สองปีที่แล้ว วัตฟอร์ด กับ นอริช, ปีที่แล้ว ฟูแล่ม และปีนี้ เบิร์นลี่ย์
เบิร์นลี่ย์ กลายเป็นสโมสรที่ 4 ใน 3 ฤดูกาลหลังสุด ที่ตกชั้นแล้วสามารถเลื่อนชั้นกลับพรีเมียร์ลีกได้ในระยะเวลาเพียงปีเดียว
หลายปัจจัยมาจากการตัดสินใจที่ถูกต้องของบอร์ดบริหาร เดอะ คลาเรตส์
หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นั่นคือการแยกทางกับ ชอน ไดช์ ในช่วงท้ายๆ ซีซั่น แต่ก็ไม่อาจเซฟทีมให้อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกได้
ภาพจำของแฟนบอลรุ่นใหม่ เมื่อพูดถึง เบิร์นลี่ย์ หน้าของ ไดช์ ก็จะต้องลอยมา จากการคุมทีมอย่างยาวนานหนึ่งทศวรรษ ตั้งแต่ปี 2012-2022
ไดช์ กับ เบิร์นลี่ย์ ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย ทั้งการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ถึงสองครั้งในปี 2014 และ 2016 การจบครึ่งบนของตารางได้ถึงสองครั้ง
และที่สร้างชื่อให้กับสโมสรคือการลุยฟุตบอลยุโรปครั้งแรกในรอบ 51 ปี ในถ้วยยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2018-19
การตกชั้นลงสู่แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2022-23 สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดที่จะต้องเปลี่ยนแปลง นั่นคือ เบิร์นลี่ย์ ต้องก้าวผ่านภาพลักษณ์ที่มี ไดช์ เป็นผู้จัดการทีมให้ได้
บอร์ดบริหาร เดอะ คลาเรตส์ เลือก แว็งซ็องต์ ก็องปานี อดีตเซนเตอร์แบ็กทีมชาติเบลเยียมที่มีประสบการณ์โชกโชนในพรีเมียร์ลีก และประสบความสำเร็จมากมายกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แต่ในบทบาทโค้ช ก็องปานี เพิ่งนับหนึ่ง และผลงานก็ยังไม่น่าประทับใจกับ อันเดอร์เลชท์
การบริหารจัดการทีมก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากตัวเก๋าที่หมดสัญญาอย่าง เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, เอริค ปีเตอร์ส ตัวหลักหลายคนต้องถูกพิจารณาขาย เป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย เพื่อให้สโมสรเดินหน้าต่อในลีกรอง
ค่าตัวของ เนธาน คอลลินส์ 20.5 ล้านปอนด์, ดไวท์ แม็คนีล 20 ล้านปอนด์, มักซ์เวลล์ กอร์กเนต์ 17.5 ล้านปอนด์, นิค โพ๊ป 10 ล้านปอนด์ และ เวาท์ เว็กฮอร์นส์ ที่ปล่อยยืมไปให้ เบซิคตัส กลายเป็นการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาด
การเสริมทัพในราคาที่เหมาะสมกับการเล่นในแชมเปี้ยนชิพ อาทิ อาริยาเน็ต มูริช 3 ล้านปอนด์, มานูเอล เบนสัน 3 ล้านปอนด์, อานาส ซารูรี่ 3.5 ล้านปอนด์ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
เช่นเดียวกับการยืม เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส, เนธาน เตลล่า, จอร์ดาน เบเยอร์, เอียน มาตเซ่น เป็นต้น
ทุกอย่างมาจากการวางแผนและการปรับตัวให้เข้ากับลีกรองได้เป็นอย่างดีของบอร์ดบริหาร เบิร์นลี่ย์
มองเห็นตัวอย่างจากหลายสโมสรที่ตกชั้นแล้วจนป่านนี้ก็ยังโงหัวไม่ขึ้น อย่าง วัตฟอร์ด, นอริช ที่ดึงดันจะรักษาดาวดังของทีมเอาไว้ ปฏิเสธข้อเสนอก้อนโต จนต้องมานั่งเสียดายภายหลัง
แผนการต่อจากนี้ของ เบิร์นลี่ย์ คงต้องเริ่มต้นจากการซื้อขาดบรรดาแข้งยืมตัวที่สอบผ่าน ทั้ง ฮาร์วูด-เบลลิส เซนเตอร์แบ็กจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เตลล่า ตัวรุกจาก เซาธ์แฮมป์ตัน, เบเยอร์ เซนเตอร์แบ็กจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และ มาตเซ่น แบ็กซ้ายจาก เชลซี
จากนั้นก็ค่อยไปว่ากันเรื่องการเสริมทัพที่ ก็องปานี ซื้อมาเข้าเป้าหลายคนเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะไร้เทียมทานในเวทีแชมเปี้ยนชิพ ที่ตอนนี้เพิ่งแพ้แค่ 2 เกมจาก 39 เกม แต่ก็ได้เจอบททดสอบสำคัญไปบ้างแล้ว อย่างเกมเอฟเอคัพ ที่บุกแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-6 และคาราบาวคัพ ที่บุกแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ที่ ก็องปานี จะต้องรับมือให้ได้ในฤดูกาลหน้า
แต่กว่าจะถึงช่วงเวลานั้น เบิร์นลี่ย์ ขอเฉลิมฉลองให้สุดเหวี่ยงในช่วงเวลาอีกหนึ่งเดือนเต็มๆ จนกว่าจะถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาล เกมที่ 46 วันที่ 8 พฤษภาคม