เป็นอันจบเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดของ อังกฤษ ในเดือนมีนาคม เกือบจะคว้าชัยชนะทั้งสองนัดอยู่แล้ว แต่มาโดนจุดโทษท้ายเกมจนเสมอ อิตาลี 1-1 เมื่อวันอังคาร
เอาเป็นว่ารายละเอียดเกมที่ เวมบลีย์ ไม่ขอพูดถึงมากนัก แม้สื่ออังกฤษพยายามพุ่งเป้าเล่นงานไปที่ 'วีเออาร์' แต่เคสนี้แตกต่างจากเคสอื่นๆ เพราะ 'วีเออาร์' ไม่ได้ผิดพลาด หากแต่กรณีจุดโทษหรือไม่จุดโทษ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ตัดสินแต่ละคนมากกว่า ส่วน 'วีเออาร์' ทำหน้าที่แค่ให้เวลาและมุมมองในการตัดสินใจแก่ผู้ตัดสินมากขึ้น
หลังจากนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือ ทรี ไลออนส์ จะเรียกนักเตะรวมตัวกันอีกครั้งหลังจบดูกาล 2017-18 โดยมีเกมอุ่นเครื่องอีก 2 นัดในบ้าน เจอกับ ไนจีเรีย ที่ เวมบลีย์ วันที่ 2 มิถุนายน และพบกับ คอสตาริกา ที่ เอลแลนด์ โร้ด รังของ ลีดส์ ยูไนเต็ด วันที่ 7 มิถุนายน
แต่ก่อนจะถึงเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดดังกล่าว เซาธ์เกต ต้องมี 23 นักเตะชุดสุดท้ายไปรัสเซียอยู่ในใจแล้ว โดยจะต้องประกาศทีมชุดแรกเบื้องต้นภายในวันที่ 14 พฤษภาคม ก่อนตัดตัวให้เหลือ 23 คนสุดท้ายภายในวันที่ 4 มิถุนายน
แล้ว เซาธ์เกต จะประกาศรายชื่อ 23 คนสุดท้ายตอนไหน?
จอห์น ครอส นักข่าวคนดังของ เดลี่ มิร์เรอร์ ระบุว่า เซาธ์เกต วางแผนจะประกาศรายชื่อ 23 คนสุดท้ายก่อนเกมกับ ไนจีเรีย วันที่ 2 มิถุนายนกันไปเลย เพราะต้องการให้ชัดเจนกันไปเลยว่าใครได้ไป ใครไม่ได้ไป ก่อนเกมอุ่นเครื่องทั้งสองนัด มิเช่นนั้น ในเกมกับ อินทรีมรกต นักเตะ สิงโตคำราม อาจมีการพะว้าพะวงจนกลายเป็นความกดดัน
ทีนี้มาดูกันหน่อย ว่าหลังจบเกมชนะ ฮอลแลนด์ 1-0 ที่ โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า เมื่อวันศุกร์ และเสมอ อิตาลี 1-1 ที่ เวมบลีย์ เมื่อวันอังคาร มีใครอยู่ในข่ายได้ไปแน่ๆ, มีโอกาสไปสูง, มีโอกาสไปริบหรี่ หรือหมดโอกาสไปเรียบร้อยแล้ว ไล่กันไปทีละตำแหน่ง
ผู้รักษาประตูค่อนข้างชัดเจนทีเดียว หลังจาก เซาธ์เกต เลือก จอร์แดน พิคฟอร์ด เฝ้าเสาในเกมกับ ฮอลแลนด์ และ แจ็ค บัตแลนด์ ลงเล่นเกมกับ อิตาลี ขณะที่ โจ ฮาร์ท ได้อภิสิทธิ์อยู่ก่อนแล้ว จากประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อนหน้านี้ และการรับใช้ทีมมาตลอดในรอบคัดเลือก
แนวรับ เซาธ์เกต ดูจะพอใจกับระบบกองหลัง 3 คนที่มี จอห์น สโตนส์ เป็นหัวใจสำคัญตรงกลาง ขณะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ถูกจับเล่นตำแหน่งใหม่จากแบ็กขวา หุบเข้ามายืนเป็นสต็อปเปอร์ฝั่งขวา ซึ่งก็ทำได้ดีทั้งสองนัดกับ ฮอลแลนด์ และ อิตาลี
ส่วนคนอื่นๆ แกรี่ เคฮิลล์, โจ โกเมซ, ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, ไมเคิ่ล คีน, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อัลฟี่ มอว์สัน ยังต้องวัดจากผลงานในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ทั้งหมด โดยตำแหน่งนี้ เซาธ์เกต น่าจะเอาไป 5-6 คน
มาถึงวิงแบ็ก จากการหุบเข้าไปของ วอล์คเกอร์ ทำให้ คีแรน ทริปเปียร์ ก้าวขึ้นมาเป็นวิงแบ็กขวาตัวจริง ส่วนทางซ้ายมีโอกาสเป็นของ แดนนี่ โรส สูง ขณะที่ แอชลี่ย์ ยัง ก็มีโอกาสได้ไปรัสเซียไม่น้อย เพราะเป็นตัวเลือกได้ทั้งสองฝั่ง ส่วนคนอื่นๆ ที่ยังต้องเบียดแย่งตั๋วมี ไรอัน เบอร์ทรานด์, ฟาเบียน เดลฟ์, อารอน เครสเวลล์ แต่อาจวืดทั้งหมด เพราะ เซาธ์เกต อาจเอาไปแค่ 3 คน
มาถึงตรงกลางสนาม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น่าจะการันตีตั๋วแล้ว ขณะที่ เอริค ดายเออร์ กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็มีภาษีดีกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะ ดายเออร์ ที่ยังสามารถเป็นตัวเลือกในแนวรับได้ด้วย
และยังมีตั๋วว่างอยู่สำหรับ แจ็ค วิลเชียร์, เจค ลิเวอร์มอร์, ลูอิส คุ้ก, แฮร์รี่ วิงส์, แจ็ค คอร์ก ที่ต้องแย่งชิงที่นั่งกันสุดชีวิต เพราะอาจจะเหลือแค่ที่เดียว
มิดฟิลด์ตัวรุก ตำแหน่งนี้ค่อนข้างเปิดกว้าง เพราะมีตัวเลือกเยอะมาก แต่มีเพียง ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ถูกคาดการณ์ว่าน่าจะยึด 1 เก้าอี้แน่นอน ปล่อยให้คนอื่นๆ ต้องแย่งชิงตั๋วที่เหลือ
เจสซี่ ลินการ์ด ทำผลงานโดดเด่นและยิงประตูชัยในเกมกับ ฮอลแลนด์ จนสามารถเบียด เดเล่ อัลลี นั่งสำรองทั้งสองนัด จึงมีความเป็นไปได้มากที่มิดฟิลด์จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะจองอีกที่นั่ง ปล่อยให้ อัลลี ต้องไปลุ้นแย่งชิงตำแหน่งร่วมกับ อดัม ลัลลานา, รูเบน ลอฟตัส-ชีค
สุดท้ายคือศูนย์หน้าตัวเป้า แฟนบอล สิงโตคำราม อาจอยากเห็นการจับคู่กันของ แฮร์รี่ เคน กับ เจมี่ วาร์ดี้ หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งทั้งสามคนนี้น่าจะได้ไปรัสเซียแน่ๆ เพียงแต่โอกาสเห็น เคน ผนึก วาร์ดี้ มีน้อย ขณะที่ เคน ผนึก แรชฟอร์ด มีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า
นอกจากสามคนนี้แล้ว ก็น่าจะเหลืออีกหนึ่งที่นั่ง ซึ่งต้องแย่งกันระหว่าง แดนนี่ เวลเบ๊ค, เจอร์เมน เดโฟ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่เดี้ยงอยู่ ส่วนโอกาสของ แทมมี่ อบราฮัม กับ โดมินิก โซลันกี เหลือน้อยมาก
นี่เป็นเพียงการคาดการณ์โอกาสของแต่ละคนที่จะได้ไปรัสเซียเดือนมิถุนายนนี้ ปัจจัยสำคัญที่สุดคืออาการบาดเจ็บว่าจะเกิดขึ้นกับใครหรือไม่ในช่วงอีก 2 เดือนเศษๆ ต่อจากนี้
และในทุกๆ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ มักมีนักเตะติดทีมแบบเซอร์ไพรส์อยู่เสมอ เพียงแต่ว่า เวิลด์คัพ 2018 จะเป็นใคร?