4 วันหลังจากเหยียบเวมบลีย์ ในฐานะ 1 ใน 4 ทีมสุดท้ายที่ฝ่าด่านเข้าถึงรอบรองฯ เอฟเอ คัพ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็ได้ดื่มด่ำความสำเร็จต่อกับการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก
การตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2020-21 ได้มอบบทเรียนมากมายกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และทำให้ค้นพบผู้จัดการทีมที่ใช่ หลังจากลองผิดลองถูกมาหนึ่งฤดูกาล
คริส ไวล์เดอร์ ไม่ประสบความสำเร็จในการรักษาสถานะอยู่ในพรีเมียร์ลีกเป็นฤดูกาลที่สาม ทำให้ผู้บริหาร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง
พอล เฮคกิงบอททอม ถูกดึงขึ้นมาจากทีมชุดยู-23 เพื่อรักษาการณ์คุมทีมจนจบซีซั่น และต้องมีประวัติการทำงานที่ไม่น่าจดจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กับการตกชั้นกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แม้เป็นการคุมทัพชั่วคราวก็ตาม
เฮคกิงบอททอม มีความหวังที่จะได้ทำงานกับทีมชุดใหญ่เต็มตัวในแชมเปี้ยนชิพซีซั่นถัดไป แต่ผู้บริหารมองข้าม และเลือก สลาวิซ่า โยคาโนวิช คุมทัพ
หลังจากออกสตาร์ตซีซั่นป้วนเปี้ยนอยู่โซนล่างของตาราง ดีที่สุดคือการดีดตัวเองขึ้นมาอยู่ตรงกลางได้ แต่ผู้บริหารเล็งเห็นแล้วว่าสโมสรกำลังเดินไปในทิศทางที่ผิด จึงคิดเร็วทำเร็ว
ครั้งนี้ เฮคกิงบอททอม คือคนที่ถูกเลือกจนได้
ผลงานของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กระเตื้องขึ้นชัดเจน โกยแต้มกระจุยในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ และการเก็บ 9 คะแนนเต็มใน 3 เกมสุดท้าย ก็ทำให้ ดาบคู่ กระโจนจบอันดับ 5 ได้อย่างน่าทึ่ง
นี่คือผลงานที่น่าทึ่งของ เฮคกิงบอททอม ที่เข้ามาฉุดทีมจากอันดับ 16 ขึ้นมาจบอันดับ 5 ได้น่าภาคภูมิ
น่าเสียดายที่การเจอกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในรอบรองฯ เพลย์ออฟ ต้องจบด้วยการดวลจุดโทษที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ซีซั่น 2021-22 จึงเป็นประสบการณ์ที่ดีของ เฮคกิงบอททอม ก่อนลุยซีซั่นใหม่แบบเต็มตัว
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นฤดูกาลเหมือนฝัน ชนะ 7 จาก 10 เกมแรก นำจ่าฝูงตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมต่อเดือนกันยายน แม้เจอผลงานเดือนตุลาคมที่ไม่น่าจดจำ แต่ก็กลับมากวาดคะแนนเน้นๆ ในเดือนพฤศจิกายน-มกราคม
ภาพรวมผลงานของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด สม่ำเสมอพอที่จะเกาะอันดับ 2 มายาวๆ ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน และชัยชนะ 6 จาก 7 เกมหลังสุด ก็เพียงพอให้ ดาบคู่ การันตีเลื่อนชั้นเป็นทีมที่สองต่อจาก เบิร์นลี่ย์
จุดแข็งของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คือการกลับมาเล่นหลังสามแบบเดียวกับที่ ไวล์เดอร์ ใช้งานมาตลอดหลายปีที่คุมทีมในถิ่น บรามอลล์ เลน และเลื่อนชั้นในปี 2019 ในฐานะรองแชมป์เช่นกัน
หมายความว่า เฮคกิงบอททอม กำลังจะพา เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ลุยพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในระบบการเล่น 3-5-2 เหมือนที่ ไวล์เดอร์ เคยนำทีมไปได้ไกลถึงอันดับ 9 ซีซั่น 2019-20 ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดที่ทำได้ในพรีเมียร์ลีก
ทีมชุดปัจจุบันมีบางคนที่ผ่านการเลื่อนชั้นและตกชั้นกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมามาแล้ว
สิ่งสำคัญคือการเสริมทัพให้แข็งแกร่งขึ้น และมีตัวเลือกใช้งานเพิ่มขึ้นกว่าซีซั่นนี้ เพราะ เฮคกิงบอททอม สร้างทีมในฤดูกาลนี้จากการซื้อนักเตะใหม่เพียงคนเดียว บวกกับยืมตัวมาอีก 3-4 ราย
และยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลยในเดือนมกราคม
ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่เจ้าของสโมสร เจ้าชายอับดูลลาห์ บิน มูซาอิด อัล ซาอัด แห่งซาอุดิอาราเบียจะต้องอัดฉีดเม็ดเงินเสริมทัพให้กับ เฮคกิงบอททอม ไม่ให้น้อยหน้าการลงทุนของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด