในตลาดซัมเมอร์ ถึงตอนนี้มียอดรวมมากกว่าการใช้จ่ายทั้งหมดของทุกทีมในเอเรดิซี่ ลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ส
มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ กองกลางจาก วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส คือนักเตะใหม่คนล่าสุดของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นการเสริมทัพรายที่ 15 ในช่วงตลาดซัมเมอร์นี้ (นับเฉพาะนักเตะที่ซื้อเข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่เท่านั้น)
การเสริมทัพครั้งนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะ ฟอเรสต์ ตามจีบ กิ๊บบ์ส-ไวท์ มานานแล้ว และข้อเสนอสุดท้ายที่สามารถตกลงกับ วูล์ฟส์ ได้ อาจไปจบสูงถึง 42 ล้านปอนด์เลยทีเดียว แบ่งเป็นก้อนหลัก 25 ล้านปอนด์ และส่วนเสริมตามเงื่อนไขต่างๆ อีก 17 ล้านปอนด์
หากแบ่งแยกตามตำแหน่งแล้ว 15 นักเตะใหม่ของ ฟอเรสต์ มีดังนี้
ผู้รักษาประตู ดีน เฮนเดอร์สัน, เวย์น เฮนเนสซี่ย์
แบ็กขวา ชูเลียง บียองกอน, เนโก้ วิลเลียมส์
แบ็กซ้าย โอมาร์ ริชาร์ดส์, แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่
เซนเตอร์แบ็ก มุสซ่า เนียคาเต้, ชีคคู คูยาเต้
กองกลางตัวรับ ลูอิส โอไบรอัน, โอเรล ม็องกาล่า, เรโม่ ฟรอยเลอร์
กองกลางตัวรุก เจสซี่ ลินการ์ด, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์
กองหน้า ไทโว อาโวนิยี่, เอ็มมานูเอล เดนนิส
เรียกได้ว่าในทุกๆ ตำแหน่งจะมีนักเตะใหม่อย่างน้อยสองคน
แล้วทำไม ฟอเรสต์ ต้องยอมจ่ายค่าตัวสูงขนาดนี้เพื่อคว้าตัว กิ๊บบ์ส-ไวท์
ย้อนกลับไป 5 ปีที่แล้ว กิ๊บบ์ส-ไวท์ เป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-17 ที่คว้าแชมป์โลกในปี 2017 ซึ่งคุมทัพโดย สตีฟ คูเปอร์ ที่ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีม ฟอเรสต์
และฤดูกาลที่ผ่านมา กิ๊บบ์ส-ไวท์ ทำแสบยิงประตู ฟอเรสต์ ในรอบรองชนะเลิศ เพลย์ออฟ ซึ่งตอนนั้นสวมชุด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในสัญญายืมตัว แต่สุดท้ายเป็นคนยิงจุดโทษพลาดคนสุดท้าย จึงส่ง ฟอเรสต์ เข้าชิง
เหตุผลที่ชัดเจนที่สุดคือ คูเปอร์ รู้จักฝีเท้า กิ๊บบ์ส-ไวท์ เป็นอย่างดี จึงเชื่อมั่นเต็มที่ว่าจะเป็นการเสริมทัพที่คุ้มค่า แม้ดูแล้วอาจจะทับบทบาทกับ ลินการ์ด ที่เซ็นฟรีมาก่อนหน้านี้ก็ตาม
แม้ ฟอเรสต์ พบชัยชนะเกมแรกในการกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ปี 1999 ไปแล้ว แต่ที่ยังต้องห่วงคือการปรับจูนทีมให้เล่นให้ดีกว่านี้ เพราะสามคะแนนจาก เวสต์แฮม ที่ ซิตี้ กราวด์ส ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้มาแบบมีโชค
จาก 11 ตัวจริงในเกมกับ เดอะ แฮมเมอร์ส มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่อยู่กับทีมมามากกว่า 8 สัปดาห์
ถ้าถามว่า ทำไม ฟอเรสต์ ต้องเปลี่ยนแปลงทีมเยอะขนาดนี้ ผิดกับอีกสองทีมน้องใหม่ ฟูแล่ม กับ บอร์นมัธ ที่ยึดกำลังหลักจากซีซั่นก่อนลุยต่อในพรีเมียร์ลีก
นั่นเป็นเพราะ คูเปอร์ ต้องเสียตัวหลักไปเยอะมาก อาทิ บริซ แซมบ้า, ลูอิส แกร๊บแบน, โทเบียส ฟิเกเรโด้, คาร์ล เจนกินสัน, กาเอต็อง บง, โจ โลลลี่ย์ และยังมีนักเตะที่หมดสัญญายืมตัวอีกเพียบ เจมส์ การ์เนอร์, เจด สเปนซ์, ฟิลิป ซิงเคอร์นาเกิล, คีแนน เดวิส, แม็กซ์ โลว์ เป็นต้น
นี่คือเรื่องที่ประธานสโมสร นิโคลัส แรนดอลล์ ต้องทำงานหนักร่วมกับผู้บริหารตำแหน่งอื่นๆ ในการใช้จ่ายงบประมาณของ เอวานเจลอส มารินาคิส ในฐานะเจ้าของสโมสร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร
จากรายงานข่าวที่ปรากฏในแต่ละวัน ฟอเรสต์ ได้เจรจาและยื่นข้อเสนอขอซื้อนักเตะอีกจำนวนหนึ่ง บางรายถึงขั้นใกล้จะบรรลุข้อตกลงกันแล้ว ดังนั้น กิ๊บบ์ส-ไวท์ จึงยังไม่น่าจะใช่แข้งใหม่รายสุดท้ายในช่วงซัมเมอร์นี้
แม้การเสริมทัพจนถึงปัจจุบันอยู่ในระดับต้นๆ ของทีมพรีเมียร์ลีก แต่เป้าหมายในปีแรกของ ฟอเรสต์ ยังต้องโฟกัสไปที่การอยู่รอดปลอดภัยให้ได้เสียก่อน
หากผ่านด่านแรกไปได้ด้วยดี น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ จึงค่อยๆ เพิ่มเป้าหมายให้สูงขึ้น ในรูปแบบเดียวกับที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ดำเนินมาเมื่อซีซั่นก่อน