การย้ายกลับ อินเตอร์ ปีก่อน ถือเป็นเรื่องยากแล้ว ปีนี้ ลูกากู จะต้องเผชิญงานยากขึ้นสองเท่า หากอยากอยู่ที่ ซาน ซีโร่ ต่ออีกหนึ่งฤดูกาล
การตัดสินใจอำลา อินเตอร์ กลับมาร่วมทีม เชลซี รอบสองเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2021 มีเพียง เนรัซซูรี่ ที่ได้ประโยชน์จากการย้ายทีมครั้งนี้ เพราะค่าตัวที่ได้รับมหาศาล 115 ล้านยูโร
ขณะที่ เดอะ บลูส์ กลายเป็นการลงทุนที่พังพินาศ และ ลูกากู ก็กลับมาเป็นศูนย์หน้าปืนฝืดอีกครั้ง
ไม่ใช่แค่ ลูกากู ที่ไม่มีความสุขในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ ทอดด์ โบห์ลี่ ที่ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรควบกับผู้อำนวยการกีฬาในตอนนั้นก็ไม่แฮปปี้ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมในช่วงเวลานั้นก็ไม่โอเค และแฟนบอล สิงโตน้ำเงินคราม ก็ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ลูกากู ได้ย้ายกลับ อินเตอร์ สมใจอยาก
แม้ อินเตอร์ ได้ค่าตัวมหาศาลจากการขาย ลูกากู ไปเพียง 11 เดือนก่อนหน้า แต่ปัญหาทางการเงินทำให้ เนรัซซูรี่ สามารถทำได้เพียงยืมตัว โดยตกลงกับ เชลซี ที่ตัวเลข 8 ล้านยูโร
ขณะเดียวกัน ก็สามารถจ่ายค่าจ้างให้ ลูกากู ได้เพียง 8 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งศูนย์หน้าทีมชาติเบลเยียมก็ตอบรับไม่มีปัญหา แม้ตัวเลขหายไปถึง 4 ล้านยูโรจากที่รับอยู่กับ เชลซี ก็ตาม
แต่การบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น ประกอบกับฟอร์มการยิงประตูที่ตกลงไปเมื่อหายเจ็บกลับมา ไม่ใช่ ลูกากู คนเดิมที่เคยยิง 34 ประตูจาก 51 เกมซีซั่น 2019-20 และ 30 ประตูจาก 44 เกมซีซั่น 2020-21 เมื่อครั้งย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลูกากู เพิ่งคลำเป้าเจอ 8 ประตูจาก 22 เกมเซเรียอา รวมแล้วเป็น 12 ประตูจาก 32 เกมรวมทุกรายการจนถึงตอนนี้ นั่นจึงทำให้ผู้บริหารของ อินเตอร์ ค่อนข้างลังเลว่าจะ 'ไปต่อ' หรือ 'พอแค่นี้'
หากเลือกที่จะ 'ไปต่อ' อินเตอร์ และ ลูกากู จะต้องพบกับอุปสรรคที่มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
ขณะที่ เชลซี อาจต้องการขายขาดมากกว่า แต่เมื่อไม่มีทางเลือก ก็คงต้องยอมเข้าเนื้อต่อไปอีกหนึ่งปี
และนี่อาจเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้การย้ายทีมเกิดขึ้นอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับสามฝ่าย ลูกากู, อินเตอร์ และ เชลซี
อย่างแรก ลูกากู จะต้องผลิตผลงานการทำประตูให้ดีขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้
ลูกากู ไม่ใช่ศูนย์หน้าประเภทที่มีส่วนร่วม หรือทำประโยชน์กับทีมมากนัก ดังนั้น การยิงประตูอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น ที่จะเป็นการวัดคุณภาพของศูนย์หน้าเบลเยียม
และดูเหมือนว่า ศูนย์หน้าวัย 30 ปีก็จะทราบเรื่องนั้นดี
หลังจากฤดูกาลดำเนินมาถึงช่วงกลางเดือนเมษายน เพิ่งมีประตูในเซเรียอาให้เห็นเพียง 3 ประตูเท่านั้น จาก 18 เกม โดย 2 ใน 3 มาจากจุดโทษ และประตูเดียวที่มาจากจังหวะโอเพนเพลย์ต้องย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
นั่นจึงทำให้ อินเตอร์ มีแนวโน้มล้มแผนการขยายสัญญายืมตัวอีกหนึ่งฤดูกาล
แต่ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลูกากู พลิกฟื้นฟอร์มตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง ทำไป 5 ประตูกับ 4 แอสซิสต์จากการลงเล่นเพียง 6 เกมในช่วงเวลาหนึ่งเดือน
ประเด็นนี้ ลูกากู จึงถือว่าทำได้เข้าเงื่อนไข
อย่างที่สอง ลูกากู จะต้องยอมลดค่าเหนื่อยของตัวเองลงอีก จากที่โปรยไปแล้วในตอนต้นว่า ศูนย์หน้าเบลเยียมยอมลดค่าจ้างจากที่รับกับ เชลซี 12 ล้านยูโรต่อปี เพื่อให้ได้กลับมาเล่นให้ อินเตอร์ ที่พร้อมจ่ายให้แค่ 8 ล้านยูโรต่อปี
แต่สำหรับฤดูกาล 2023-24 ตัวเลขจะต้องลดลงจากเดิมอีก เพราะ อินเตอร์ ทราบดีว่า เชลซี จะไม่มีทางยอมลดค่ายืม 8 ล้านยูโรต่อหนึ่งฤดูกาล ดังนั้นหาก ลูกากู ไม่มีปัญหา งูใหญ่ ก็พร้อมเดินหน้าต่อ
อย่างที่สาม เป็นเรื่องของการคว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ที่ อินเตอร์ กำลังลุ้นสองทางคือการจบ 4 อันดับแรกในเซเรียอา หรือการคว้าแชมป์ชปล. ซีซั่นนี้ ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่ได้ตั๋วมาครอบครอง
และอย่างสุดท้ายคือ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เชลซี จะต้องตัดสินใจไม่ใช้งาน หรือไม่มีแผนให้ ลูกากู กลับมาอยู่ในทีม ซึ่งตอนนี้ยังตอบได้ยาก
ว่าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะต้องได้รับการยืนยันแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเสียก่อน จากนั้นถึงจะได้รู้ทิศทางของทีมในอนาคต
นี่คือปัจจัยหลักๆ ที่จะส่งผลต่อการขยายสัญญายืมตัวของ ลูกากู กับ อินเตอร์ อีกหนึ่งฤดูกาล แต่ถ้าทุกอย่างเกิดล้มเหลว ศูนย์หน้าเบลเยียมก็จะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่กับเจ้านายใหม่ของ เชลซี แบบไม่มีทางเลือก