ถึงตอนนี้ หากไม่มีการพลิกล็อกครั้งใหญ่ เราจะได้เห็น เบิร์นลี่ย์ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นสมาชิกใหม่ของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023-24
ชัยชนะของทั้ง เบิร์นลี่ย์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในเกมฟรายเดย์ไนท์ ทำให้ทั้งสองทีมโกยแต้มทิ้งห่างทีมอื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่น มีผลงานชัยชนะที่เหนือกว่า และประตูได้เสียที่โดดเด่นกว่าอย่างชัดเจน
ในช่วงต้นซีซั่นเป็น แบล็คเบิร์น ที่ครองจ่าฝูงอยู่ช่วงหนึ่ง จากนั้นก็สลับมาเป็น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยมี เร้ดดิ้ง กับ ควีนส์ปาร์ค สอดแทรกขึ้นมาช่วงสั้นๆ และพอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ผู้นำก็กลายเป็นของ เบิร์นลี่ย์ ตั้งแต่เดือนตุลาคมมาจนถึงปัจจุบัน
เบิร์นลี่ย์ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ลงเล่นเกมที่ 28 ของฤดูกาลก่อนในคืนวันศุกร์ และนี่คือตารางคะแนน 6 อันดับแรก หลังจบเกมที่ เทิร์ฟ มัวร์ และ บรามอลล์ เลน
เบิร์นลี่ย์ เตะ 28 ชนะ 18 เสมอ 8 แพ้ 2 ได้ 55 เสีย 26 ประตูได้เสีย +29 คะแนน 62
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เตะ 28 ชนะ 17 เสมอ 6 แพ้ 5 ได้ 48 เสีย 24 ประตูได้เสีย +24 คะแนน 57
------------------
วัตฟอร์ด เตะ 27 ชนะ 12 เสมอ 7 แพ้ 8 ได้ 33 เสีย 28 ประตูได้เสีย +5 คะแนน 43
มิดเดิลสโบรช์ เตะ 27 ชนะ 12 เสมอ 6 แพ้ 9 ได้ 42 เสีย 33 ประตูได้เสีย +9 คะแนน 42
แบล็คเบิร์น เตะ 27 ชนะ 14 เสมอ 0 แพ้ 13 ได้ 30 เสีย 34 ประตูได้เสีย -4 คะแนน 42
เวสต์บรอมวิช เตะ 28 ชนะ 11 เสมอ 8 แพ้ 9 ได้ 38 เสีย 30 ประตูได้เสีย +8 คะแนน 41
นี่คือความแตกต่างที่ชัดเจนมากๆ
เบิร์นลี่ย์ นำอันดับสอง 5 คะแนน และทิ้งห่างทีมอันดับสาม ซึ่งเป็นพื้นที่เพลย์ออฟไกลถึง 19 คะแนน
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็นำหน้าโซนเพลย์ออฟอยู่ 14 คะแนน แม้บรรดาทีมอันดับ 3, 4, 5 เตะน้อยกว่าหนึ่งเกมก็ตาม
แต่ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหลังจบแต่ละสัปดาห์ ทีมในโซนเพลย์ออฟอันดับ 3-6 ต่างเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาไปเรื่อยๆ เพราะดูจากอันดับ 3-14 มีคะแนนห่างกันเพียง 6 คะแนนเท่านั้น
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ เบิร์นลี่ย์ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มีผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยม และคงเส้นคงวามากๆ
การเข้ามาของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี มีความชัดเจนเรื่องการสร้างทีมชุดใหม่ ตัวหลักหลายคนที่ขายได้ราคา ก็ขายเลย ไม่มีการยื้อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น นิค โพ๊ป 10 ล้านปอนด์, ดไวท์ แม็คนีล 20 ล้านปอนด์, มักซ์เวลล์ กอร์กเนต์ 17.5 ล้านปอนด์, เนธาน คอลลินส์ 20.5 ล้านปอนด์
และสามกองหลังที่หมดสัญญา เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, เอริค ปีเตอร์ส
การเสริมทัพถือว่าเข้าเป้าหลายคน มานูเอล เบนสัน, อานาสส์ ซารูรี่, เนธาน เตลล่า สามตัวรุกริมเส้น, อาริยาเนต มูริช ที่เข้ามาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งคนใหม่ และแนวรับใหม่หมดจากขวาไปซ้าย วิตินโญ่, เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส, จอร์แดน เบเยอร์, เอียน มาตเซ่น
แทบไม่เหลือโฉมหน้าทีมจากซีซั่นก่อน ยกเว้นศูนย์หน้าตัวเป้าที่ยังเป็น เจย์ โรดริเกซ สลับกับ แอชลี่ย์ บาร์นส์
ฝั่ง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็สร้างทีมต่อยอดมาจากซีซั่นก่อนที่ได้ พอล เฮคกิงบอททอม เข้ามาทำทีมช่วงกลางซีซั่น ปลุกทีมจากอันดับ 16 ขึ้นมาจบสูงถึงอันดับ 5 แต่จอดป้ายรอบรองฯ เพลย์ออฟ
สภาพทีมเปลี่ยนไปไม่มากจากฤดูกาลที่แล้ว หลักๆ คือ อาเนล อาห์เหม็ดฮอดซิช, เคียแรน คล้าร์ก สองกองหลัง และ เจมส์ แม็คเคที่ กับ เรด้า คาดร้า สองตัวรุก
คนที่โดดเด่นที่สุดในฤดูกาลนี้คือ อิลิมาน เอ็นดิอาย กองกลางตัวรุกทีมชาติเซเนกัล ที่ทำไปแล้ว 10 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ เหนือศูนย์หน้าตัวเป้า โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ที่ประสบปัญหาบาดเจ็บบ่อย
ด้วยคะแนนที่ทิ้งห่างขนาดนี้ (ก่อนเกมวันเสาร์) จึงไม่น่าจะมีพลิกล็อกอะไร หากจะใส่ชื่อ เบิร์นลี่ย์ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็น 2 ใน 20 ทีมพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2023-24
เป็นการกลับคืนพรีเมียร์ลีกโดยใช้เวลาเพียงปีเดียวของ เบิร์นลี่ย์ และสองปีสำหรับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด