ปี 2017 เอซรี่ คอนซ่า ได้จับพลัดจับผลู อยู่ในทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์โลกรุ่นยู-20 ผ่านไป 6 ปี กองหลังรายนี้ได้สัมผัสการติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก
เส้นทางนักฟุตบอลของ คอนซ่า ก็คล้ายคลึงกับหลายต่อหลายคน การเริ่มต้นสร้างชื่อกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก ในระดับลีกวัน และถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-20 ในปี 2017-2018
คอนซ่า ไต่บันไดขึ้นสู่แชมเปี้ยนชิพ หลังย้ายไป เบรนท์ฟอร์ด ในปี 2018 และใช้เวลาอีกเพียงปีเดียว ก้าวขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก จากการย้ายไปร่วมทีม แอสตัน วิลล่า
การเล่นได้ทั้งเซนเตอร์แบ็ก และแบ็กขวา ทำให้ คอนซ่า ได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ 31 เกมในฤดูกาล 2019-20, 37 เกมในฤดูกาล 2020-21, 31 เกมในฤดูกาล 2021-22, 39 เกมในฤดูกาล 2022-23
และในฤดูกาล 2023-24 ยังคงเป็นตัวหลักในทีมของ อูไน เอเมรี่ ลงเล่นไปแล้ว 18 เกมรวมทุกรายการ
ดังนั้นเมื่อ ลูอิส ดังค์ เซนเตอร์แบ็กจาก ไบรท์ตัน ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษชุดเดือนพฤศจิกายน แกเร็ธ เซาธ์เกต จึงมอบโอกาสครั้งสำคัญให้กับ คอนซ่า
"ตั้งแต่ตอนผมยังเด็ก ผมอยากลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ผมจึงยินดีมากๆ สำหรับโอกาสครั้งนี้"
"ผมรู้ว่าผมมีงานต้องทำอีกมากในเกมของผม เพิ่งไม่นานมานี้ ในสองฤดูกาลหลัง เราเริ่มต้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ แอสตัน วิลล่า และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผมให้กลายเป็นนักเตะแบบที่ผมเป็นทุกวันนี้"
"ผมรู้ว่าช่วงเวลาของผมจะมาถึง แต่มันเป็นเรื่องของเวลา ผมอดทน และตอนนี้ผมและครอบครัวมีความสุขอย่างมาก"
"ผมเชื่อมั่นในตัวเองและผลักดันตัวเองเสมอ ผมสนุกกับช่วงเวลาของตัวเองในตอนนี้ ผมพูดเสมอว่าเรื่องอื่นๆ จะตามมาเอง และตอนนี้ผมมีความสุขจริงๆ"
จริงอยู่ คอนซ่า ยังเป็นตัวเลือกที่อยู่ห่างไกลจากการเป็นตัวจริงในทีมของ เซาธ์เกต แต่การติดทีมชาติอังกฤษในโปรแกรมสุดท้ายของปี 2023 ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหลือเวลาอีกเพียง 7 เดือน ศึกยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนีก็จะเปิดฉากขึ้น
เซาธ์เกต ไม่ใช่โค้ชที่เปลี่ยนแปลงทีมหรือเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ เห็นได้จากการติดทีมต่อเนื่องของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ดังนั้นโอกาสของ คอนซ่า จึงดูเหมือนริบหรี่ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เหตุผลหลักคือเรื่องอาการบาดเจ็บ ที่ในวงการฟุตบอลเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว
และหากสถานการณ์เป็นใจให้จริงๆ คอนซ่า ก็ได้เปรียบตัวเลือกอื่นๆ ตรงที่สามารถเล่นได้ทั้งเซนเตอร์แบ็ก และแบ็กขวา