กระแสเรียกร้องจากแฟนบอลให้ปลด แกเร็ธ เซาธ์เกต ก่อนศึกฟุตบอลโลก 2022 จะเปิดฉากขึ้นไม่ถึงสองเดือนแล้ว เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ความพ่ายแพ้ที่ มิลาน 0-1 ช่วยตอกย้ำความผิดพลาดของ เซาธ์เกต ให้เพิ่มขึ้น หลังจากเกมอัปยศที่แพ้ ฮังการี ที่ โมลินิวซ์ 0-4 ย้อนกลับไปในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อเดือนมิถุนายน
แฟนบอลจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่า การที่ เซาธ์เกต คุมทีมไปได้ไกลถึงรอบรองฯ ฟุตบอลโลก 2018 และรอบชิงฯ ยูโร 2020 เป็นเพราะคุณภาพฝีเท้าของนักเตะในยุคปัจจุบันล้วนๆ
หลายคนยังคงติดใจว่า อังกฤษ ไม่น่าแพ้ โครเอเชีย ในรอบรองฯ ที่ รัสเซีย หาก เซาธ์เกต ไม่ปรับเปลี่ยนแผนผิดพลาดในการกลับมาเล่นตั้งแต่ครึ่งหลัง
หรือรองชิงฯ กับ อิตาลี ที่ เวมบลีย์ อังกฤษ ควรจะชนะในเกม ไม่ต้องไปยืดเยื้อถึงการดวลจุดโทษ
แต่ดูเหมือนสมาคมฟุตบอลอังกฤษพอใจกับผลงานอันดับ 4 เวิลด์คัพ 2018 และรองแชมป์ยูโร 2020 ที่สามารถยืดอกยอมรับว่าเป็นความสำเร็จได้แล้ว
ระบบการเล่น การเลือกสิบเอ็ดตัวจริง แท็กติกต่างๆ ในเกม การแก้เกม การเปลี่ยนตัวที่ตัดสินใจช้า เป็นหนึ่งในหลากหลายเหตุผลที่ เซาธ์เกต ถูกมองว่าอ่อนด้อยคุณภาพกว่าโค้ชระดับพรีเมียร์ลีก
ยิ่งการเรียกตัวนักเตะในโปรแกรมเนชั่นส์ลีกเดือนกันยายน ซึ่งเป็นทีมชุดสุดท้ายก่อนเลือกทีมชุดฟุตบอลโลก สร้างความหงุดหงิดใจ และความสงสัยให้เกิดขึ้นไม่น้อย
เซาธ์เกต กลับไปเล่นกองหลังสามคน หรือระบบการเล่น 3-4-3 อีกครั้ง ในเกมที่ อิตาลี เรื่องรายละเอียดเกมไม่ขอพูดถึง แต่บทสัมภาษณ์ของโค้ชชาวอังกฤษคือพอใจกับรูปเกม และเชื่อว่าทีมเดินไปทิศทางที่ถูกต้องแล้ว
นั่นคือความคิดที่น่าเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมา หากไม่มีนักเตะคอยอุ้มชูเอาไว้ รับรองได้เลยว่า เซาธ์เกต คงล้มเหลวไปตั้งแต่แรกแล้ว
เหมือนอย่างที่เคยเละเทะกับทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ผ่านศึกชิงแชมป์ยุโรปแบบอัปยศมาแล้ว หรือการคุมทีมตกชั้นกับ มิดเดิลสโบรช์ ซึ่งเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวในประวัติการทำงาน
และดูเหมือนว่าเวลานี้ นักเตะหลายคนเริ่มหมดแรงจูงใจในการเล่นให้ทีมชาติ ความไม่ชัดเจนในหลายๆ เรื่อง อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นักเตะ 'เล่นไล่โค้ช'
จากผลงานในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ผ่านมา ทำให้ เซาธ์เกต ได้ต่อสัญญาใหม่ออกไปจนถึงยูโร 2020 ต่อสัญญาใหม่ออกไปจนถึงฟุตบอลโลก 2022 และต่อสัญญาใหม่หนล่าสุดออกไปจนถึงยูโร 2024 ซึ่งเป็นสัญญาปัจจุบัน
ดังนั้น หากผลงานในเวิลด์คัพ ที่กาตาร์ ไม่ได้ล้มเหลวสุดๆ ถึงขั้นตกรอบแรกแล้ว คงยากที่จะเห็นสมาคมฟุตบอลอังกฤษยอมจ่ายเงินชดเชยเพื่อไล่ เซาธ์เกต ออกจากตำแหน่ง
นั่นหมายความว่า ต่อให้แฟนๆ อังกฤษไม่เอา เซาธ์เกต แล้ว และกระแสกดดัน 'SouthgateOut' มีมากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องทนเห็น เซาธ์เกต คุมทีม อังกฤษ ในศึกยูโร 2024 ที่เยอรมนีอยู่ดี