ปี 2022 เป็นขวบปีที่มีทั้งเรื่องร้ายและดีสำหรับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ยังคงไม่ยอมแขวนสตั๊ดง่ายๆ ในวัย 41 ย่าง 42
แบกสภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อยลงช่วย สวีเดน ในรอบเพลย์ออฟ ลุ้นตั๋วฟุตบอลโลก 2022 แต่การลงสำรองก็ไม่ได้ช่วยอะไรในเกมที่แพ้ โปแลนด์ อย่างง่ายดาย 0-2 ในเดือนมีนาคม
ฉลองสคูเด็ตโต้อย่างดูดดื่ม จากผลงานที่ลงเล่นไปไม่มาก 23 เกม ยิงไป 8 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ หลังจบซีซั่นตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด พร้อมเผยว่าต้องทนเล่นทั้งที่มีปัญหาเอ็นไขว้ข้อเข่าด้านหน้าฉีกขาดมานานหลายเดือน
แม้ถูกคาดการณ์ว่าต้องพักอย่างน้อย 7 เดือน แต่ เอซี มิลาน ยังคงมอบสัญญาฉบับใหม่ให้แบบปีต่อปี เป็นรางวัลตอบแทนความสำเร็จ จากการกลับมาสวมชุดสีแดง-ดำรอบสอง ยิง 36 ประตูจาก 74 เกม
นั่นคือครั้งสุดท้ายที่แฟนๆ มิลาน ได้เห็น อิบราฮิโมวิช จนกระทั่งการปรากฏตัวล่าสุด การเก็บตัวฝึกซ้อมช่วงมิด-ซีซั่นกันที่ ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
"ผมดีขึ้นมาก มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน ผมทำตามกฏระเบียบต่างๆ ที่เราให้ไว้กับตัวเอง"
"มิลาน คิดถึง อิบรา ในทางตรงกันข้ามก็เช่นกัน อิบรา ก็คิดถึง มิลาน ด้วย"
"ยังไม่มีการกำหนดเวลาสำหรับการคืนสนาม ผมถือเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการกับปัญหาบาดเจ็บ ผมคงคิดผิดหากจะระบุวันเวลาที่แน่นอน"
"แต่ถ้าหากเป็นไปตามความตั้งใจแล้ว ผมอยากกลับมาลงตัวจริงตั้งแต่เกมลีกนัดแรก (ต้นเดือนมกราคม) แต่ผมไม่คิดแบบนั้นอีกแล้ว ผมจะลงเล่นเมื่อผมพร้อม"
"ผมไม่สามารถลงสนามเพียงเพราะผมคือ อิบราฮิโมวิช แต่ผมจะต้องอยู่ในสนามแล้วสร้างผลกระทบในเกมให้ได้ ไม่อย่างนั้น ผมขอนั่งสำรองหรือนั่งดูบนอัฒจันทร์ดีกว่า"
ในวัย 41 ย่าง 42 อิบราฮิโมวิช ยอมรับตามตรงว่าเขาไม่ใช่คนที่อีโก้สูงเหมือนสมัยหนุ่มๆ อีกแล้ว
"แน่นอน ผมไม่มีอีโก้เหมือนเมื่อสิบปีก่อนอีกต่อไปแล้ว วันนี้ผมกลายเป็นอีกคน มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น"
"ผมวางตัวเป็นผู้น้อย และโค้ชคือคนที่ตัดสินใจทุกอย่าง ผมไม่คิดว่าจะสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจตัวเองอีกต่อไปแล้ว ผมให้ความเคารพทุกอย่าง แม้ผมไม่ได้อะไรตอบแทนเลยก็ตาม"
เกณฑ์เฉลี่ยของนักฟุตบอลส่วนใหญ่มักจะแขวนสตั๊ดกันราวๆ 35-36 ปี แต่ตอนนี้ อิบราฮิโมวิช หลุดทะลุไปไกลแล้ว และแม้ต้องเข้ารับการผ่าตัดพักยาว แต่นั่นไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจเป็นนักฟุตบอลอาชีพต่อ
"เพราะผมยังรู้สึกถึงอะดรีนาลีนที่พุ่งพล่าน ความตื่นเต้นของแฟนบอล กลิ่นสนามหญ้า และเพราะผมยังไม่พอใจ ผมจึงต้องการอะไรมากกว่านี้อีก ผมยังรู้สึกมีชีวิตชีวาอยู่"
"ผมเลือกเข้ารับการผ่าตัด ไม่เพียงแต่จะทำให้ผมรักษาอาชีพนักฟุตบอลต่อไปได้ แต่ยังทำให้ผมหายเป็นปกติดีด้วย"
"ในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว ผมทรมานมากๆ ผมเลือกอยู่เงียบๆ ไม่ต้องการพูดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในแง่ลบต่อทีม"
ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครตอบได้ว่า ฤดูกาล 2022-23 จะเป็นปีสุดท้ายของ อิบราฮิโมวิช หรือเปล่า แต่เขาได้วางเป้าหมายที่แน่ชัดกับ มิลาน เอาไว้แล้ว
"ผมอยู่ที่นี่ เป็นเพราะผมเชื่อมั่นในสิ่งนี้ สคูเด็ตโต้, โคปปา อิตาเลีย, ซูเปอร์โคปปา, แชมเปี้ยนส์ ลีก เราต้องการทุกแชมป์ การละทิ้งเป้าหมายเดียวหมายถึงการละทิ้งเป้าหมายทั้งหมด"
"และความคิดของเราไม่เป็นอย่างนี้อีกต่อไป ผมไม่มีความฝัน มีแต่เป้าหมาย ปล่อยให้ความฝันเป็นเรื่องของคนอื่น เราจงเดินหน้าทำ ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ ฟุตบอลสอนให้รู้เรื่องนั้น"
แม้ยังไม่รู้กำหนดคืนสนามที่แน่ชัด แต่จากการคาดการณ์มีโอกาสได้เห็น อิบราฮิโมวิช กลับมาในช่วงปลายเดือนมกราคม และหากเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ คงได้เจอกันในเกมดาร์บี้ เดลล่า มาดอนนิน่า ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
