ไม่ใช่ครั้งแรกที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ออกงิ้วในอาชีพโค้ช ไม่ว่าจะใส่ผู้ตัดสิน, คู่แข่ง หรือแม้แต่ลูกทีมตัวเอง แต่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นที่ โรม่า
ชื่อเสียงของ มูรินโญ่ เป็นที่รู้จักกันดีในอังกฤษ กับการคุม เชลซี สองช่วง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
เรื่องฝีไม้ลายมือในการคุมทีมไม่มีใครสงสัยในตัว มูรินโญ่
แต่ที่หลายคนห่วงคือเรื่องการควบคุมอารมณ์ เวลามีปัญหากับผู้ตัดสิน ขัดแย้งกับคู่ต่อสู้ หรือตำหนิลูกทีมตัวเองผ่านสื่อ ที่เคยเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนในอดีต
อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นในเกมเซเรียอาที่ โรม่า บุกแพ้ เครโมเนเซ่ 1-2 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์
ก่อนเกมที่ 24 ของฤดูกาล โรม่า ต้องการสามคะแนนจากเกมที่ สตาดิโอ โจวานนี่ ซินี่ เพราะการขับเคี่ยวแย่งอันดับ 2, 3, 4 กับ อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน และ ลาซิโอ กำลังดุเดือดอย่างมาก
และเมื่อผลการแข่งขัน โรม่า เป็นฝ่ายตามหลังทีมบ๊วยของตาราง 0-1 ตอนจบครึ่งแรก จึงมีความครุกรุ่นอยู่ในตัว มูรินโญ่ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เมื่อมีจังหวะปะทะกันในช่วงต้นครึ่งหลัง มูรินโญ่ ก็ออกมาโวยใส่ผู้ตัดสินที่สี่ตามสไตล์ของตัวเองที่เห็นทีมเสียผลประโยชน์
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะผู้ตัดสินที่สี่ มาร์โก แซร์ร่า ที่ดูแลข้างสนาม ไม่เกรงกลัว มูรินโญ่ จึงปะทะคารมกันอย่างดุเดือด จนถึงขั้นที่ทำให้โค้ชชาวโปรตุกีสสติแตก ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ และโดนใบแดงจากผู้ตัดสิน จนบรรดาทีมงานต้องเข้ามาเบรคเอาไว้ก่อนเรื่องราวบานปลายไปมากกว่านี้
ภายหลังจบเกม มูรินโญ่ ไม่ปิดบังที่จะเปิดเผยกับสื่อว่า แซร์ร่า พูดบางอย่างที่ไม่สมควรพูด เป็นต้นเหตุให้ตนเองควบคุมอารมณ์ไม่ได้
มูรินโญ่ บุกเข้าไปที่ห้องแต่งตัวผู้ตัดสินหลังจบเกม เพื่อขอเคลียร์ใจกับ แซร์ร่า แต่ผู้ตัดสินที่สี่รายนี้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ราวกับว่าจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้
ถึงตอนนี้ มูรินโญ่ กำลังพิจารณาดำเนินการทางกฏหมายกับ แซร์ร่า แม้มีความพยายามที่จะค้นหาการบันทึกเสียงในช่วงเวลานั้น แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะทำให้ความจริงปรากฏ
มูรินโญ่ ยังทำการบ้านมาดีมากๆ ขุดคุ้ยประวัติของ แซร์ร่า ว่ามาจากเมืองตูริน ซึ่งเกมต่อไปของ โรม่า จะลงเล่นกับ ยูเวนตุส อาจเป็นสาเหตุที่ต้องการให้ตนเองพลาดคุมทีมในเกมนั้น
นี่คือมุมที่ มูรินโญ่ ชี้แจงและอ้างถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
บทลงโทษอย่างรวดเร็วจากคณะกรรมการด้านระเบียบวินัยของสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี คือโทษแบน 2 เกม เจอ ยูเวนตุส กับ ซาสซูโอโล่ และปรับเงินจำนวน 10,000 ยูโร หรือราวๆ 370,000 บาท
เหตุผลอ้างอิงในการพิจารณาบทลงโทษ หนึ่ง โต้แย้งคำตัดสินของผู้ตัดสินอย่างรุนแรง และมีการยั่วยุเกิดขึ้น สอง หลังจากโดนใบแดงยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และสาม เข้าไปในห้องแต่งตัวผู้ตัดสินเพื่อกล่าวต่อว่าผู้ตัดสินที่สี่อีกครั้ง
มุมมองของสื่ออิตาลี สองสำนักใหญ่เสียงแตกสำหรับบทลงโทษในครั้งนี้ที่ โรม่า ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว
คอร์ริเอเร่ เดลโล่ สปอร์ต มองว่า มูรินโญ่ แค่ต้องการเคลียร์ใจกับ แซร์ร่า ถึงบุกไปหาที่ห้องแต่งตัว แต่สิ่งที่ได้รับคือการเพิกเฉย พร้อมกับชี้ว่าปัจจุบันผู้ตัดสินในอิตาลีมีความเย่อหยิ่ง บ้าอำนาจ และไม่ค่อยอธิบายอะไรง่ายๆ
ขณะที่ กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต มองต่างมุม ชี้ว่า มูรินโญ่ คนปัจจุบันที่ โรม่า ไม่เหลือคราบโค้ชผู้เคยประสบความสำเร็จอย่างมาก
และยามใดที่พ่ายแพ้ ก็มักจะโยนความผิดให้ผู้ตัดสิน ลูกทีม ยกเว้นตัวเอง
หรือพูดง่ายๆ ประวัติเก่าๆ ของ มูรินโญ่ ไม่ค่อยดีนัก กัซเซ็ตต้า จึงไม่เอนเอียงเข้าหา
กัซเซ็ตต้า ยังชี้แนะอีกว่า มูรินโญ่ กำลังพา โรม่า ไปผิดทิศผิดทาง ตอนแพ้ โบโด/กลิมท์ 1-6 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โค้ชชาวโปรตุกีสตำหนิลูกทีมหลายคนออกสื่อ
ซึ่งเรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ถึงตอนนี้เชื่อว่า มูรินโญ่ น่าจะคุมทีม โรม่า เป็นฤดูกาลสุดท้าย แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นด้วยวิธีไหน เพราะยังเหลือสัญญาในถิ่น สตาดิโอ โอลิมปิโก้ จนจบซีซั่น 2023-24
ใครจะรู้ อาจมีสโมสรที่ยอมจ่ายค่าชดเชยเพื่อฉีกสัญญากับ โรม่า เพราะชื่อของ มูรินโญ่ ยังขายได้เสมอ แม้ประวัติช่วงหลังเริ่มไม่ค่อยดีก็ตาม
