สโมสรที่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกจำเป็นต้องขายตัวหลักออกไปหรือเปล่า? เรื่องนี้ไม่มีคำตอบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลา
ปีที่แล้ว เบิร์นลี่ย์ เลือกที่จะขายตัวหลักที่สามารถทำเงินได้ ไม่ว่าจะเป็น เนธาน คอลลินส์ (20.5 ล้านปอนด์), ดไวท์ แม็คนีล (20 ล้านปอนด์), มักซ์เวลล์ กอร์กเนต์ (17.5 ล้านปอนด์), นิค โพ๊ป (10 ล้านปอนด์)
ขณะที่ วัตฟอร์ด ยืนยันที่จะรั้งตัว อิสไมล่า ซาร์ จนถึงนาทีสุดท้ายของตลาดซื้อขาย แม้มีข้อเสนอสุดท้ายที่เชื่อว่ามาจาก แอสตัน วิลล่า 25 ล้านปอนด์ก็ตาม
บทสรุปของฤดูกาล 2022-23 เบิร์นลี่ย์ สร้างทีมใหม่ตามแนวทางของผู้จัดการทีมใหม่ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในแชมเปี้ยนชิพ ยืนยันการเลื่อนชั้นอย่างรวดเร็ว และครองแชมป์ในเวลาต่อมา
สวนทางกับ วัตฟอร์ด ที่จบอันดับ 11 ในซีซั่นที่ใช้ผู้จัดการทีมไปถึง 3 คน ฟอร์มการเล่นส่วนตัวของ ซาร์ ตกลงไปมาก ถึงตอนนี้สโมสรยอมรับการขายแล้ว โดยตั้งราคาเอาไว้ราวๆ 20 ล้านปอนด์
แต่ถามหน่อยว่าจะมีทีมไหนยอมซื้อในราคานั้น เพราะนักเตะเหลือสัญญา 12 เดือนสุดท้าย
นี่คือตัวอย่างที่ดีในการเปรียบเทียบวิถีทางของสโมสรที่ต้องรับมือกับการตกชั้น
และเมื่อพิจารณาจากสามสโมสรที่ตกชั้นในปีนี้ เลสเตอร์ ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เซาธ์แฮมป์ตัน นักเตะที่เนื้อหอมที่สุดคงต้องยกให้เป็น เจมส์ แมดดิสัน กองกลางตัวรุกทีมชาติอังกฤษ
ย้อนกลับไปที่คำถามข้างต้น สโมสรที่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกจำเป็นต้องขายตัวหลักออกไปหรือเปล่า?
คำถามนี้คงต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล
แมดดิสัน เหลือสัญญากับสโมสรอีกเพียงปีเดียว แนวโน้มที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่จนถึงตอนนี้เป็นไปได้ยาก และด้วยอายุอานามหนุ่มแน่น 26 ปี สามารถเรียกค่าตัวได้ เพราะฝีเท้าอยู่ในระดับเป็นที่ต้องการของตลาด
10 ประตูกับ 9 แอสซิสต์ จาก 30 เกมพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2022-23 เป็นการรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ต่อเนื่อง จากซีซั่น 2021-22 ที่ซัลโวไป 18 ประตูจาก 53 เกมรวมทุกรายการ
นั่นคือเหตุผลที่ เลสเตอร์ สมควรขาย แมดดิสัน ด้วยประการทั้งปวง และค่าตัวที่ จิ้งจอกสีน้ำเงิน ตั้งเอาไว้ 40 ล้านปอนด์ ก็เป็นตัวเลขที่ดูสมน้ำสมเนื้อ แม้จะดูแพงไปหน่อยเมื่อพิจารณาเรื่องสัญญาที่เหลืออีกแค่ปีเดียว
หาก เลสเตอร์ ดึงดันที่จะเก็บ แมดดิสัน อยู่กับทีมต่อไป ปัญหาต่างๆ อาจตามมา
เนื่องด้วยฝีเท้าระดับ แมดดิสัน ดีเกินกว่าที่จะเล่นอยู่ในแชมเปี้ยนชิพ ผลที่ตามมาคือนักเตะอาจไม่มีกระจิตกระใจที่จะลงเล่น และส่งผลให้หลุดทีมชาติอังกฤษยาวๆ
และเมื่อจบซีซั่นหน้าก็มีโอกาสเสีย แมดดิสัน ไปแบบไม่มีค่าตัว หากยังไม่มีการต่อสัญญาฉบับใหม่
เลสเตอร์ ทราบดีอยู่แล้ว เพราะหลายปีที่่ผ่านมาผ่านประสบการณ์ขายนักเตะที่ทำกำไรได้อย่างมหาศาล นับตั้งแต่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-16
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (32 ล้านปอนด์), แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ (35 ล้านปอนด์), ริยาด มาห์เรซ (60 ล้านปอนด์), แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (80 ล้านปอนด์), เบน ชิลเวลล์ (50 ล้านปอนด์), เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (75 ล้านปอนด์)
ดังนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องใส่ชื่อ เจมส์ แมดดิสัน (40 ล้านปอนด์) เป็นรายต่อไป
