ในมุมมองของแฟนบอล หรือบุคคลภายนอก การแต่งตั้ง แซม อัลลาร์ไดซ์ ในสภาวะคับขัน อาจเป็นเพราะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว
หากการพิจารณาเลือกผู้จัดการทีม หรือเฮดโค้ชคนใหม่ เกิดขึ้นในช่วงปิดซีซั่น เชื่อได้เลยว่าชื่อของ อัลลาร์ไดซ์ คงไม่มีทางอยู่ในชอร์ตลิสต์ของ ลีดส์ อย่างแน่นอน
เพราะเป้าหมายที่สูงขึ้นของผู้บริหาร ลีดส์ ทำให้ตัวเลือกผู้จัดการทีมต้องมีโพรไฟล์ที่น่าสนใจ เป็นโค้ชในอุดมคติที่พร้อมร่วมงานกันในระยะยาว แม้ว่าคนๆ นั้นอาจไม่เคยมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกมาก่อนก็ตาม
นั่นคือเหตุผลที่ ลีดส์ เลือก เจสซี่ มาร์ช และ ฆาบี กราเซีย หลังหมดยุคทองของ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า
การปลด มาร์ช ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ดีสำหรับโค้ชคนใหม่ ที่จะมีเวลามากพอในการสร้างทีมให้อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก
แต่น่าเสียดายที่การเลือก กราเซีย เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอีกครั้งของผู้บริหาร
ผลงานของ กราเซีย ไม่เพียงไม่ดีขึ้นจากช่วงเวลาของ มาร์ช แต่มันยังย่ำแย่ลงด้วย
12 เกมที่คุมทัพ ชนะแค่ 3 และแพ้ถึง 7 ในจำนวนนั้นเป็นการแพ้ติดๆ กันต่อ คริสตัล พาเลซ (เหย้า) 1-5, ลิเวอร์พูล (เหย้า) 1-6, ฟูแล่ม (เยือน) 1-2 และฟางเส้นสุดท้ายก็มาขาดลงที่ บอร์นมัธ ทีมหนีตายด้วยกันด้วยสกอร์ 1-4
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้บริหาร ลีดส์ จึงต้องลืมแผนการระยะยาวต่างๆ ลืมโค้ชในอุดมคติทิ้งไปให้หมด แล้วพิจารณาโค้ชที่มากประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการหนีตกชั้น
นั่นทำให้ชื่อของ อัลลาร์ไดซ์ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่ง
อัลลาร์ไดซ์ ถูกยกย่องให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหนีตาย จากประสบการณ์ที่โชกโชนกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ซันเดอร์แลนด์, คริสตัล พาเลซ และ เอฟเวอร์ตัน
น่าเสียดายที่สถิติยอดเยี่ยมถูกลบทิ้งที่ เวสต์บรอมวิช ในภาระกิจฉุกเฉินฤดูกาล 2020-21 ซึ่งเป็นงานชิ้นสุดท้ายของ 'บิ๊กแซม' ก่อนปราศจากการว่าจ้างมาตั้งแต่กลางปี 2021
แน่นอน งานท้าทายที่ ลีดส์ ในฤดูกาลนี้มีความเสี่ยงสูงมาก เมื่อพิจารณาจากโปรแกรม 4 เกมสุดท้ายที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน), นิวคาสเซิ่ล (เหย้า), เวสต์แฮม (เยือน) และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า)
และเมื่อดูจากผลงานของทีมในช่วงเวลาของ กราเซีย ที่เสียไปถึง 23 ประตูในเดือนเมษายน กลายเป็นสถิติพรีเมียร์ลีกที่โดนยิงมากสุดในเดือนเดียว และเทียบเท่า เบอร์มิงแฮม ที่เคยทำเอาไว้ในลีกสูงสุด สมัยยังเรียกว่าดิวิชั่น 1 เมื่อปี 1965
แต่สำหรับ อัลลาร์ไดซ์ เขาเปิดใจว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการตอบรับงานใหม่นี้
เพราะถ้าบทสรุปซีซั่นนี้จบลงด้วยความผิดหวัง มันก็ไม่ใช่ความผิดโดยตรงของ อัลลาร์ไดซ์ อยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดอยู่รอดปลอดภัยขึ้นมา เขาจะกลายเป็นกุนซืออัจฉริยะที่รับโบนัสก้อนโตทันที ดีไม่ดีอาจได้ต่อสัญญาอีกซีซั่นด้วย
ไปๆ มาๆ ปี 2023 พรีเมียร์ลีก ได้ต้อนรับการกลับมาของ รอย ฮ็อดจ์สัน ในวัย 75 ปี ตามด้วย อัลลาร์ไดซ์ ในวัย 68 ปี
และบางทีเราอาจได้เห็น แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ในวัย 76 ปี กับ มาร์ติน โอนีล ในวัย 71 ปี ตามมาอีกสองคนด้วย
