นาโปลี ขยับเข้าใกล้สคูเด็ตโต้สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์สโมสร และจะเป็นแชมป์เซเรียอาสมัยแรกของนักเตะทุกคนในทีมชุดนี้
หนึ่งในนั้นคือ สตานิสลาฟ ลาบ็อตก้า กองกลางทีมชาติสโลวาเกีย ที่เล่นกับ นาโปลี เป็นฤดูกาลที่ 4 หลังย้ายมาจาก เซลต้า บีโก้ ค่าตัว 21 ล้านยูโร เดือนมกราคม ปี 2020
จากที่ไม่สามารถยึดตัวหลักของ นาโปลี ในช่วงสองฤดูกาลแรก แต่ภายหลังการมาของเทรนเนอร์ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ทำให้ ลาบ็อตก้า กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ซีซั่นนี้ ลาบ็อตก้า เป็นหนึ่งในสามกองกลางตัวหลักของ สปัลเล็ตติ ในระบบการเล่น 4-3-3 ร่วมกับ ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ และ อ็องเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ อองกีสซ่า
"มันไม่ง่ายเลยที่จะอธิบาย ผมไม่ได้ลงสนามมากนัก และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อมทอนซิล ทำให้ผมไม่มั่นใจในตัวเองอีกต่อไป และทันใดนั้นเองผมก็รู้สึกเศร้า"
"ผมเป็นแบบนั้น เพราะใครก็ตามที่ไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ จะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง และอาจมองหาวิธีในการแก้ปัญหาใหม่"
"บางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมคิดว่า กัตตูโซ่ (เทรนเนอร์คนก่อน) ต้องการนักเตะอีกประเภท และไม่มีที่ว่างสำหรับผม"
"ผมเริ่มคิดมองหาสโมสรใหม่ จากนั้นผมก็ลดน้ำหนัก แล้ว สปัลเล็ตติ ก็เข้ามา และประวัติศาสตร์หน้าใหม่ก็เริ่มต้น"
สถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ลาบ็อตก้า กลายเป็นตัวหลักของ สปัลเล็ตติ ทำให้ นาโปลี ต้องการต่อสัญญาฉบับใหม่ แทนที่สัญญาปัจจุบันที่มีอายุถึงปี 2025
"เราอยู่ในจุดที่ดี เรากำลังพูดคุยกันอยู่ ผมชัดเจนว่าอยากอยู่ต่อ ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลย"
เวลานี้ทุกคนในสโมสรมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความสุข หลังจากตารางคะแนน นาโปลี นำ อินเตอร์ ไกลถึง 18 คะแนน ไม่พลาด สคูเด็ตโต้ อยู่แล้ว รอแค่ว่าจะครองแชมป์อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่
"บุคลิกของทีมเกิดขึ้น เรารู้จัก สปัลเล็ตติ แล้ว และเรายังเข้าใจสไตล์การเล่นของเขามากขึ้นอีกด้วย"
"ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ มีความสุขกับสิ่งที่เรากำลังทำ แต่เราต้องตระหนักด้วยว่าฤดูกาลยังอีกยาวไกล และไม่อนุญาติให้เราเสียสมาธิ"
ลาบ็อตก้า เชื่อว่านาทีนี้ ทุกคนที่ นาโปลี ต่างต้องการสัมผัสแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก และจะสู้กับ เรอัล มาดริด ได้อย่างสูสีแน่นอน หากต้องจับสลากมาเจอกันในรอบต่อไป
"ทุกคนต่างใฝ่ฝันถึงแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก แต่มันเป็นงานยาก มีหลายสโมสรที่ยอดเยี่ยม แต่เราไม่มีอะไรจะเสีย เราไม่เหมือน เรอัล มาดริด"
"ถ้าเราต้องเจอพวกเขาในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เรารู้ว่าเราสามารถสู้ได้อย่างสูสี คงไม่มีใครคาดหวังว่าจะเห็น นาโปลี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ"
ถึงตอนนี้ นาโปลี เตรียมแผนฉลองสคูเด็ตโต้กันไว้บ้างแล้ว ถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของ ลาบ็อตก้า ที่ไม่ถอดใจ และกลายเป็นตัวหลักในทีมของ สปัลเล็ตติ ในที่สุด