3-4 ปีที่แล้ว บาเยิร์น มิวนิค ให้ความสนใจและยื่นข้อเสนอไปหลายรอบ แต่ตอนนี้เขาต้องมาพิสูจน์ตัวเองอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
2019 คือปีแจ้งเกิดของ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ในฐานะปีกดาวรุ่งของ เชลซี ด้วยวัยเพียง 18 ปีในช่วงเวลานั้น
ในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2019 ฮัดสัน-โอดอย ถูกดึงตัวจากทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-19 ขึ้นสู่ชุดยู-21 และยังไม่ทันได้ประเดิมสนาม แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็เรียกไปเล่นชุดใหญ่ในอีกไม่กี่วันต่อมา เมื่อมีนักเตะถอนตัว
นั่นคือช่วงเวลาสุดเหลือเชื่อของ ฮัดสัน-โอดอย ที่บรรยายความรู้สึกของตัวเองว่า 'ช็อค' และความฝันกลายเป็นจริงแบบรวดเร็วเกินคาด
การลงเล่นนัดแรกให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในเกมยูโร 2020 รอบคัดเลือก ทำให้ ฮัดสัน-โอดอย ทำลายสถิตินักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นเกมรายการสำคัญ ด้วยวัย 18 ปี กับ 135 วัน ทุบสถิติของ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ ที่ทำเอาไว้ในปี 1955 เพียง 40 วัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อนับเกมอุ่นเครื่องหรือกระชับมิตรเข้าด้วยแล้ว สถิตินักเตะอายุน้อยสุดยังคงเป็นของ ธีโอ วัลค็อตต์ 17 ปี กับ 75 วัน
ในช่วงเวลานั้น ความสนใจจาก บาเยิร์น มิวนิค ยิ่งเพิ่มขึ้นๆ เรื่อยๆ หลังจากมีการส่งสัญญาณมาแล้วในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม และ ฮัดสัน-โอดอย ก็ยื่นเรื่องขอย้ายทีม
แต่ เชลซี ปฏิเสธทุกข้อเสนอจาก บาเยิร์น และการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล ก็ทำให้สถานการณ์ของ ฮัดสัน-โอดอย เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
การปฏิเสธรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-21 ในเดือนสิงหาคม ปี 2021 สร้างความสงสัยให้กับ ทูเคิ่ล อย่างมาก
และโอกาสของ ฮัดสัน-โอดอย ในชุด สิงโตน้ำเงินคราม ก็ลดลงไปเรื่อยๆ
เมื่อช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์ หรือในช่วงต้นฤดูกาล 2022-23 ฮัดสัน-โอดอย จึงต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ ย้ายมาเล่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยสัญญายืมตัวทั้งซีซั่น เพื่อกอบกู้เส้นทางของตัวเองกลับคืนมา
"มีหลายครั้งที่สิ่งต่างๆ เป็นไปด้วยดี และคุณก็สนุกกับช่วงเวลานั้น แล้วก็มีหลายครั้งเช่นกันที่คุณคิดว่า ผมทำอะไรผิดไป หรือผมไม่ดีตรงไหนถึงไม่ได้เล่น"
"บางครั้ง มันเป็นเรื่องที่ยากลำบาก และชวนให้หงุดหงิดมาก คุณนั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรอง หรืออาจจะไม่ได้อยู่ในทีมเลย แล้วคุณก็แบบว่า ผมทำอะไรถึงได้รับผลตอบแทนแบบนี้"
"ผมซ้อมได้ดีในทุกๆ วัน ผมทุ่มเทเต็มที่ในทุกๆ เกม แต่แล้วผมก็ไม่ถูกเลือก"
"แน่นอน ถ้ามีนักเตะคนอื่นที่ทำผลงานได้ดีในตำแหน่งเดียวกับคุณ พวกเขาก็น่าจะถูกเลือก แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องต่อสู้เพื่อตำแหน่งของคุณ และต้องการโอกาสที่ยุติธรรม"
ขณะที่ ฮัดสัน-โอดอย กำลังได้พิสูจน์ตัวเองอย่างสม่ำเสมอในบุนเดสลีกา ทางฝั่ง เชลซี ก็มีการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชอีกครั้งจาก ทูเคิ่ล มาเป็น แกรม พ็อตเตอร์
"ผมยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าหลังจบฤดูกาลนี้ ผมจะกลับไปที่ เชลซี และจะรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นมาตลอดตั้งแต่เด็ก"
"ผมมักจะมองเรื่องต่างๆ เป็นการเรียนรู้ ไม่เคยมองในแง่ลบ มันเป็นการเรียนรู้สำหรับสิ่งที่คุณทำในครั้งต่อไปเสมอ"
"เป้าหมายหลักของผมตอนนี้คืออยู่ที่นี่ ช่วยทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมยังไม่ได้มองอะไรไปไกลเกินกว่านั้น"
"ผมติดตามดูบุนเดสลีกามาตลอด และคิดกับตัวเองว่ามันคงเป็นสถานที่ที่ดีในการลองสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป"
"มันทำให้คุณโตเป็นผู้ใหญ่เร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องทำสิ่งต่างๆ ที่นี่ด้วยตัวเอง"
ฤดูกาล 2022-23 ฮัดสัน-โอดอย ต้องกอบโกยโอกาสและพัฒนาฝีเท้ากับ เลเวอร์คูเซ่น ให้ได้มากที่สุด เมื่อจบซีซั่น เขาจะเหลือสัญญากับ เชลซี ปีสุดท้าย และเมื่อถึงตอนนี้คงได้รู้กันว่าอนาคตจะไปทางไหนต่อ
