พรีเมียร์ลีกผ่านมาถึงฤดูกาลที่ 26 มีแฮตทริกเกิดขึ้นมากมาย และมีหลายครั้งที่ติดตาตรึงใจแฟนบอล ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนทีมไหนก็ตาม
ว่ากันว่า แฮตทริกที่สมบูรณ์แบบ ต้องมาแบบครบเครื่องทั้งเท้าขวา เท้าซ้าย ลูกโหม่ง หรืออาจมาแบบเกิดขึ้นในครึ่งเวลาเดียว แต่ที่สำคัญที่สุดคือทีมต้องชนะ เพราะต่อให้ยิงแฮตทริกแล้วทีมแพ้ 3-4 หรือ 3-5 ก็คงไม่มีใครอยากจดจำ
นี่คือ 20 อันดับแฮตทริกในพรีเมียร์ลีก ที่ถูกเลือกมาโดยสื่ออังกฤษเจ้าดัง เดลี่ เมล
20 สตีเว่น เนสมิธ (เอฟเวอร์ตัน 3 - เชลซี 1)
กันยายน ปี 2015 เกมที่ กูดิสัน พาร์ค หลังผ่านไป 9 นาทีแรก สตีเว่น เนสมิธ ตัวสำรองถูกส่งลงสนามแทน มูฮาเหม็ด เบซิช ที่บาดเจ็บ และดาวเตะสกอตต์ก็กลายเป็น 'ซูเปอร์ซับ' ยิงแฮตทริกจากลูกโหม่งนาที 17, ลูกยิงเท้าซ้ายนาที 22 และเท้าขวานาที 82 อย่างสมบูรณ์แบบ พา ทอฟฟี่ ล้มแชมป์เก่า เชลซี ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ลงได้ 3-1
19 โรเมลู ลูกากู (เวสต์บรอมวิช 5 - แมนฯ ยูไนเต็ด 5)
เกมสุดท้ายของซีซั่น 2012-13 แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าป้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปเรียบร้อย และจะเป็นเกมสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่อำลา 26 ปีในการคุมทีม ผีแดง แต่ โรเมลู ลูกากู ก็ไม่ยอมให้ป๋าปิดฉากแบบสวยหรู กดแฮตทริกในครึ่งหลังนาที 50, 80 และ 86 พา เดอะ แบ๊กกี้ส์ จากที่ตามห่าง 0-3 และ 2-5 กลับมาตีเสมอ 5-5
18 แอนดี้ โคล (แมนฯ ยูไนเต็ด 9 - อิปสวิช 0)
ย้อนกลับไปฤดูกาล 1994-95 แมนฯ ยูไนเต็ด จัดการสั่งสอนทีมท้ายตาราง อิปสวิช ด้วยการไล่ยิงอุตลุตในโรงละครแห่งความฝัน 9-0 แอนดี้ โคล ตะบันแฮตทริกไม่พอ ยังยิงคนเดียวถึง 5 ประตู นาที 19, 37, 53, 65 และ 87 กลายเป็นนักเตะคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่ยิง 5 ประตูในเกมเดียวด้วย แต่ฤดูกาลนั้น ปีศาจแดง เสียแชมป์ให้ แบล็คเบิร์น อยู่ดี
17 เอียน ไรท์ (อาร์เซน่อล 4 - โบลตัน 1)
ในวัย 34 ปี เอียน ไรท์ ยังคงมีพิษสงรอบตัว กดแฮตทริกนาที 20, 25 และ 81 ในเกมที่ อาร์เซน่อล เปิดรัง ไฮบิวรี่ ชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 4-1 เมื่อฤดูกาล 1997-98 ทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ เดอะ กันเนอร์ส ที่ทำเอาไว้ก่อนหน้าโดย คลิฟฟ์ บาสติน ก่อนถูก เธียร์รี่ อองรี ทุบสถิติอีกรอบในอีก 1 ทศวรรษต่อมา
16 เฟรดี้ โบบิช (โบลตัน 4 - อิปสวิช 1)
ครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาล 2001-02 โบบิช ถูกยืมมาจาก ดอร์ทมุนด์ แต่ยิงให้ โบลตัน ในลีกไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น จนกระทั่งมากดแฮตทริกในเกมชนะ อิปสวิช 4-1 ซึ่งเป็นแฮตทริกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครึ่งแรก นาที 2, 30 และ 38 นอกจากจะพา โบลตัน รอดตกชั้นในฤดูกาลนั้นแล้ว ยังถีบ อิปสวิช ตกชั้นในท้ายที่สุดด้วย
15 เยอร์เก้น คลินส์มันน์ (วิมเบิลดัน 2 - สเปอร์ส 6)
การกลับมาสวมชุด สเปอร์ส รอบ 2 ของ คลิ้นซี่ แตกต่างไปจากครั้งแรก เพราะในฤดูกาล 1997-98 ไก่เดือยทอง ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนัก แต่ก็ได้ความเก๋าของดาวยิงเยอรมนีมาช่วยชีวิตทันเวลา 4 ประตูที่ยิง วิมเบิลดัน ช่วงท้ายซีซั่น ทำให้รอดตกชั้นหวุดหวิด และเป็นการปิดฉากสวยหรูของ คลิ้นซี่ ที่แขวนสตั๊ดหลังจบซีซั่น
14 เวย์น รูนี่ย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด 8 - อาร์เซน่อล 2)
อาร์เซน่อล กลายเป็นทีมที่ถูกโฉลกสำหรับ เวย์น รูนี่ย์ เพราะตอนแจ้งเกิดกับ เอฟเวอร์ตัน ก็มาจากประตูที่ยิง ปืนใหญ่ นี่แหละ และหนึ่งในเกมที่อยู่ในความทรงจำคือเกมที่ ผีแดง ถล่ม เดอะ กันเนอร์ส 8-2 รูนี่ย์ ตะบันแฮตทริกนาที 41, 64 และ 82 ยัดเยียดความปราชัยแบบย่อยยับที่สุดนับตั้งแต่ปี 1896 ให้กับทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์
13 เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล 4 - ลิเวอร์พูล 2)
ซีซั่น 2003-04 ที่ ปืนใหญ่ ฝันถึง 3 แชมป์ แต่ต้องเผชิญสัปดาห์แห่งฝันร้ายเพราะตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ เธียร์รี่ อองรี ก็ทำให้ อาร์เซน่อล ตื่นจากฝันร้าย กดแฮตทริกนาที 31, 50 และ 78 ให้ทีมแซงชนะ ลิเวอร์พูล 4-2 ก่อนสร้างประวัติศาสตร์พา เดอะ กันเนอร์ส เข้าป้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่าย
12 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 8)
ช่วงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีลุ้น 3 แชมป์ ฤดูกาล 1998-99 ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่เพียงแข็งแกร่งเฉพาะ 11 ตัวจริง แต่ยังมีตัวสำรองทีเด็ดอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งในเกมที่ ซิตี้ กราวด์ หลังจาก ผีแดง นำหายห่วง 4-1 ดาวยิงนอร์เวย์ก็ถูกส่งลงสนามในนาที 72 และยิง 4 ประตู นาที 80, 88, 90 และทดเจ็บให้ทีมชนะ 8-1
11 โรเบิร์ต เอิร์นชอว์ (ชาร์ลตัน 1 - เวสต์บรอมวิช 4)
ซีซั่น 2004-05 เวสต์บรอมวิช ผ่านครึ่งซีซั่นแรกสุดย่ำแย่ จมบ๊วยหลังผ่านคริสต์มาส โดยเฉพาะผลงานเกมเยือนที่ห่วยแตกสุดๆ แต่เริ่มปี 2005 เดอะ แบ๊กกี้ส์ ก็เร่งเครื่อง และมีสุดยอดเกมเกิดขึ้นในการไปเยือน ชาร์ลตัน ขณะที่สกอร์ยังตึงอยู่ที่ 1-1 เอิร์นชอว์ ถูกส่งลงสนามในช่วง 26 นาทีสุดท้าย และลงไปยิงแฮตทริกนาที 73, 84 และ 90
*พรุ่งนี้มาต่ออีก 10 อันดับแรก