:::     :::

'ขึ้นสุด ลงสุด' แค่สามเดือนเศษ

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
801
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นับตั้งแต่ซีซั่นใหม่เริ่มต้นเป็นช่วงเวลาเพียงสามเดือนครึ่ง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต้องเจอกับผลการแข่งขันที่เกินคาดเดา ทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้

การประเดิมฤดูกาล 2023-24 ต่อหน้าแฟนๆ ใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค นิวคาสเซิ่ล รัวยิง แอสตัน วิลล่า 5-1 ทำให้ทุกคนมองว่าทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว แข็งแกร่งขึ้นกว่าซีซั่นก่อนที่จบสูงถึงอันดับ 4

แต่หลังจากนั้น เจอโปรแกรมหนักเข้าไป 3 เกมติด ถึงกับแพ้รวดต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) 0-1, ลิเวอร์พูล (เหย้า) 1-2, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน (เยือน) 1-3
ฮาว รู้ดีว่า นิวคาสเซิ่ล จะต้องเผชิญซีซั่นที่หนักขึ้น จากการมีศึกใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เข้ามาเพิ่ม ซึ่งเป็นรางวัลตอบแทนผลงานอันยอดเยี่ยมจากซีซั่นก่อน
หลังจากเกมที่ เอเม็กซ์ นิวคาสเซิ่ล ชนะ 5 จาก 7 เกมในพรีเมียร์ลีก ในจำนวนนั้นมีเกมชนะสวยๆ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 8-0 (เยือน), คริสตัล พาเลซ 4-0 (เหย้า) และสะดุดเสมอ 2 เกมที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม และ โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ภาพรวมถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ
ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นิวคาสเซิ่ล เก็บ 4 คะแนนจาก เอซี มิลาน (เสมอ 0-0 เยือน) และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง (ชนะ 4-1 เหย้า) ก่อนฟอร์มหลุดอย่างแรง แพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทั้งเหย้าและเยือน
ใน คาราบาว คัพ แม้ปรับเปลี่ยนทีมหลายจุด แต่สามารถล้มทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ชนะ 1-0 เหย้า) และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ชนะ 3-0 เยือน) ก่อนเข้าไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ เชลซี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
เพียงช่วงเวลาสามเดือนครึ่ง นิวคาสเซิ่ล ต้องเจอผลการแข่งขันแบบขึ้นสุดลงสุด เพราะการเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากนักเตะทะยอยได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น
ทั้งเจ็บทั้งกรอบ หลังจากแพ้ที่ ดอร์ทมุนด์ ต่อด้วยเกมพรีเมียร์ลีกที่ บอร์นมัธ (บุกแพ้ 0-2) ก่อนหยุดพักให้โปรแกรมทีมชาติสองสัปดาห์ ฮาว ต้องใช้เวลานี้ในการทำการบ้านก่อนเกมใหญ่รับมือ เชลซี
แนวรับที่ไม่มี สเวน บ็อทมัน, แดน เบิร์น, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ แดนกลางที่ไม่มี ชอน ลองสต๊าฟฟ์, ซานโดร โตนาลี่ (ติดโทษแบนยาว) และแนวรุกที่ไม่มี คัลลัม วิลสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, เจค็อบ เมอร์ฟี่, เอลเลียต แอนเดอร์สัน
ในรายชื่อแมตช์เดย์เกมกับ เชลซี ฮาว ต้องใส่ชื่อผู้รักษาประตูถึง 3 คน และระดมนักเตะดาวรุ่งจากทีมเยาวชนหลายคนเข้ามาอยู่ในทีม
เบน พาร์กินสัน (18 ปี), ไมเคิ่ล เอ็นดีเวนี่ (19 ปี), อเล็กซ์ เมอร์ฟี่ (19 ปี), อามาดู ดิยาลโล่ (20 ปี) และคนที่ได้รับโอกาสทองคือ ลูอิส ไมลี่ย์ กองกลางวัย 17 ปี ที่ได้ลงตัวจริง
ไมลี่ย์ มีผลงานยอดเยี่ยม ทำหนึ่งแอสซิสต์ จากประตูแรกของ อเล็กซานเดอร์ อีซัก ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+3 ในชัยชนะเหนือ เชลซี 4-1
แม้อายุอานามน้อยกว่าเพื่อน แต่ ไมลี่ย์ ผ่านการลงตัวจริงมาแล้ว 2 เกมในฤดูกาลนี้ ครั้งแรกคือเกมคาราบาว คัพ ที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอีกเกมในพรีเมียร์ลีกที่บุกแพ้ บอร์นมัธ
เรื่องประสบการณ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี จึงสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนกว่าจะถึงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม ไมลี่ย์ นี่แหละที่ถูกวางเอาไว้ว่าจะเข้ามาแทนที่ โตนาลี่ ที่ติดโทษแบนยาวไปจนถึงต้นฤดูกาลหน้า จากข้อหาเล่นพนันตอนค้าแข้งอยู่ในอิตาลี
แต่หาก นิวคาสเซิ่ล ไม่ประสบความสำเร็จในการเสริมทัพช่วงตลาดหน้าหนาว ฮาว ก็สามารถเชื่อมือกองกลางวัย 17 ปีได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าพร้อมสำหรับทีมชุดใหญ่แน่นอน

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด