ย้อนกลับไป 5 ปีที่แล้ว โคจิ มิโยชิ เคยมีฤดูกาลที่ดีที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ บนเวทีเจลีก
มิโยชิ ฝั่งขวา ชนาธิป ฝั่งซ้าย เป็นทีเด็ดในแนวรุกของ มิไฮโล เปโตรวิช ที่มีศูนย์หน้าร่างใหญ่ เจย์ โบธรอยด์ กับ เคน โทคูระ เป็นตัวจบสกอร์ให้กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร
หลังจากจบฤดูกาล 2018 มิโยชิ ที่เป็นสมบัติของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ก็ถูกส่งต่อไปให้สโมสรที่ใหญ่ขึ้น โยโกฮามา เอฟ มารินอส ยืมใช้งานซีซั่นต่อมา
และยังไม่ทันจบฤดูกาล 2019 มิโยชิ ก็ก้าวกระโดดสู่ลีกยุโรป
รอยัล อันท์เวิร์ป สโมสรเบลเยียม โปรลีก เริ่มต้นจากการยืมตัว มิโยชิ ในฤดูกาลแรก แม้ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่บ้าง แต่ก็มีการเซ็นสัญญาถาวรเกิดขึ้นหลังจากนั้น ค่าตัว 1.2 ล้านยูโร
มิโยชิ ได้โอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอทีเดียว ทั้งในลีกสูงสุดของเบลเยียม และถ้วยยุโรปทั้ง ยูโรปา ลีก และ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก
หนึ่งในเกมที่น่าจดจำคือชัยชนะของ อันท์เวิร์ป เหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 ใน ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2020-21 โดยที่ มิโยชิ คือตัวหลักที่ลงเล่นทุกเกมในรายการนั้น
แม้ มิโยชิ มีรูปร่างบอบบาง ส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 6 นิ้ว หรือ 167 เซนติเมตร และเล่นเกมรุกริมเส้นเป็นหลัก แต่หลายเกมกับ อันท์เวิร์ป ถูกจับยืนวิงแบ็กตามแท็กติกได้อย่างไม่มีปัญหา
หลังผ่านไป 4 ฤดูกาลในลีกเบลเยียม มิโยชิ ได้รับข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้จากสโมสรอังกฤษ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่เสนอสัญญาระยะเวลาสองปีให้
มิโยชิ ตัดสินใจไม่ยาก แม้เป็นการไปเล่นในลีกรองอย่าง แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ก็ตาม
การย้ายทีมเกิดขึ้นเร็วตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ทำให้ มิโยชิ มีเวลามากขึ้นในการปรับตัวเข้ากับสโมสรใหม่ ลีกใหม่ ประเทศใหม่ ผู้จัดการทีมใหม่ และเพื่อนร่วมทีมใหม่
"พวกเขาต้องการตัวผมจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมต้องการมาที่นี่ ตอนที่ผมคุยกับโค้ช พวกเขามีวิสัยทัศน์ที่ดีสำหรับทีม และสำหรับผมด้วย ยามอยู่ในสนามผมเล่นด้วยความมั่นใจเสมอ และผมสามารถเล่นในระดับนั้นได้"
"ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก สโมสรติดต่อผม และผมก็มาอยู่ที่นี่ ผมดีใจและตื่นเต้นมากที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้"
มิโยชิ เป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นมาแล้วทุกชุด ผ่านประสบการณ์ตั้งแต่ ยู-17 เวิลด์คัพ, ยู-20 เวิลด์คัพ, โอลิมปิก เกมส์ 2020 กับทีมชาติยู-23 และ โกปา อเมริกา 2019 กับทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยผลผลิตของนักเตะญี่ปุ่นที่มีอยู่แทบทุกซอกทุกมุมของลีกยุโรปแล้ว ทำให้ มิโยชิ ลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2020
"หนึ่งในเป้าหมายของผมคือการติดทีมชาติญี่ปุ่น แต่ก่อนอื่นเลย ผมต้องการลงสนามที่นี่ และพิสูจน์ตัวเองให้ได้" ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ มิโยชิ ทางเว็บไซต์สโมสร เบอร์มิงแฮม
มิโยชิ ใช้เวลาปรับตัวจากการลงสำรอง 3 เกมแรกในแชมเปี้ยนชิพ และประตูที่ยิง บริสตอล ซิตี้ ในเกมที่สามของฤดูกาล ถือเป็นประตูปลดล็อกที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลให้การยอมรับอย่างรวดเร็ว
จอห์น ยูสเทซ ผู้จัดการทีมตัดสินใจส่ง มิโยชิ ลงตัวจริงเกมลีกครั้งแรกในเกมที่ 4 ของฤดูกาล และทำหนึ่งแอสซิสต์สวยๆ ในเกมชนะ พลีมัธ 2-1
ถึงตอนนี้ฤดูกาล 2023-24 ผ่านไปแล้ว 7 เกมแรก มิโยชิ มีส่วนร่วมในทีม เบอร์มิงแฮม ทุกเกม เป็นการลงตัวจริงในแชมเปี้ยนชิพ 1 เกม ลงสำรอง 4 เกม ยิง 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ และในคาราบาวคัพ ลงตัวจริง 1 เกม ลงสำรอง 1 เกม
เป็นสัญญาณที่ดีว่า มิโยชิ จะมีบทบาทไม่น้อยในแนวรุกของทีม เบอร์มิงแฮม ในฤดูกาล 2023-24 ที่ตอนนี้ผลงานในช่วงเริ่มต้นยอดเยี่ยม ชนะ 3 เสมอ 2 ยังไม่แพ้ เกาะกลุ่มหัวตารางแชมเปี้ยนชิพ
โคจิ มิโยชิ จึงเป็นนักเตะที่น่าจับตามองในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลนี้ และหากผลงานส่วนตัวออกมาดี ก็มีโอกาสก้าวขึ้นสู่เวทีพรีเมียร์ลีก โดยที่ เบอร์มิงแฮม ไม่จำเป็นต้องเลื่อนชั้น