ขวบปีที่ผ่านมา อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม พบความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุผลสำคัญมาจากการเสียนักเตะตัวหลักแทบจะยกทีม
การจบอันดับ 3 ในเอเรดิวิซี่ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 การเป็นพระรองทั้งถ้วย KNVB Cup หรือ ดัตช์ คัพ และ โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์
ความล้มเหลวใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ตกรอบแบ่งกลุ่ม หล่นไปเล่นถ้วย ยูโรปา ลีก ก็ยังโบกมือลาทันทีในรอบเพลย์ออฟ (ก่อนรอบ 16 ทีมสุดท้าย)
จึงต้องย้อนกลับไปดูว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร?
การเสียผู้จัดการทีม เอริค เทน ฮาก ไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือเหตุผลแรก แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับการเสียนักเตะตัวหลักออกไปแบบรัวๆ
อันโตนี่ ไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 95 ล้านยูโร
ลีซานโดร มาร์ตีเนซ ไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 57.37 ล้านยูโร
เซบาสเตียน อัลแลร์ ไปให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 31 ล้านยูโร
ไรอัน กราเฟนเบิร์ค ไปให้ บาเยิร์น มิวนิค 18.5 ล้านยูโร
เพอร์ เชือร์ส ไปให้ โตริโน่ 9 ล้านยูโร
นิโกลัส ตาเกลียฟีโก้ ไปให้ โอลิมปิก ลียง 4.2 ล้านยูโร
และยังมีที่หมดสัญญา เสียฟรีไปอีกสองคน อันเดร โอนาน่า กับ นุสซาอีร์ มาซราอุย
บวกตัวเลขคร่าวๆ ทะลุหลัก 200 ล้านยูโรแบบเหลือๆ
ในแง่มุมของการทำธุรกิจ อาแจ็กซ์ ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในแง่มุมของกีฬากลับล้มเหลวสิ้นเชิง
อัลเฟรด ชรอยเดอร์ ที่หมายมั่นปั้นมือให้มาสานงานต่อจาก เทน ฮาก ไม่สามารถพาทีมไปข้างหน้าได้ และต้องแยกทางกันในช่วงปลายเดือนมกราคม
จอห์น ไฮติงก้า ที่เข้ามาดูแลทีมชั่วคราวต่อ แม้เริ่มต้นได้ดี ชนะ 7 เกมรวดในลีก แต่ท้ายสุดแล้วก็ไม่สามารถปลุกทีมให้ฟื้นขึ้นมาได้ และที่น่าเสียดายคือการพลาดแชมป์ดัตช์คัพ จากการดวลจุดโทษ
นี่คือเรื่องที่ผู้บริหารของ อาแจ็กซ์ ต้องร่วมกันรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่แค่การโยนบาปให้สองกุนซือ
ช่วงซัมเมอร์ปี 2023 อาแจ็กซ์ จะปล่อยตัวหลักน้อยลงจากปีที่แล้วอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพราะความต้องการรักษาความแข็งแกร่งให้กับทีม แต่เป็นเพราะนักเตะที่เป็นที่ต้องการของตลาดมีน้อยลง
เยอร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ทำท่าจะย้ายตั้งแต่ปีที่แล้ว กลายเป็นตัวหลักคนแรกที่ย้ายไป อาร์เซน่อล 40 ล้านยูโร
วันเดียวกับที่ยกเลิกสัญญา ดูซาน ทาดิช กองกลางตัวรุกที่ดีที่สุดของทีมนับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2018
หลังจากนี้ก็มีโอกาสเสียดาวดังอีกสองคน โมฮัมเหม็ด คูดุส กองกลางตัวรุกจอมถล่มประตูทีมชาติกานา และ เอ็ดซอน อัลวาเรซ กองกลางตัวรับทีมชาติเม็กซิโก
นี่คือเรื่องที่เฮดโค้ชคนใหม่ เมาริซ สไตน์ ต้องรับมือให้ได้ เพราะปัจจุบันขนาดทีมชุดใหญ่ของ อาแจ็กซ์ ค่อนข้างเล็ก แต่ก็คงไม่ปวดหัวเท่าที่ ชรอยเดอร์ ต้องเผชิญเมื่อปีที่แล้ว
ในมุมของแฟนบอล อาแจ็กซ์ ทุกคนน่าจะชินชากับเรื่องเหล่านี้แล้ว เพราะนี่คือวิถีทางของสโมสรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว