:::     :::

เส้นทางสายลูกหนังของ'ญอนโต้'

วันพุธที่ 22 มีนาคม 2566 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
614
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บนถนนสายฟุตบอลของ วิลฟรีด ญอนโต้ กองหน้าเลือดไอวอเรียน เขาเลือกทางเดินด้วยตัวเอง และตอนนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างที่ใจต้องการ

ญอนโต้ ไม่เสียใจกับการทิ้งโอกาสแจ้งเกิดในเซเรียอา เขาเลือกอำลาทีมเยาวชนของ อินเตอร์ มิลาน เพื่อไปพิสูจน์ตัวเองในลีกสวิตเซอร์แลนด์กับ เอฟซี ซูริค

10 ประตูจาก 36 เกม ช่วยพา ซูริค ครองแชมป์สวิส ซูเปอร์ลีก ฤดูกาล 2021-22
จบซีซั่น โรแบร์โต้ มันชินี่ เรียกตัว ญอนโต้ ติดทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ และได้ประเดิมสนามในเดือนมิถุนายน จากนั้นอีก 3 เดือน ก็เป็นอีกก้าวในชีวิต เมื่อเซ็นสัญญากับ ลีดส์ ยูไนเต็ด สโมสรในพรีเมียร์ลีก
"ผมจะขอบคุณ อินเตอร์ ตลอดไป แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นโอกาสที่สูญเปล่า ผมต้องทำการตัดสินใจ ผมไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ"
"และผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องทั้งสำหรับครอบครัวของผมและผม"
"ผมไม่อยากเชื่อว่าผมจะได้รับโอกาสนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก และผมไม่มีเวลาที่จะคิดถึงมันเลย ส่วนตัวแล้ว มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี แต่ทีมก็ผ่านช่วงเวลาทั้งดีและร้าย"
"มันเหมือนเป็นความฝัน ผมมาจากบาเวโน่ และไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เล่นในพรีเมียร์ลีกสักวันหนึ่ง ผมภาคภูมิใจ แต่ผมก็พยายามพัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน"
สมัยเป็นนักเตะในทีมเยาวชนของ อินเตอร์ ญอนโต้ มองเห็นทีมชุดใหญ่ของ เนรัซซูรี่ ที่คุมทัพโดย มันชินี่ และโอกาสที่ไม่น่าจะได้รับในระยะเวลาอันใกล้
นั่นทำให้ ญอนโต้ ตัดสินใจย้ายออกไปต่างแดน และในเวลาต่อมา เขาก็ได้ร่วมงานกับ มันชินี่ สมใจปรารถนา แต่เป็นการร่วมงานกันในทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่
"ตอนที่ผมยังเด็ก เล่นอยู่ในทีมเยาวชนของ อินเตอร์ ตอนนั้น มันชินี่ เป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ และผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะได้ติดทีมชาติร่วมงานกับเขาในวันหนึ่ง"
ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกของ ญอนโต้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก เขาต้องเริ่มต้นกับทีมยู-21 และพอปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โอกาสในทีมชุดใหญ่ของ ลีดส์ ก็มาถึง
ญอนโต้ ทำไปแล้ว 4 ประตูจาก 20 เกมรวมทุกรายการ หนึ่งในนั้นเป็นประตูสวยๆ ที่ยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เงียบกริบตั้งแต่เวลาดำเนินไปยังไม่ครบหนึ่งนาทีเต็ม
อะไรที่ยังติดอยู่ในหัวเขามากที่สุดหลังจากการทำประตูที่ โรงละครแห่งความฝัน?
"ความเงียบ เพราะประตูนั้นมาแบบไม่มีใครคาดคิด หลังผ่านไปแค่นาทีแรก เป็นช่วงเวลาที่สวยงามจริงๆ"
ช่วงเวลาของ ญอนโต้ ในพรีเมียร์ลีกกำลังจะครบ 7 เดือนแรก สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาประทับใจคือเรื่องแฟนบอล และบรรยากาศในเกมการแข่งขัน
"เรื่องของบรรยากาศ เพราะแฟนๆ ทำให้คุณรู้สึกถึงความสำคัญของเกมอยู่เสมอ คุณสามารถพูดได้ว่ามีวัฒนธรรมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม"
เมื่อ ญอนโต้ มาถึงพรีเมียร์ลีก สื่ออังกฤษยกเขาไปเปรียบเทียบกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษ ที่แจ้งเกิดกับ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และปัจจุบันสังกัด เชลซี
"มีหลายคนที่บอกว่าเรามีความคล้ายคลึงกัน น่าเหลือเชื่อที่ได้เผชิญหน้ากับเขาในพรีเมียร์ลีก แต่ผมก็สนุกกับทุกช่วงเวลา"
กับทีมชาติอิตาลีชุดปัจจุบัน แม้ ญอนโต้ เพิ่งอายุ 19 ปี แต่เขาไม่ใช่น้องคนสุดท้องในทีมชุดนี้ หลังจาก อัซซูรี่ ประสบปัญหาแดนหน้าจน มันชินี่ ต้องเรียก ซิโมเน่ ปาฟุนดี้ วัย 17 ปีของ อูดิเนเซ่ มาติดทีม
และ มาเตโอ เรเตกี กองหน้าอาร์เจนไตน์ของ ตีเกร ที่มีคุณสมบัติเล่นให้ อิตาลี ได้
แม้ผ่านประสบการณ์ในชุด อัซซูรี่ เพียง 8 เกม แต่ ญอนโต้ จะเป็นกำลังสำคัญในรอบคัดเลือก ยูโร 2024 อย่างไม่ต้องสงสัย และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วาดฝันเอาไว้ เขาจะเป็นตัวหลักทีมชุดเวิลด์คัพ 2026

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด