ในฐานะนักเตะดาวรุ่ง น้อยคนนักที่จะหันหลังเดินออกจากหนึ่งในสโมสรใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไป เขากำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า นั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง
วิลฟรีด ญอนโต้ เด็กหนุ่มเชื้อสายไอวอรี่โคสต์ ที่เกิดและเติบโตที่ประเทศอิตาลี เขาก้าวเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร อินเตอร์ มิลาน ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
จนกระทั่งถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในวัย 16 ปี วิลฟรีด เลือกที่จะอำลา อินเตอร์ ซึ่งเวลานั้นเขาติดทีมชาติอิตาลี ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี
"ผมอยู่ที่ อินเตอร์ ผมมีความสุขมาก"
"ผมได้อยู่ที่บ้าน แต่ตอนนั้นครอบครัวและผมต่างคิดว่าทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเรา และอาชีพนักฟุตบอลของผมคือการย้ายออกมา"
วิลฟรีด เลือก ซูริค สโมสรในลีกสวิตเซอร์แลนด์ ที่ซึ่งไปเล่นฤดูกาลแรก ทำไปเพียงประตูเดียวจาก 26 เกม
ซีซั่นที่สอง วิลฟรีด เริ่มผ่อนคลายและปรับตัวได้ดีขึ้น ทำไป 10 ประตูจาก 36 เกมรวมทุกรายการ
และนั่นเองที่ทำให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ ตัดสินใจเรียกตัวขึ้นมาจากทีมชาติชุดยู-19 ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2022 หรือหลังจบฤดูกาลพอดี
"ช่วงแรกๆ มันยากมาก เพราะ สวิตเซอร์แลนด์ คืออีกประเทศ ภาษาใหม่ ทีมใหม่ บางทีมถ้าผมอยู่ที่นั่น (อินเตอร์) ต่อไป ผมคงไม่มีทางได้ติดทีมชาติหรอก"
ชื่อของ วิลฟรีด ญอนโต้ กลายเป็นที่สนใจขึ้นมาทันที หลังจากการประเดิมทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ ในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่พบกับ เยอรมนี แม้เป็นการลงเล่นในฐานะตัวสำรอง แต่ก็สร้างความจี๊ดจ๊าด และทำหนึ่งแอสซิสต์
ตรงจุดนั้นเองที่เริ่มมีการขุดคุ้ยประวัติของ วิลฟรีด กันมากขึ้น และหลายสโมสรทั่วยุโรปก็ให้ความสนใจปีกจรวดรายนี้ เพราะเชื่อว่ามีอนาคตที่ก้าวไกลรออยู่แน่นอนในทีมชาติอิตาลี
สุดท้ายแล้ว วิลฟรีด เลือกย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด
"พรีเมียร์ลีก เป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดของยุโรป ถ้าไม่ใช่เบอร์หนึ่งแล้ว ก็ถือเป็นลีกที่มีความเข้มข้นสูงมาก มันจึงเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในชีวิตผม เพราะผมจะได้เผชิญหน้ากับนักเตะชั้นยอด"
แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้เลือกสโมสร ลีดส์?
"ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้คุยกับผู้อำนวยการ บิคตอร์ ออร์ต้า ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่น"
"ผมคิดว่าสโมสรแห่งนี้มีบางอย่างที่ตรงกับผม นั่นคือความทะเยอทะยาน และนี่คือสโมสรที่ดีที่สุดที่พร้อมจะเติบโตไปข้างหน้า"
"เราเล่นฟุตบอลเกมรุก และคุณสมบัติของผมก็เหมาะสมกับทีมเป็นอย่างดี"
"โชคดีที่ เจสซี่ มาร์ช กับโค้ชคนเก่าของผมมีแนวความคิดที่คล้ายคลึงกัน มันจึงไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปในการปรับตัว แต่ความหนักหน่วงของเกมที่แตกตางกัน จึงมีความยากเพิ่มขึ้นนิดหน่อยในการปรับตัว"
แล้วคิดว่าการย้ายทีมครั้งนี้จะส่งผลต่อทีมชาติอิตาลีมากน้อยแค่ไหน?
"ผมไม่เคยคุยเรื่องนั้น (กับ มันชินี่) แต่คำพูดของเขาถึงนักเตะหนุ่มๆ ที่ต้องเล่นอยู่ในระดับสูง กลายเป็นแรงบันดาลใจต่อการตัดสินใจของผม"
"ผมไม่คิดว่านักเตะหนุ่มต้องย้ายไปต่างแดนเพื่อพัฒนาตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้ลงสนาม และถ้าไม่มีความเป็นไปได้นี้ในอิตาลี (กับ อินเตอร์) มันก็คุ้มค่าที่จะไปลองที่อื่น"
อย่างไรก็ตาม วิลฟรีด ไม่เคยลืมช่วงเวลาวัยเด็กที่น่าจดจำที่ อินเตอร์
"ผมเป็นหนี้บุญคุณ อินเตอร์ อย่างมาก ผมใช้เวลา 8 ปีที่สำคัญต่ออาชีพนักฟุตบอลของผมที่นั่น คงเป็นเกียรติอย่างมากหากจะได้เจอกับพวกเขาสักวันหนึ่ง"
"เรื่องแผนการกีฬามีความสำคัญสำหรับผมเสมอ และผมตัดสินใจทุกอย่างจากเหตุผลนั้น"
ถึงตอนนี้ วิลฟรีด กำลังพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักในทีม ลีดส์ และในเวทีพรีเมียร์ลีก มีให้เห็นไปแล้ว 3 ประตู จากการลงตัวจริง 8 เกม และลงสำรองอีก 3 เกมรวมทุกรายการ
วิลฟรีด เซ็นสัญญายาวอยู่ในถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ถึงปี 2027 ดังนั้นจึงไม่มีเวลาที่จะคิดถึงเรื่องการย้ายกลับ อินเตอร์ ในอนาคต เพราะตอนนี้เขาเพิ่งอายุ 19 ปีเท่านั้น
"ในชีวิตคุณไม่มีทางรู้หรอก ผมเป็นแฟน อินเตอร์ ทุกคนรู้ดี"
"ตอนนี้ผมต้องคิดถึงอาชีพค้าแข้งของผม ตัวเลือกที่เหมาะสม วันหนึ่งข้างหน้าคุณไม่อาจล่วงรู้"
"แต่ตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นมากเกินไป"
