"f*ck off back to America" เสียงตะโกนหยาบคายจากแฟนๆ เบอร์มิงแฮม พร้อมเสียงโห่ที่สร้างความเจ็บปวดใจให้กับ เวย์น รูนี่ย์ เป็นอย่างมาก
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ สโมสรแชมเปี้ยนชิพ ทราบดีอยู่แล้วว่าเผชิญความเสี่ยงสูงมาก ในการตัดสินใจแต่งตั้ง เวย์น รูนี่ย์ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม
หนึ่ง รูนี่ย์ มีแค่ชื่อเสียงในฐานะนักฟุตบอล แต่ยังไม่ได้พิสูจน์ฝีมืออะไรเลยในฐานะโค้ช
และสอง ช่วงเวลาในการแต่งตั้งดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เพราะ จอห์น ยูสเทซ เพิ่งพาทีมชนะสองเกมติดต่อกัน ก้าวขึ้นสู่พื้นที่เพลย์ออฟ อันดับ 6
เชื่อว่า เหตุผลหลักที่ผู้บริหารของ เบอร์มิงแฮม ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด เป็นเพราะมีการติดต่อกับ รูนี่ย์ นับตั้งแต่ยกเลิกสัญญากับ ดีซี ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม และตกลงกันได้เรียบร้อย
ดังนั้นการปลด ยูสเทซ และแต่งตั้ง รูนี่ย์ จึงเป็นความต้องการของผู้บริหารสโมสรที่ดูจะผิดเวลาไปไม่น้อย
การประเดิมคุมทีมที่ ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม เบอร์มิงแฮม บุกแพ้ 0-1 ถือเป็นผลการแข่งขันที่แฟนๆ เข้าใจได้ เพราะ มิดเดิลสโบรช์ ของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ชนะมา 5 เกมติดต่อกัน
เกมถัดไปซึ่งเป็นเกมแรกในรัง เซนต์ แอนดรูว์ส ที่พบ ฮัลล์ ซิตี้ นี่แหละ คือเกมที่ รูนี่ย์ ต้องพิสูจน์ให้เห็น
บทสรุปคือ เบอร์มิงแฮม แพ้ 0-2
"กลับอเมริกาไปให้พ้นๆ ซะ!" พร้อมเสียงโห่จากแฟนๆ 'บลูส์' พุ่งเป้าไปที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ของพวกเขา ผลการแข่งขันสร้างความผิดหวังอยู่แล้ว และที่สร้างความหงุดหงิดใจไปมากกว่านั้นคือแนวทางการเล่น
รูนี่ย์ เข้าใจความรู้สึกของแฟนๆ และยอมรับตามตรงว่าการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องใช้เวลา
การเปลี่ยนแปลงที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคือ รูนี่ย์ ต้องการให้ทีมขึ้นเกมด้วยการต่อบอลสั้นๆ จากแนวรับ เริ่มจากผู้รักษาประตูเลย
หลายครั้งลูกทีมยังไม่กล้าเล่นบอลเสี่ยง และหลายครั้งก็เสียบอลจากการขึ้นเกมในรูปแบบดังกล่าว
รูนี่ย์ พยายามกระตุ้นให้นักเตะมีความกล้าที่จะรับบอล ต่อบอลจากหน้าปากประตูตัวเอง
แต่ต้องไม่ลืมคุณภาพของทีมด้วยว่า พวกเขาไม่ใช่นักเตะระดับพรีเมียร์ลีก เป็นเพียงแค่ทีมระดับกลางของแชมเปี้ยนชิพที่ไม่อาจเล่นต่อบอลแบบเกินตัว
ผ่านไปสองเกมแรกแบบรูปเกมที่ไร้คุณภาพ รูนี่ย์ ยอมรับและเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะปรับความเข้าใจกับลูกทีมเสียใหม่
แต่พอการเริ่มต้นไม่น่าประทับใจ การปรับความเข้าใจก็อาจจะยากขึ้น
เบอร์มิงแฮม จบเกมที่สามของ รูนี่ย์ ด้วยการบุกแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-3 เป็นอีกเกมที่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี เพราะจบครึ่งแรกด้วยการตามหลัง 0-2
นี่คือโจทย์ยากที่ รูนี่ย์ จะต้องแก้ไขให้ได้ การเข้ามาคุมทีมผิดเวลา การเปลี่ยนแปลงแท็กติกมากเกินไปจนลูกทีมรับไม่ทัน
และสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการไม่เป็นที่ยอมรับจากแฟนๆ เบอร์มิงแฮม อย่างรวดเร็วเสียแล้ว