การเริ่มต้นของ โดมินิก ลิวาโควิช ในนามทีมชาติโครเอเชียชุดใหญ่ ไม่ใช่เกมที่น่าจดจำมากนัก เพราะเกมจบลงหลังการดวลจุดโทษที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
หลังจากฉลองวันเกิดอายุครบ 22 ปีได้เพียงสองวัน ของขวัญวันเกิดที่ทำให้ ลิวาโควิช มีความสุขมากที่สุดคือการประเดิมทีมชาติโครเอเชียชุดใหญ่ หลังลงเล่นมาตั้งแต่ทีมชุดยู-15, ยู-16, ยู-17, ยู-19, ยู-20 และ ยู-21 จนฝีไม้ลายมือสุกงอมเต็มที่แล้ว
โครเอเชีย ตอบรับคำเชิญของ จีน เข้าร่วมศึกไชน่าคัพ 2017 และด้วยความที่โปรแกรมระหว่างวันที่ 10-15 มกราคม อยู่นอกเหนือจากปฏิทินฟีฟ่า ทำให้ทางสมาคมฟุตบอลโครเอเชียต้องระดมนักเตะที่ค้าแข้งในประเทศมาเล่นยกชุด มีเพียงสองคนที่มาจากลีกสโลวีเนีย และอาเซอร์ไบจัน
ลิวาโควิช เป็น 1 ใน 15 นักเตะหน้าใหม่ที่ไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่มาก่อน เช่นเดียวกับ โยซิป ยูราโนวิช และ บอร์นา บาริซิช จาก 19 นักเตะในทีมชุดนั้น ภายใต้การคุมทีมของ อันเต้ ชาชิช เฮดโค้ชคนก่อน
ชาชิช วางแผนที่จะใช้งานผู้รักษาประตูทั้งสองคนที่เรียกมาได้ประเดิมทีมชาติในรายการนี้ และ ลิวาโควิช ถูกเลือกลงเฝ้าเสาก่อนในเกมรอบรองชนะเลิศ (4 ชาติเตะแบบน็อกเอาท์) ที่เสมอกับ ชิลี 1-1
ในช่วงการดวลจุดโทษตัดสิน ลิวาโควิช ไม่สามารถเซฟจุดโทษของคู่แข่งได้เลย จบลงด้วยความพ่ายแพ้แบบขาดลอย 1-4 เป็นการประเดิมทีมชาติแบบไม่น่าจดจำ และเป็นเกมเดียวที่ได้ลงเล่นให้ โครเอเชีย ตลอดปี 2017
เวลานั้น โครเอเชีย มีผู้รักษาประตูมือหนึ่งตัวเก๋า ดานิเยล ซูบาซิช และมือสอง ลอฟเร่ คาลินิช ขวางหน้าอยู่ ดังนั้นเป้าหมายของ ลิวาโควิช คือการงัดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาให้ได้เพื่อตำแหน่งมือสาม
และด้วยการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับต้นสังกัด ดินาโม ซาเกรบ พาทีมครองแชมป์ลีกโครเอเชีย ซีซั่น 2017-18 ทำให้เฮดโค้ชทีมชาติ ซลัตโก้ ดาลิช หนีบ ลิวาโควิช ไปลุยฟุตบอลโลก 2018 ในฐานะมือสาม สมความปรารถนา
ลิวาโควิช นั่งซึมซับบรรยากาศและประสบการณ์อยู่ข้างสนาม มองดู ซูบาซิช โชว์สามเซฟในช่วงการดวลจุดโทษชนะ เดนมาร์ก รอบ 16 ทีมสุดท้าย และอีกหนึ่งเซฟในการดวลจุดโทษชนะเจ้าภาพ รัสเซีย รอบ 8 ทีมสุดท้าย
หลังจบฟุตบอลโลก 2018 ซูบาซิช อำลาทีมชาติ ตามขั้นบันไดแล้ว โอกาสจึงตกเป็นของ คาลินิช ในการยึดมือหนึ่งแทน แต่ผู้รักษาประตูที่เพิ่งย้ายไป แอสตัน วิลล่า ในปีนั้น ไม่สามารถยึดตัวจริงกับต้นสังกัด บวกกับฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อลงเฝ้าเสาให้ โครเอเชีย
นั่นทำให้ ดาลิช มอบโอกาสให้ ลิวาโควิช ยึดมือหนึ่งตั้งแต่เกมยูโร 2020 รอบคัดเลือก และเป็นเบอร์หนึ่งของทีมชาติในรอบสุดท้าย ลงเฝ้าเสาไป 4 เกม จอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย จากการแพ้ สเปน ช่วงต่อเวลา 3-5
หนึ่งปีเศษๆ ผ่านไป ลิวาโควิช ยังคงเป็นตัวหลักของ โครเอเชีย ในฟุตบอลโลก 2022 และตอนนี้เขากำลังทำในสิ่งที่เคยเห็นจากรุ่นพี่ ซูบาซิช เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ลิวาโควิช เซฟสามจุดโทษในการดวลเป้าชนะ ญี่ปุ่น รอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นผู้รักษาประตูคนที่สามที่เซฟได้ถึงสามจุดโทษในฟุตบอลโลก ต่อจาก ริคาร์โด้ ของ โปรตุเกส ในเวิลด์คัพ 2006 และ ซูบาซิช เมื่อครั้งก่อน
และเหมือนภาพเก่าถูกนำมาฉายซ้ำอีกครั้ง ลิวาโควิช เซฟอีกหนึ่งจุดโทษในเกมดวลชนะ บราซิล รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลียนแบบสิ่งที่เห็นจาก ซูบาซิช ไม่มีผิดเพี้ยน
ถึงตอนนี้ ชื่อของ โดมินิก ลิวาโควิช ถูกพูดถึงอย่างมาก ขณะที่ฟุตบอลโลก 2022 กำลังเดินทางเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ กับการที่ผู้รักษาประตูวัย 27 ปี โชว์เซฟจุดโทษ และคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ สองเกมติดต่อกัน
และไม่ว่า โครเอเชีย จะไปถึงแชมป์โลก หรือรอบชิงชนะเลิศเป็นหนที่สองติดต่อกันหรือไม่ ลิวาโควิช ก็สร้างชื่อให้กับตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อย
หลังจบฟุตบอลโลก อีกหนึ่งเป้าหมายในชีวิตของผู้รักษาประตูวัย 27 ปี นั่นคือการออกไปค้าแข้งในลีกใหญ่ กับสโมสรที่ใหญ่ขึ้น และอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้เลย
เพราะนับตั้งแต่ย้ายจาก เอ็นเค ซาเกรบ มาอยู่ ดินาโม ซาเกรบ ปี 2015 ลิวาโควิช ไม่เคยย้ายบ้านไปไหนเลย
