เข้าสู่เดือนเมษายน พรีเมียร์ลีกจะมีการประกาศรางวัลใหญ่ประจำปีตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่สิ้นสุด นั่นคือ 'เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ด' ของ 'พีเอฟเอ'
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นประจำทุกๆ ปี สำหรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ที่จะมีการเปิดเผยรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลในเดือนเมษายน และจะมีการมอบรางวัลทุกประเภทภายในงานกาล่าที่กรุงลอนดอนในอีกไม่กี่วันต่อมา
แม้ในแต่ละฤดูกาล พรีเมียร์ลีกจะมีรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีหลากหลาย แต่รางวัลของ 'พีเอฟเอ' ถูกยกย่องว่าเป็นรางวัลที่สร้างความภาคภูมิใจมากที่สุด เพราะมาจากการลงคะแนนของเพื่อนร่วมทีมอาชีพกันเอง ที่ต้องเผชิญหน้ากันสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า
เราจึงเคยเห็นรางวัลนี้ตกเป็นของ แกเร็ธ เบล ปีกท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ฤดูกาล 2010-11 และ 2012-13 ทั้งที่สองซีซั่นนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
หรือจะเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าอาร์เซน่อล ฤดูกาล 2011-12 และ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2013-14 ทั้งที่สองปีนั้นเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ซิวแชมป์
นั่นแสดงให้เห็นว่า องค์ประกอบต่างๆ ไม่ได้นำมามีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินรางวัลเลย หากแต่รางวัล 'พีเอฟเอ' ถูกตัดสินจากการสัมผัสได้ของเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันล้วนๆ
สามฤดูกาลหลังสุด รางวัล 'พีเอฟเอ' ตกเป็นของนักเตะจากทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-15 เป็นของ เอแดน อาซาร์ จอมทัพเชลซี, ฤดูกาล 2015-16 ริยาด มาห์เรซ ปีกเลสเตอร์ และฤดูกาลที่แล้ว 2016-17 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวรับเชลซี
มาถึงฤดูกาลนี้ ก้าวเข้าสู่เดือนเมษายน เดือนรองสุดท้ายของซีซั่น 2017-18 จากม้าสามตัวที่ขับเคี่ยวลุ้นรางวัล เวลานี้ดูเหมือนชื่อของ แฮร์รี่ เคน จะห่างออกไปเรื่อยๆ เหลือลุ้นแค่ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวปั้นเกมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมถล่มประตูของลิเวอร์พูล
จากโพลล์สำรวจความคิดเห็นแฟนบอล และอัตราต่อรองของบรรดาร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ ชี้ชัดว่า เดอ บรอยน์ คือตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลนี้
และหากเป็นจริงตามนั้น มิดฟิลด์ผมทองก็จะกลายเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนแรกที่คว้ารางวัลนี้ไปครองด้วย นับตั้งแต่เริ่มมีการมอบรางวัลนี้ในฤดูกาล 1973-74
ซีซั่นนี้ เดอ บรอยน์ เป็นผู้นำ แอสซิสต์ พรีเมียร์ลีกอยู่ด้วยจำนวน 14 ประตู ทิ้งห่างอันดับ 2 ซึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมทีม เรือใบสีฟ้า เลรอย ซาเน่ ปีกเยอรมนี 3 ประตู
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยเอ่ยปากชม กองกลางเบลเยียม เมื่อช่วงต้นฤดูกาลว่า "เควิน คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในชีวิต เขาสามารถสร้างทุกสิ่งให้เกิดขึ้นได้ เขาคือนักเตะคุณภาพชั้นยอด เราภูมิใจและมีความสุขมากที่มีเขาอยู่ในทีม"
ถึงเวลานี้ ค่าตัว 55 ล้านปอนด์ ตอน แมนฯ ซิตี้ ดึงตัวมาจาก โวล์ฟสบวร์ก เมื่อปี 2015 ที่ใครหลายคนตั้งข้อสงสัย (เพราะความล้มเหลวสมัยอยู่ เชลซี) ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าค่อยๆ คืนทุนกลับมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ผลิดอกออกผลจนกลายเป็นกำไรอย่างมหาศาลแล้ว
จึงไม่มีใครกล้าคัดค้านเป็นแน่ หากรางวัล 'พีเอฟเอ' ฤดูกาลนี้จะตกเป็นของ เดอ บรอยน์
ขณะที่แคนดิเดทคนสำคัญ ซาลาห์ ผู้นำดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก 28 ประตูเวลานี้ บวกกับอีก 9 แอสซิสต์ รวมทุกรายการยิงไปแล้ว 36 ประตูจาก 40 นัด แต่โชคร้ายที่ผลงานดันมาเปรี้ยงปร้างในฤดูกาลเดียวกับ เดอ บรอยน์ พอดี
เดือนเมษายน เราคงได้เห็นการฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และในช่วงปลายเดือนก็คงได้เห็น เควิน เดอ บรอยน์ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ อีก
